บางคนใช้โทรศัพท์โดยที่แทบจะไม่ได้มีการปิดหรือเปิดเครื่องใหม่หรืออย่างน้อยก็คือการรีสตาร์ตโทรศัพท์สักหน่อย ซึ่งอันทีจริงแล้วมันเป็นขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อรักษาความเร็วของโทรศัพท์ อย่างไรก็ตาม แค่สัปดาห์ละครั้งตามที่หลายๆ คนแนะนำ อาจไม่เพียงพอ นอกจากนี้ คุณอาจต้องอัปเดตแอปพลิเคชันและเวอร์ชันใหม่ของ Android หากโทรศัพท์ของคุณมีหน่วยความจำเหลือน้อย ทั้งนี้การอัปเกรดใหม่อาจส่งผลเสียมากกว่าผลดีกับอุปกรณ์ของคุณ

วันนี้พวกเราเพลินเเพลินก็เลยเอาวิธีการอย่างน้อย 8 วิธีที่จะเรียกว่าเป็นเคล็ดลับที่สามารถเพิ่มความเร็วของโทรศัพท์ของคุณและยืดอายุการใช้งานได้เลยก็ว่าได้มาลองไปด้วยกันเลย

อันแรกเลยเอาแบบง่ายๆกับการรีสตาร์ตโทรศัพท์ของคุณ 3 ครั้งต่อสัปดาห์

© East pop

ต้องบอกว่าในโทรศัพท์นั้นมีสิ่งที่เรียกว่า RAM (หน่วยความจำนั้นแหละ) ของโทรศัพท์ของเราซึ่งมันจะเต็มและเต็มมากขึ้นเมื่อเราใช้และดาวน์โหลดแอปพลิเคชันใหม่ๆ หรือเปิดดูอะไรก็ตามต่อไปเรื่อย ซึ่งทางออกง่ายเลยที่จะช่วยในการเพิ่มพื้นที่ว่างเพื่อให้โทรศัพท์ของเราทำงานเร็วขึ้นคือการรีสตาร์ตเครื่อง อย่างน้อยก็สักครั้งก็ยังดีแต่ถ้าใครขยันหน่อยก็ทำสัก 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ด้วยวิธีนี้ แรมทั้งหมดจะถูกทำให้กลับมาพร้อมใช้งาน และคุณสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ เพื่อให้ง่ายขึ้น คุณสามารถตั้งค่าการรีสตาร์ตอัตโนมัติสำหรับวันและเวลาที่คุณต้องการโดยใช้เมนูการตั้งค่าของคุณ
เราอยากให้คุณอัปเดตแอปพลิเคชันของคุณโดยใช้ Wi-Fi เท่านั้น

© Depositphotos.com

อาจจะมองว่าไม่เกี่ยวอะไรเลยกับการอัปเดตเพราะไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่คุณไม่ควรทำเมื่อคุณใช้อินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ของคุณ นั่นเป็นเพราะว่าแอปพลิเคชันจำนวนมากมีขนาดใหญ่เกินไปและกินข้อมูลของคุณอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพของโทรศัพท์ของคุณช้าลง ทั้งนี้คุณสามารถแก้ไขได้โดยไปที่การตั้งค่าและเลือก Wi-Fi เป็นวิธีเดียวในการอัปเดตแอป เป็นการดีที่สุดที่ไม่ควรใช้ข้อมูลของคุณเพื่ออัปเดตแอปที่มีขนาดเกิน 100 MB

อีกเหตุผลหนึ่งที่คุณอาจต้องการใช้ข้อมูลให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก็คือ มันมักจะทำให้อุปกรณ์ของคุณทำงานช้าลง ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยู่ห่างจาเสาสัญญาณหรือวัสดุของผนังในบ้านของคุณไกลแค่ไหน ข้อมูลมักจะทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น ไม่เพียงแต่คุณต้องใช้เวลาในการทำงานเป็นสองเท่าเท่านั้น แต่โทรศัพท์ของคุณต้องใช้ความพยายามมากขึ้น ดังนั้นจึงทำให้ใช้แบตเตอรี่ได้มากขึ้น

หากคุณกำลังใช้หน้าจอแอมเบียนท์ หรือโหมดสีดำเราอยากให้ปิดมัน

นี่เป็นคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมที่ช่วยให้คุณดูการแจ้งเตือนของคุณได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องปลดล็อกหน้าจอ อย่างไรก็ตาม แบตเตอรี่ของคุณจะหมดเร็วกว่าการตั้งค่าอื่น ๆ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของโทรศัพท์ของคุณในระยะยาว ไม่เพียงเท่านั้น แต่หน้าจอแอมเบียนท์จะเปิดอยู่เสมอ แม้ในขณะที่คุณกำลังชาร์จโทรศัพท์ ซึ่งเป็นการดำเนินการที่อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะเสร็จ
ลองเปิดใช้งานโปรแกรมรักษาข้อมูลใน Chrome

ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้โทรศัพท์มือถือประมาณ 90% ไว้วางใจ Chrome ในการท่องเว็บ และนั่นเป็นสาเหตุที่การตั้งค่าการประหยัดข้อมูลสามารถช่วยเราได้ นั่นเป็นเพราะการตั้งค่านี้บีบอัดหน้าเว็บที่เราดู 30% และวิดีโอที่เรากำลังดูอยู่ 50% ดังนั้นเราจึงใช้ข้อมูลน้อยลงและสามารถท่องอินเทอร์เน็ตได้เร็วขึ้นมาก สิ่งที่คุณต้องทำคือไปที่การตั้งค่าของ Chrome และเปิดใช้งานคุณสมบัติการประหยัดข้อมูล

ถ้าเครื่องคุณมี Ram หรือหน่วยความจำขนาดเล็กน้อยมากมากละก็ ลองทำความสะอาดหน่วยความจำระบบหลายครั้งในระหว่างวัน

เพราะโดยปกติ ระบบ Android จะปิดกระบวนการที่ไม่จำเป็นด้วยตัวเอง แต่นี่คือสิ่งที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง การล้างหน่วยความจำระบบของคุณบ่อยเท่าที่คุณต้องการในระหว่างวันจะช่วยเพิ่มความเร็วของโทรศัพท์ของคุณต่อไป นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชันที่สามารถจัดการสิ่งนี้เพื่อคุณ แต่พวกมันกินพื้นที่และบางครั้งก็ทำให้แบตเตอรี่หมด นั่นคือเหตุผลที่การล้างข้อมูลด้วยตนเองจะทำให้โทรศัพท์ของคุณเร็วขึ้นได้แม่นยำกว่าแอปใดๆ

ลองมองหาและติดตั้งแอปพลิเคชันรุ่นไลท์

© stevanovicigor
แม้แต่โทรศัพท์รุ่นใหม่ก็ยังประสบปัญหาในการประมวลผลแอปพลิเคชันที่มีหน่วยความจำมาก ซึ่งส่งผลต่อความเร็วของโทรศัพท์ของคุณ นั่นเป็นสาเหตุที่แอปรุ่นไลท์สามารถให้ประสิทธิภาพแก่คุณได้โดยไม่ทำให้คุณช้าลง นั่นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งหากโทรศัพท์ของคุณเก่าไปหน่อย และหน่วยความจำของโทรศัพท์ใกล้จะเป็นศูนย์ รุ่นความจำน้อยเหล่านี้บางรุ่นสามารถรองรับโทรศัพท์ที่มี RAM ต่ำได้ถึง 1GB

อย่าอัปเดตและอัปเกรดมากเกินไป

© Geewon

นี้อาจฟังดูไม่ปกติ แต่ถ้าโทรศัพท์ของคุณไม่ใช่แบรนด์ใหม่ เวอร์ชันใหม่ การอัพเกรดจะทำให้ช้าลง นอกจากนี้ หากหน่วยความจำของคุณใกล้เต็ม การอัปเดตให้หนักขึ้นจะส่งผลเสียต่อความเร็ว จำไว้ว่าคุณสามารถใช้ Android ของคุณต่อไปได้โดยไม่ต้องอัปเดต ซึ่งข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือคุณจะไม่ได้รับคุณสมบัติใหม่ ดังนั้นหากคุณต้องการเพียงแค่พื้นฐาน คุณแค่สละสิ่งใหม่ๆ สองสามอย่าง

ลองทำดูแล้วคุณจะได้รู้ว่าเครื่องของเรายังใช้งานได้อีกสักระยะเลยนะ
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน