11 เรื่องเล่าประสบการณ์ฮาฮาที่ยากจะลืมเลือน

ที่เพลินเพลินเรามีอะไรก็มาเล่าสู่กันฟัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน่ายินดี หรือ อาจจะเป็นเรื่องราวประสบการณ์ฮาๆ ที่ทุกคนต่างมีช่วงเวลาน่าอึดอัดที่ต้องเผชิญผ่านมาในอดีต และเราก็เชื่อว่าอย่างน้อยแทบทุกคนคงต้องมีสักหนึ่งครั้ง และแม้ว่ามันผ่านไปนานแล้ว บางครั้งมันก็วนกลับเข้ามารบกวนจิตใจเรา ทำให้เรารู้สึกคิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้นขึ้นมาบ้าง และก็ต้องนึกขำขึ้นมาทุกครั้งที่ได้ย้อนไปคิดถึงเรื่องราวเหล่านั้น

พวกเราจะแสดงให้เพื่อนเพื่อนได้เห็นว่าคุณไม่ใช่คนเดียวที่ต้องเผชิญเรื่องราวน่าอึดอัดใจแต่ก็ฮาทุกครั้งที่กลับมาเล่าให้ใครสักคนได้ฟัง ดังนั้นมารับรู้เรื่องราวเหล่านี้ไปด้วยกัน

    เรื่องแรกที่อื่นดีกว่า

ครั้งหนึ่งในอดีตตอนที่เราและแฟนเพิ่งเริ่มคบหากันมีอยู่ครั้งหนึ่งเราไปเดทกันที่โรงหนังใกล้ๆ บ้านซึ่งหนังเรื่องที่เราเลือกไปดูนั้น เป็นหนังที่มีเนื้อเรื่องที่ค่อยสร้างเรื่องราวที่ทำให้เราต้องกรี๊ด อยู่ตลอดเวลาแต่สิ่งที่ทำให้เราจำเรื่องนี้ได้ก็คือ มีเราคนเดียวที่ร้องเสียงดังตั้งแต่เริ่มเรื่องจนไปถึงตอนท้ายเรื่อง ซึ่งคนข้าง ๆ น่าจะไม่อยากฟังเสียงเราเพราะเมื่อถึงตอนจบไฟเปิดขึ้นแล้วปรากฏว่าที่นั่งรอบรอบเราว่างหมด เพราะทุกคนขยับไปนั่งที่อื่น ๆ น่าจะเพราะเราเสียงดังตลอดเวลานั้นเอง

    เรื่องที่สองวันเกิดแต่ไม่ใช่เดือนเกิด

ครั้งหนึ่งเราเคยโทรไปอวยพรวันเกิดเพื่อนสนิทซึ่งเราเตรียมสั่งให้ของไปส่งแบบตรงวันนั้นพอดีด้วย แต่พอเราคุยไปสักพักเพื่อนก็บอกว่า “วันนี้เป็นวันเกิดเราแต่เดือนนะไม่ใช่นะ มันต้องเป็นเดือนหน้า” ซึ่งพอได้ยินแบบนั้นเรานึกขึ้นได้ว่ามันผิดเดือนจริง ๆ แต่เราก็ยังไม่ยอมว่าเราจำวันผิด เราจึงพยายามโน้มน้าวให้เพื่อนยอมรับว่าวันนั้นคือวันเกิดของเค้าซึ่งนั้นต้องใช้เวลานานมากมากกว่าเพื่อนเราจะยอมเปลี่ยนเดือนมาเกิดในเดือนนั้นให้เรา จนตอนนี้พวกเรายังคงหัวเราะกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในวันนั้นอยู่เลย

    เรื่องที่สามยิ่งดึงวิ่งห่าง

    คนข้างในน่าจะพยายามค่อยๆดึงกระดาษแล้วแต่มันก็ยังกลิ้งไปเรื่อย ๆ ต่อไป ยังดีที่เรามาเห็นและหยิบให้

เรื่องที่สี่เรายังอยู่

วันแรกของการมาทำงาน พอสิ้นวันฉันก็ไปเข้าห้องน้ำ แต่อาจจะนานไปสักหน่อยเพราะพอเสร็จธุระ ปรากฎว่าห้องน้ำถูกล็อคเอาไว้และก็ดูเหมือนทุกคนจะกลับกันไปหมดแล้วด้วย เราเลยโทรหาสามี และ สามีเราก็โทรเรียกเจ้าหน้าที่และคนอื่นๆ ที่คิดได้ว่าพอจะให้มาช่วยเราออกไปได้ สรุปวันนั้นมีคนเกือบสิบคนมาอ้อกันหน้าที่ทำงานใหม่เราเพื่อมาช่วยให้เราออกจากห้องน้ำ แต่ก็ไม่มีใครเข้ามาในตึกได้เพราะมันล็อคอยู่ จนกระทั้งมีคนที่ทำงานย้อนกลับมาเพื่อมาช่วยเปิดประตูให้เราหลังจากนั้น ทุกคนในบริษัทก็รู้จักเราโดยที่ไม่ต้องแนะนำตัวเลย

เรื่องที่ห้าชัดเจนมาก

    ชัดเลยใช่ไหมละว่าผมอยู่คนเดียวววว

เรื่องที่หกหอมแน่แน่

ตอนผมเป็นเด็ก มีอยู่ครั้งหนึ่งผมไปเล่นที่บ้านของเพื่อนผู้หญิงข้าง ๆ บ้าน ระหว่างที่เราพักจากการวิ่งเล่นในสวนเราก็เข้าไปทานขนมกัน ซึ่งเรารีบทานมากจนมีขนมติดอยู่ที่แก้มของเราโดยไม่รู้ตัว ซึ่งตอนนั้นเองพ่อแม่ของเพื่อนเราก็สกิดเพื่อนเราให้บอกว่ามีขนมติดอยู่ที่แก้มของเรา แต่เสียงเพลงดังมากเราฟังไม่ค่อยได้ยิน เธอเลยทำท่าทางเอามือมาชี้ที่แก้มของเธอ ซึ่งเราก็ไม่เข้าใจแต่ก็นึกขึ้นได้ว่าท่านั้นเป็นท่าทางเดียวกับที่แม่บอกให้เราหอมก่อนจะเข้านอน เราเลยเดินไปหอมเพื่อนเราและเดินกลับมา หลังจากนั้นทุกคนก็หัวเราะเสียงดัง พอเราเข้าใจเราก็ไม่กล้ามองหน้าเพื่อนเราไปอีกหลายอาทิตย์เลย

    เรื่องที่เจ็ดเข้าใจผิดไปหน่อย

วันแรกที่เราไปเข้ายิม เราแอบไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งสามารถเล่นเครื่องเล่นทุกอย่างซึ่งมันว้าวมาก เราเลยเข้าไปทักทายเธอ พร้อมกับกล่าวชื่นชมที่เธอสามารถออกกำลังกายได้แม้ว่าเธอจะท้อง แต่เธอกลับตอบมาว่า “ฉันไม่ได้ท้อง” ตอนนั้นเราอายมากจริงๆ เลยขอตัวออกไปข้างนอกและไม่กลับไปที่ยิมนั้นอีกเลย

    เรื่องที่แปดยกขึ้นหน่อยนะ

    แม่เล่าว่าตอนแรกน้องแมวกำลังนั่งสวย ๆ สวมสร้อยมุกอยู่แต่พอช่างภาพบอกให้เรายกสร้อยมุกที่คล้องคอเจ้าเหมียวหน่อย เพื่อให้ดูสวยงามแแม่น่าจะยกเยอะไปหน่อยเลยไปติดปากของต้าวทำให้น้องต้องทำปากแบบนี้

เรื่องที่เก้าหั่นแรงไปหน่อย

ในการเดทครั้งแรกกับเพื่อนชายหน้าตาดีคนหนึ่ง ณ ร้านอาหารสุดหรู พวกเราสั่งซี่โครงอบมาทาน และฉันพยายามหั่นมันเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำแต่ปรากฏว่าตอนออกแรงซี่โครงกระเด็นไปอีกโต๊ะนึง และมันตกลงบนตักของผู้หญิงคนหนึ่ง หลังจากวันนั้นไม่แปลกใจเลย ที่ฉันไม้ได้เจอเขาอีกเลยสงสัยเราจะหั่นแรงไปหน่อยเนอะ

เรื่องที่สิบหายตัวได้

มีอยู่ครั้งนึงเราไปเดินเล่นกับเพื่อนสาวตอนกลางคืน ระหว่างที่เรากำลังจะเดินผ่านทางสนามหญ้า แต่แล้วจู่ ๆ เธอก็หายไปเราหันหลังมาก็ไม่พบใครเลยเรายืนงงอยู่สักพักก็ ได้ยินเสียงเธอตะโกนบอกว่า เธอไม่เห็นฉันอยู่ในสายตาแล้วละสิ เราอึ้งไปแต่ก็ตอบกลับไปว่าใช่คุณทำได้ยังไง และเธอก็ตอบกลับมาว่าเดินกลับมาแล้วมองดีดีสิ เราพยายามมองหาจนไปพบว่าเธอตกลงไปในท่อที่เปิดอยู่นั้นเอง

    เรื่องที่สิบเอ็ดคิดไปฝ่ายเดียว

ผมไปทำงานต่างประเทศ แต่ต้องเปลี่ยนไฟท์ก่อนออกเดินทาง พอไปถึงทางขึ้นเครื่องก็เจอเพื่อนข้างบ้าน กับเมียของเพื่อนบ้านอีกหลังนึง ผมตกใจมากแล้วก็ทักเขาไปว่า เอิ่ม.. คุณจะเดินทางไปธุระกันหรอ เออ ผมจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแล้วกันนะ เพื่อนบ้านทำหน้าตาอินโนเซนต์แล้ว พูดว่าอะไร ผมก็พูดประมาณว่า ก็แบบว่าคุณสองคน เอิ่ม… และอยู่ๆสามีของเพื่อนบ้านอีกคนก็เดินมา คือเขาไปเข้าห้องน้ำ … คือเขาจะไปเที่ยวด้วยกัน กลายเป็นเราเองที่คิดไปฝ่ายเดียว

เพื่อนเพื่อนที่ได้อ่านแล้วมีเรื่องแบบนี้ ก็ช่วยแบ่งปันความทรงจำที่ทำให้คุณนึกขำทุกครั้งกับเราด้วยสิ เพราะตอนนี้เราก็สามารถหัวเราะไปกับมันได้แล้วส่งมาได้เลยในเพจของเรานะ

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจากเพื่อนเพื่อนทุกคนนะ เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน