12 เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับรูปปั้นที่มีชื่อเสียงระดับโลก

พฤศจิกายน 11, 2020

เราสามารถค้นหาความหมายที่ซ่อนอยู่ และรายละเอียดที่น่าสนใจมากมายเกี่ยวกับงานศิลปะทุกชิ้น เช่น ศิลปินที่มีความเชี่ยวชาญในการวาดภาพ หรือผู้สร้างสรรค์เพลงและภาพยนตร์ แต่บางครั้งงานศิลปะก็ไม่ได้มีที่มาที่น่าสนใจทำให้ประติมากรรมขาดความน่าสนใจในการสร้าง แต่อย่างไรก็ตามที่มาและประวัติของรูปปั้นที่มีชื่อเสียงนี้สามารถสร้างความประทับใจให้ผู้ชมได้

พวกเราต้องการแบ่งปันความลับเกี่ยวกับรูปปั้นที่มีชื่อเสียงต่อไปนี้ให้เพื่อนๆของเราได้อ่านเพลินเพลินและมีความรู้ไปด้วย

1. อาจมีคนเรียกรถพยาบาลเพื่อช่วยคนไร้บ้าน

รูปปั้นต้นแบบตั้งอยู่ที่เมืองโตรอนโต แต่ในปัจจุบันคุณสามารถพบเห็นรูปปั้นที่เหมือนกันนี้ในที่อื่นๆ ได้ทั่วโลก ตัวอย่างเช่น สำนักงานการกุศลของสมเด็จพระสันตะปาปาที่นครวาติกัน นอกจากนี้ที่บริเวณใกล้โบสถ์หลายแห่ง มักมีรูปปั้นแบบนี้ที่ดูสมจริงจนผู้คนสับสน และพวกเขาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนจริงๆมานอนหลับตรงม้านั่งนี้ อย่างเช่นเหตุการณ์ที่เมืองแฮมิลตันในช่วงที่มีพายุน้ำค้างแข็งรุนแรง ผู้คนที่ห่วงใยคนไร้บ้านเลยโทรเรียกรถพยาบาลฉุกเฉินหลายต่อหลายครั้งเพราะเข้าใจผิดว่ารูปปั้นนั่นคือคนไร้บ้านที่นอนหลับอยู่จริงๆ

2. รูปปั้นเนเฟอร์ติติไม่ได้มีตาข้างซ้าย

มีความเชื่อกันว่าผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของศิลปะอียิปต์โบราณชินนี้นั้นทำขึ้นเพื่อเอาใจภรรยาของฟาโรห์ เพราะรูปปั้นของเธอดูสมมาตรเกินไป ข้อยกเว้นอย่างเดียวคือดวงตาของเธอเพราะมีดวงตาข้างหนึ่งในนั้นหายไป และนักโบราณคดีที่ค้นพบรูปปั้นนี้กล่าวว่า มันคือความตั้งใจที่จะสร้างแบบนี้เพราะไม่พบร่องรอยว่าเคยมีดวงตาข้างนั้นอยู่

เหตุผลที่แน่ชัดว่าทำไมช่างแกะสลักโบราณถึงรักษาข้อบกพร่องนี้ก็ไม่มีใครทราบได้ แต่นักวิทยาศาสตร์หลายคนก็ได้นำเสนอข้อสันนิษฐานมากมายแต่ยังไม่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป

รูปนั้นนี้เป็นตัวแทนของเนฟอร์ติติ และดวงตาจะถูกเพิ่มเข้ามาหลังจากการจากไปของเนเฟอร์ติติ เพราะเชื่อว่าดวงตา 2 ข้างเป็นส่วนหนึ่งของมนุษย์และมีความหมายสำหรับ “การทำให้คืนชีพ” พวกเขาหลังจากกจากไป
รูปปั้นนี้เป็นสื่อที่ใช้ในการสอนในโรงฝีมือของช่างปั้นและแกะสลัก ซึ่งผลงานชิ้นนี้ยังไม่สมบูรณ์ และเหลือเพียงการใส่ดวงตาอีกข้าง
ในระหว่างกระบวนการสร้างรูปปั้นเนเฟอร์ติติ ฟาโรห์หมดความหลงใหลในตัวเธอ ทำให้งานประติมากรรมชิ้นนี้ไม่สำเร็จ
ซาริน่ามีอาการป่วยทางตา

3. รูปปั้นลิซซี่ กูซ (Goose Lizzy) ที่มหาวิทยาลัยเกิททิงเงิน (Göttingen University) เชื่อว่าเป็นรูปปั้นเด็กหญิงที่ได้รับการจุมพิตมากที่สุดในโลก

การเป็นนักศึกษาใหม่ที่มหาวิทยาลัยเกิททิงเงินต้องผ่านประเพณีจุมพิตรูปปั้น Lizzy Goose อย่างไรก็ตามประเพณีค่อนข้างรบกวนผู้อยู่อาศัยโดยรอบจึงได้ประกาศห้ามมิให้ทำอย่างนั้นกับรูปปั้นอย่างเป็นทางการ แต่นักศึกษาหลายคนยังคงเพิกเฉยต่อกฎข้อนี้

4. รูปปั้นวัวกระทิงถูกยึดโดยแล้ว

ในเดือนธันวาคม ปี 2532 ประติมากรอาร์ตูโรดิ โมดิก้า ได้นำงานศิลปะของเขามาติดตั้งไว้ที่ด้านหน้าของตึกตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก และตั้งมันไว้เป็นของขวัญวันคริสต์มาสให้กับผู้อยู่อาศัยในเมือง เพราะในขณะนั้นไม่ค่อยมีงานศิลปะตามถนนศิลปะ จึงเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดาทำให้ผู้คนความสนใจ และรูปปั้นวัวกระทิง ของเขาก็ได้รับความนิยมอเป็นย่างมาก เนื่องจากอาร์ตูโร ติดตั้งรูปปั้นโดยผิดกฎหมายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ตำรวจจึงทำการยึด

แต่แล้วรูปปั้นวัวกระทิงก็กลับมาหลังจากที่ผู้คนเริ่มแสดงความไม่พอใจ แต่มันถูกติดตั้งห่างออกไป 2 ช่วงตึกจากบริเวณตึกตลาดหลักทรัพย์

อย่างไรก็ตามเมื่อรูปปั้นที่ชื่อว่า Fearless Girl ปรากฏตัวต่อหน้ารูปปั้นวัวกระทิงของอาร์ตูโร ทำให้เขารู้สึกไม่ดีเพราะไม่ได้มีการตกลงกันมาก่อน ดังนั้นต่อมารูปปั้นของหญิงสาวจึงถูกย้ายไปอยู่ที่อื่น

5. ผู้ออกแบบ Microsoft Xbox 360 ได้รับแรงบันดาลใจจากประติมากรรมที่ชื่อว่า Bird in Space

คอนสแตนติน บรังคูซี ศิลปินชาวเยอรมนีผู้สร้าง Bird in Space กล่าวว่าประติมากรรมเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์แห่งการหลบหนีจากชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ผู้สร้าง Xbox เองก็ได้รับแรงบันดาลใจจาก Brid in Space และมันก็สร้างออกมาได้สวยมากจริงๆ

6. รูปปั้นหมาป่าคาพิโตไลน์ ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นในสมัยโบราณ

รูปปั้นหมาป่าของผู้ก่อตั้งกรุงโรมเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในสมัยโบราณ และเชื่อกันว่ามันถูกสร้างขึ้นราวๆ ช่วงก่อนคริสต์ศักราช ในขณะที่รูปปั้นโรมูลัสและรีมัสถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 (รูปปั้นของโรมุลุส และ แรมุส เป็นบุคคลในเรื่องปรัมปราเกี่ยวกับการก่อตั้งกรุงโรม ทั้งสองเป็นบุตรชายฝาแฝด) อย่างไรก็ตามหลังจากการวิจัยเมื่อไม่นานมานี้ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า “รูปปั้นหมาป่า” นั่นแท้จริงแล้วถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค. ศ. 1021 ถึง 1673

7. Fallen Astronaut รูปปั้นบนดวงจันทร์แท้จริงแล้วไม่ได้มีเพื่อระลึกถึงเหล่านักอวกาศที่จบชีวิตไป

งานศิลปะขนาดเล็กเพียงชิ้นเดียวที่อยู่บนดวงจันทร์ถูกนำไปแสดงเพื่อไว้อาลัยถึงนักบินอวกาศที่จากไปทั้งหมดในช่วงเวลานั้น จากภาพจะเห็นแผ่นที่อยู่ติดกันคือรายชื่อของผู้ที่จบชีวิตลง แต่ศิลปินผู้สร้างผลงานศิลปะชิ้นนี้ไม่พอใจมากเมื่อเขาได้รู้ว่างานประติมากรรมของเขาได้รับการตั้งชื่อว่าอะไรและมีความหมายอย่างไร ทำให้เขาต้องออกมาประกาศในการสัมภาษณ์ว่ารูปปั้นตุ๊กตานักบินอวกาศควรอยู่ในท่ายืน เพื่อแสดงถึงสัญลักษณ์ของมนุษยชาติทั้งหมด

8. แท่นวางขนาดใหญ่ที่อยู่ท่ามกลางจัตุรัสหลักของสหราชอาณาจักรถูกรักษาไว้เพื่อแสดงงานพิเศษต่างๆ

แหล่งท่องเที่ยวหลักในลอนดอนคือจตุรัสทราฟัลการ์ มีแท่น 4 แท่นตามที่สถาปนิกออกแบบมาเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานของคนอังกฤษที่มีชื่อเสียง 3 แท่นมีรูปปั้นของกษัตริย์จอร์จที่สี่ นายพลเฮนรี แฮฟร๊อค และชาร์ลส์เจมส์เนเปียร์

ส่วนประติมากรรมบนแท่นที่สี่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ในความเป็นจริงแล้วมันอาจมีไว้สำหรับรูปปั้นแห่งความทรงจำของ Elizabeth II Nelson Mandela, Margaret Thatcher หรือ Marshal Park ก็เป็นได้

9. ไมเคิล แองเจด ได้ระบุชื่อของเขาบนรูปปั้นปิเอเต

ไม่บ่อยนักประติมากรที่มีชื่อเสียงต้องระบุชื่อตนบนผลงาน และผู้คนเชื่อกันว่าไมเคิลทำเช่นนี้เพราะเขาได้ยินผู้เข้าชมทะเลาะกันว่าใครคือศิลปินผู้สร้างรูปปั้นกันแน่

10. รูปปั้น Genius of Evil ถูกแทนที่เพราะมันน่าดึงดูดจนเกินไป

หนึ่งในงานศิลปะที่โด่งดังที่สุดคือ The Genius of Evil ตั้งอยู่ในมหาวิหารเซนต์พอลที่เมืองลีแยฌ (Liège) รูปปั้นลูซิเฟอร์ที่ถูกมัดและกำลังร้องไห้เพื่อให้ระลึกถึงความผิดบาปและการกลับใจ รูปปั้นนี้ถือเป็นงานศิลปะที่โดดเด่น ที่มีถึงสองรูปปั้น 2ตัวที่ต่างกัน

The Genius of Evil ตัวแรกนั้นดื้อรัน กล้าหาญและดูน่าดึงดูดมากในหมู่ผู้หญิงที่มาโบสถ์เพื่อสวดภาวนา ทำให้มีการพิจารณาหลายครั้งเกี่ยวกับรูปปั้นตัวแรก และมันจึงถูกแทนที่ด้วยรูปปั้นตัวที่ 2 ที่เหมาะสมมากกว่า ซึ่งรูปปั้นใหม่นี้มีรายละเอียดใหม่ ๆ เช่น โซ่ และแอปเปิลที่ถูกกัดแล้ววางบริเวณเท้าซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการลงโทษและบาป และท่าทางของรูปปั้นตัวที่ 2 ก็เปลี่ยนแปลงด้วย

11. การเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับรูปปั้น Manneken Pis กลายเป็นพิธีกรรมที่ยิ่งใหญ่

สัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของบรัสเซลส์คือการเปลี่ยนชุดใหม่เป็นประจำ ตั้งแต่ปี พ. ศ. 2497 สมาคมที่เรียกว่า “The Friends of Manneken-Pis” ได้รับผิดชอบในพิธีกรรมนี้ และหน้าที่ของพวกเขาคือการเลือกชุดอย่างระมัดระวังเนื่องจากมีข้อเสนอหลายร้อยรายการที่พวกเขาได้รับทุกปี ทั้งนี้ตารางการเปลี่ยนชุดจะแขวนอยู่บนราวใกล้กับรูปปั้น การเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่ละครั้งเป็นพิธีที่มีสีสันที่จัดขึ้น นอกจากนี้เสื้อผ้าของ Manneken Pis ถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์พิเศษและการจัดแสดงเป็นคอลเล็กชันย้อนไปถึงศตวรรษที่ 17

12. ชาวคาทอลิกที่เมืองริโอเดอจาเนโรต้องช่วยกันเก็บก้อนหินของรูปปั้นพระคริสต์ผู้ไถ่บาป Christ the Redeemer