สำหรับเพื่อนของเราบางสิ่งบางอย่างมันอาจจะดูง่ายดายอย่างเช่นการเล่นกีฬาหรือการออกไปทำกิจกรรมต่างๆบางคนสามารถร้องเพลงหรือเต้นรำได้อย่างสวยงามทั้งยังจดจำท่าทางต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ พวกเค้าล้วนทำสิ่งเหล่านี้อย่างสนุกสนานเพราะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ช่วยผ่อนคลายจากการทำงานในแต่ละวันนั้นเอง แต่วันนี้เราไม่ได้จะมาพูดถึงเรื่องราวสนุกสนุกเหล่านั้นแต่เราจะขอพูดถึงเรื่องราวที่จริงจังกันสักหน่อยนั้นก็คือ เรื่องของการทำงานหาเลี้ยงตัวเองนั้นแหละที่การหางานใหม่เป็นเรื่องที่หนักมากจริงๆ และเมื่อคุณอยู่ในการสัมภาษณ์งาน คุณคาดหวังไม่ให้มีสิ่งประหลาดเกิดขึ้น แต่บางเรื่องก็ไม่สามารถควบคุมได้อีกทั้งบางแห่งยังมีเทคนิคการสัมภาษณ์งานที่ไม่เหมือนใครซึ่งเพื่อนของเราที่ได้เข้ารับการสัมภาษณ์งานในครั้งนั้นต้องจดจำไปตลอดอย่างแน่นอน
เพราะมันเป็นเหตุการณ์ที่เพื่อนเพื่อนของเราคิดว่ามันไม่ธรรมดาเลยสำหรับการสัมภาษณ์งานดังนั้นจึงมีการส่งต่อเรื่องราวเหล่านี้ซึ่งเมื่อพวกเราได้อ่านแล้วก็คิดว่าบางเรื่องมันช่างน่าสนใจจริงๆและอยากให้เพื่อนเพื่อนได้อ่านไว้เพื่อว่าเจอแบบนี้เข้ากับตัวจะได้ตั้งสติกันได้ทันยังไงละ
หรือเส้นสายจะมีอยู่จริง
ครั้งหนึ่งในระหว่างการสัมภาษณ์งานของเราเองซึ่งเป็นรอบที่สองหลังจากผ่านข้อเขียนมาแล้ว หลังจากที่ได้คุยกับหัวหน้างานแล้วดุเหมือนว่าเค้าจะชอบเราพอสมควร และหลังจากคุยกันได้สามสิบนาทีในที่สุดเค้าก็ตกลงที่จะรับเราเข้าทำงาน แต่ในระหว่างที่เรากำลังอ่านเอกสารการเข้าทำงานอยู่จู่ๆก็มีพนักงานที่ดูเหมือนฝ่ายบุคคลเดินเข้ามาและยื่นโทรศัพท์ให้เค้าบังเอิญเราแอบได้ยินว่าเค้าพูดถึงตำแหน่งงานที่ว่างอยู่นี้แหละแต่ก็ไม่ชัดเท่าไหร่ ซึ่งพอว่างสายเค้าก็มาพูดกับเราว่า “ผมขอโทษ แต่ผมลืมไปว่าตำแหน่งนี้เต็มไปแล้ว และเรายังมีตำแหน่งอื่นว่างอยู่อีกคุณสนใจจะทดสอบตำแหน่งเหล่านั้นไหม” เรานิ่งไปครู่หนึ่งแต่ก็ตอบตกลงที่จะลองทดสอบอีกครั้งซึ่งกลายเป็นว่ามันเป็นตำแหน่งที่ไม่เกี่ยวกับงานที่เราเคยทำเลย และแน่นอนว่าเราไม่ได้เข้าทำงานที่นั้นถึงต่อมาเราจะได้เข้าทำงานที่อื่น แต่ก็ยังเก็บคำถามในใจไว้ว่าโทรสายนั้นมันคือการฝากงานในตำแหน่งที่เรากำลังจะได้รับหรือเปล่านะ
ยังสนุกกันอยู่ไหม
ด้วยความสะดวกสบายของเทคโนโลยีทำให้ตอนนี้เราสามารถสัมภาษณ์งานผ่านนทางวิดีโอแชท กันได้แล้วและมีครั้งหนึ่งที่เราได้คุยกับทีมงานของบริษัทนั้นด้วยซึ่งการที่เอาทีมงานเข้ามาพูดคุยทำให้เราได้เห็นถึงเนื้องานและคำถามที่เกิดจากงานจริงซึ่งเราก็คุยกันอย่างสนุกสนาน จนในตอนท้ายมีการเปิดโอกาสให้ถามคำภามกลับได้ แต่เมื่อเราถามไปว่า: “ทุกคนยังสนุกกับการทำงานที่นี่ไหม” ทุกคนในทีมเงียบและมองหน้ากันแบบที่เรารู้สึกได้ก่อนจะมีคนหนึ่งตอบกลับมาว่ามันก็ยังมีอยู่บ้างช่วงต้นเดือนกับปลายเดือน แล้วแบบนี้เราจะลองเข้าไปทำงานดีไหมนะ
ทำงานส่วนตัวก็ได้เหรอ
เมื่อนานมาแล้วตอนที่เราเพิ่งเรียนจบใหม่ เราได้ลองไปสมัครในตำแหน่งผู้ช่วยธุรการ ซึ่งพอไปถึงกลายเป็นว่าไม่มีคำถามอะไรเลยที่เกี่ยวข้องกับงานตอนสัมภาษณ์เขาก็ถามเกี่ยวกับการดูแลเด็ก และถามถึงว่าเราสามารถเดินทางไปทำงานต่างประเทศได้หรือเปล่า ซึ่งกลายเป็นว่าเค้าต้องการผู้ช่วยไปค่อยดูแลลูกๆของเค้าตอนออกไปทำงาน แต่กลับใช้ตำแหน่งผู้ช่วยส่วนตัวเพื่อเบิกงบจากบริษัทแทน แบบนี้ก็ได้เหรอ
นากช่วยไว้
ในการสัมภาษณ์กับบริษัท Tech Startup พวกเขาถามคำถามสุดท้ายกับเราว่า “ถ้าคุณเป็นสัตว์ได้ คุณจะเป็นสัตว์อะไร” เราตอบว่า “นาก” เพราะมันดูสนุกสนาน เคลื่อนที่คล่องแคล่ว สามารถใช้มือทำงานได้ดี และน่ารัก จากนั้นพวกเขาก็เริ่มพูดกันเกี่ยวกับว่านาคมันจัดอยู่ในกลุ่มไหน เราฟังแล้วก็งงเลยถามไปว่าคุณจัดกลุ่มของสัตว์เพื่ออะไร ซึ่งคำตอบก็คือเราจ้างพนักงานจากสัตว์ที่เป็นนักล่าแต่ไม่มีใครรู้จักนาคดีพอว่ามันอยู่ในกลุ่มไหนไว้เราจะโทรกลับไปแจ้งผลคุณอีกครั้งหลังจากได้ข้อสรุปนี้แล้วกันนะ เราเดินออกมาพร้อมกับคิดไปด้วยว่าคงไม่เลือกที่นี้เพราะขนาดสิ่งที่เป็นคำถามที่ต้องการแต่เค้าก็ยังแยกคำตอบที่ต้องการไม่ได้แล้วแบบนี้เรื่องอื่นจะขนาดไหนกันนะ
ดีที่ถามซ้ำ
ในการสัมภาษณ์กับหัวหน้างานโดยตรงที่เราจะต้องทำงานภายใต้การดูแลของเค้า ซึ่งเราก็ถามตอบกันไปมาด้วยเนื้อหาของงานซึ่งมีบ้างว่าเราอาจจะคิดเห็นไม่ตรงกัน จนกระทั้งเค้าน่าจะเริ่มเบื่อและหัวหน้าท่านนั้นก็ถามคำถามสุดท้ายแต่เค้าพูดเร็วมากมากจนเราฟังไม่ทันเราก็เลยขอให้เค้าทวนคำถามอีกครั้ง ซึ่งจู่ๆเค้าก็ทำท่าทางไม่พอใจมากมากแล้วก็บอกว่าจะไม่ถามซ้ำอีกแล้วก็เดินออกไป ซึ่งเรากลับรู้สึกดีมากมากที่ไม่ได้เข้าทำงานกับหัวหน้าแบบนี้เพราะมันคงน่าเบื่อมากมากเลย
แล้วเพื่อนเพื่อนละคุณเคยมีการสัมภาษณ์งานครั้งไหนที่อยากจะเล่าให้เราได้ฟังกันบ้างหรือเปล่าอย่ารอช้าเลยส่งมาให้เราได้อ่านกันเพื่อนแบ่งปันประสบการณ์และรอยยิ้มให้เพื่อนเพื่อนของเราด้วยสิ
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน
