อาการเหนื่อยล้าบริเวณขา บ่งบอกว่าการไหลเวียนของเลือดไปยังบริเวณดังกล่าวไม่เพียงพอ และส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับผู้หญิงและผู้สูงอายุ แน่นอนว่ามีวิธีในการผ่อนคลายและทำให้ขากับเท้ารู้สึกดีขึ้น แต่จะดีกว่าถ้าเราสามารถป้องกันและหยุดอาการเมื่อยล้าโดยเฉพาะในวันที่เราต้องยืนทั้งวัน
พวกเรารวบรวมวิธีต่างๆเพื่อบรรเทาอาการปวดและไม่สบายที่ขาและเท้าของคุณ
1. กด 2 จุดบนฝ่าเท้าของคุณพร้อมๆกัน
การกดจุดดังกล่าว ร่างกายจะปล่อยสารเอนโดรฟิน ซึ่งจะช่วยลดความตึง ความเจ็บปวดและความเหนื่อยล้า จุด 2 จุดที่กล่าวถึง จุดแรกคือ ตั้งอยู่ระหว่างกระดูกที่หนึ่งและที่สองบนเท้าดังแสดงในภาพด้านบน จุดที่สองอยู่ระหว่างกระดูกที่สี่และที่ห้าดังที่แสดงในภาพด้านบน ใช้นิ้วกดที่ 2 จุดนี้พร้อมกันเป็นเวลา 2 นาที การหายใจเข้าออกช้าๆลึกๆในขณะทำสิ่งนี้
2.สร้างความผ่อนคลายให้เท้าด้วยดินสอ
นอกจากนี้ยังมีจุดบริเวณกึ่งกลางของส้นเท้า กระตุ้นจุดนี้ด้วยดินสอเป็นเวลา 30 วินาทีถึง 2 นาที อย่ากดแรงเกินไป หลังจากนั้นสักพักคุณจะรู้สึกโล่งสบาย สามารถทำได้ทั้งสองเท้า
3.ท่าโยคะวีราสนะ
เป็นท่านั่งพื้นฐานที่คุณต้องนั่งบนเข่าของคุณ คุณสามารถเล่นได้ทันทีหลังรับประทานอาหาร:
1.คุกเข่าลง หัวเข่าของคุณควรอยู่ชิดกันสองข้าง และเท้าของคุณควรอยู่ห่างกัน คุณสามารถวางเบาะขนาดใหญ่ไว้เพื่อรองรับ
© depositphotos.com
2.นั่งลงบนเบาะ หากคุณรู้สึกปวดเข่า สามารถเพิ่มระดับของเบาะรองได้ จากนั้นวางมือไว้บนน่อง ค้างไว้อย่างนั้น 2-4 นาที
3.ยืดขาออกไปข้างหน้าสักครู่หนึ่ง ควรระวังและให้แน่ใจว่าก้นของคุณถูกรองด้วยเบาะที่เหมาะสมดีเพื่อลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บ อย่าทำสิ่งนี้หากคุณมีอาการบาดเจ็บทางร่างกาย
4. ป้องกันความเมื่อยล้าโดยใช้ถุงน่องหรือถุงเท้าแบบพิเศษ
© ebay.com
ปัจจุบันมีตัวเลือกมากมายสำหรับการใช้ถุงน่องและถุงเท้า ที่มีลักษณะเหมือนกับถุงเท้าทั่วไป แต่พวกมันช่วยป้องกันและบรรเทาอาการเมื่อยล้าได้ เพราะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีระหว่างขาและหัวใจ มีทั้งถุงเท้าสำหรับเล่นกีฬาประเภทต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้คุณควรปรึกษาแพทย์หากคุณมีข้อกังวลหรือปัญหาอื่นๆ
5.ท่าผีเสื้อ
ท่านี้สามารถช่วยกำจัดความเมื่อยล้าที่ขา การเปิดต้นขาของคุณช่วยกระตุ้นอวัยวะย่อยอาหารได้อีกด้วย
1.นอนหงายหลังลงบนพื้น โดยยืนขาขึ้นพิงกำแพง
2.รวบฝ่าเท้าของคุณเข้าด้วยกันแล้วค่อยๆกดฝ่าเท้าลงไปที่สะโพกของคุณ
3.อยู่ในท่านี้เป็นเวลา 3 ถึง 5 นาที
6. รับประทานเกลือให้น้อยลง
© depositphotos.com
หากคุณกินเกลือมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการบวมและรู้สึกเมื่อยล้าและปวดขา นักวิทยาศาสตร์แนะนำให้รับประทานไม่เกิน 2,300 มิลลิกรัมต่อวัน นับเป็นหนึ่งช้อน และพยายามลดปริมาณโซเดียมของคุณ ภายใน 1 เดือนคุณจะรู้สึกได้
7.บริโภคธาตุเหล็กให้เพียงพอ
© depositphotos.com
การขาดธาตุเหล็กสามารถทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าขา รวมถึงอาการระคายเคืองและคัน อาจเป็นตะคริวร่วมด้วย
พยายามกินอาหารที่มีสารอาหารเพียงพอ ควรกินอาหารที่มีธาตุเหล็กเช่น ผักโขม บรอกโคลี ถั่ว ข้าวกล้องและผลไม้แห้ง
8.แผ่นบรรเทาอาการปวด
© shutterstock.com
แผ่นประเภทนี้มีประโยชน์อย่างมากในการบรรเทาอาการปวดเท้าของคุณโดยใช้เวลาไม่นานและไม่ต้องใช้ยา พวกมันสามารถทำงานได้นานถึง 6 ชั่วโมงและช่วยป้องกันอาการปวดเท้าและส้นเท้าเคล็ดขัดยอกและรอยฟกช้ำได้ อีกทั้งคุณสามารถใช้ระหว่างวันหรือก่อนนอน
9. นวดเท้าและขาด้วยตัวเองด้วยท่าเพอร์คัชชัน
การนวดขานั้นทำให้รู้สึกสดชื่นมาก และหากคุณสามารถทำด้วยตัวเองยิ่งมีประโยชน์มากขึ้นแค่คุณใช้แรงกดเบา ๆ ก็สามารถช่วยผ่อนคลายหรือลดอาการเจ็บปวดและความตึงของกล้ามเนื้อ นี่คือเทคนิคง่ายๆอย่างหนึ่งซึ่งมีพื้นฐานมาจากการเคลื่อนไหวแบบเพอร์คัชชัน
1.ใช้นิ้วก้อยกดกล้ามเนื้อขาของคุณเบา ๆ โดยเริ่มจากข้อเท้า
2.ทำซ้ำๆในขณะที่คุณเลื่อนสูงขึ้นบนขา เน้นบริเวณที่รู้สึกตึง
3.ทำซ้ำๆทั้งหมดรอบๆขา
อาการปวดขาของคุณสร้างความรำคาญใจให้คุณบ่อยแค่ไหน แบ่งปันวิธีที่ดีที่สุดสำหรับคุณที่ช่วยลดอาการดังกล่าวในเพจของเราสิ!
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน