สิ่งต่างๆ ดูน่ากลัวเมื่อคุณไม่มีแสงสว่างจากไฟฟ้าที่บ้าน แต่สิ่งสำคัญคือการรู้ว่าต้องทำอย่างไรเพื่อปกป้องตัวเองและคนที่คุณรัก คุณควรจะต้องระมัดระวังอะไรบ้างเคยรู้บ้างไหม เพราะหลายๆ อย่างที่คนมักจะทำกันในช่วงที่ไฟฟ้าดับ ซึ่งพวกเขาคิดว่ามันจะดีแต่จริงๆ แล้วมันค่อนข้างจะอันตราย
พวกเราอยากช่วยให้คุณปลอดภัยอยู่เสมอเพราะสิ่งต่างๆเหล่านี้อาจจะเป็นอันตรายได้ ดังนั้นเราจึงแบ่งปันรายการเคล็ดลับเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อไฟฟ้าดับ
1. การจุดเทียนเพื่อให้แสงสว่าง
© Depositphotos.com © Shutterstock.com
ในช่วงที่ไฟฟ้าดับโดยเฉพาะตอนกลางคืน ปฏิกิริยาแรกของคุณอาจเป็นการจุดเทียน คุณอาจจะเก็บเทียนไขเอาไว้บ้าง เพื่อใช้ในตอนไฟฟ้าดับ อย่างไรก็ตามเทียนนั้นพลิกคว่ำได้ง่ายและจะทำให้เกิดปัญหามากกว่าที่คุณมีอยู่เดิม จะดีกว่าหาโคมไฟไฟฟ้าซึ่งสามารถให้แสงสว่างได้มากกว่าเทียนมาติดบ้านไว้แทน และทีสำคัญอย่าลืมชารต์ หรือ ซื้อถ่านมาด้วยละ
2. อย่าเล่นมือถือจนแบตหมด
© Shutterstock.com © Shutterstock.com
ในช่วงเวลาที่ไม่มีไฟฟ้า เมื่อโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ของคุณใช้งานไม่ได้ ดูเหมือนว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งเดียวที่อาจจะดูน่าสนใจกว่าสิ่งอื่น ๆ ในการรอระหว่างไฟฟ้ายังไม่มา แต่เราขอเตือนเพื่อน ๆ แทนว่าอย่าเพิ่งใช้โทรศัพท์มือถือของคุณในการเล่นเกมส์ หรือ อ่านข้อความทางอินเตอร์เน็ท ตรงกันข้ามเราอยากให้คนพยายามอย่าใช้งานในเรื่องไร้สาระ เพื่อที่ว่าจะได้มีแบตไว้ใช้ได้นานมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เผื่อในกรณีฉุกเฉินจริง ๆ ถ้าคุณต้องการติดต่อใคร เพราะเราไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าไฟฟ้าจะกลับมาใช้งานได้เมื่อไหร่
3. อย่าเพิกเฉยต่อคำเตือน และเปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของคุณทิ้งไว้
© Shutterstock.com © Wtshymanski / Wikimedia Commons
เมื่อรู้ได้ว่าไฟฟ้ากำลังจะดับในพื้นที่ของคุณ คุณควรถอดปลั๊กอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของคุณก่อนที่ไฟฟ้าจะดับ เพราะเมื่อไฟกระชากอาจเสี่ยงต่อการทำให้อุปกรณ์ของคุณเสียหายได้ แต่อย่างน้อยคุณควรเสียบหลอดไฟไว้หนึ่งหลอดเพราะจะทำให้คุณรู้ว่าเมื่อไรไฟจะมา
4. เปิดตู้เย็น
© Shutterstock.com © Shutterstock.com
ตู้เย็นที่ไม่เก่าจนขอบยางเสื่อมสภาพนั้น สามารถเก็บอาหารและให้ความเย็นได้ประมาณ 4 ชั่วโมงหากไม่มีไฟฟ้า เมื่อคุณไม่เปิดประตูตู้เย็น เพราะการเปิดตู้เย็นจะทำให้ปล่อยอากาศเย็นออกไปและทำให้อาหารเน่าเสียเร็วขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องเก็บอาหารไว้ในตู้เย็นให้นานที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ดังนั้นหลีกเลี่ยงการเปิดดูตู้เย็นในช่วงไม่มีไฟฟ้ากันเถอะ
5. การล้างช่องแช่แข็งของคุณในช่วงเวลาไฟดับ
© Shutterstock.com © Shutterstock.com
ในขณะที่คุณกำลังอยากที่รื้อช่องแช่แข็งในตู้เย็นของคุณ เพราะมันไม่มีไฟฟ้าที่จะทำให้ตู้เย็นทำงานแล้ว อย่าลืมว่าอาหารแช่แข็งเองก็ทำหน้าที่เป็นตัวให้ความเย็นได้ โดยทำให้อาหารอื่นๆ ยังเย็นได้อยู่ และช่องแช่แข็งที่เต็มแน่นนั้นสามารถคงความเย็นได้นานกว่าช่องแช่แข็งที่มีของอยู่เพียงครึ่งเดียว
6. อย่าละเลยกฎจราจร
© Depositphotos.com
ไฟดับไม่เคยเลือกสถานที่กดังนั้นไม่ใช่ว่าทุกครั้งไฟมันจะไปดับที่บ้านเท่านั้น มันอาจจะไปดับในขณะที่คุณอยู่ในย่านธุรกิจและพื้นที่สาธารณะที่คล้ายกันรอบๆ ตัวคุณ บางที่อาจมีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพื่อให้ทำงานต่อไปได้ชั่วคราว แต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป ตัวอย่างเช่น หากคุณอยู่ในรถของคุณและสัญญาณไฟจราจรไม่ทำงานจะเป็นการดีที่สุดที่จะหยุดรถและดูให้แน่ใจก่อนว่าทางแยกต่าง ๆ มีรถที่กำลังจะวิ่งมาหรือไม่
7. เก็บเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ไว้ในร่มที่ไม่ได้โดนแดดและฝนมากไปนัก
© Shutterstock.com © Shutterstock.com
สำหรับบางคนที่ชอบคิดล่วงหน้าและ รู้สึกอุ่นใจกว่าถ้ามีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าในกรณีที่ไฟฟ้าดับ แต่สิ่งสำคัญคือการรู้วิธีใช้งาน สำหรับผู้เริ่มต้น เครื่องปั่นไฟจะปล่อยก๊าชคาร์บอนมอนอกไซด์ที่เป็นอันตราย ดังนั้นควรเก็บไว้ในที่โล่งห่างจากบ้าน คุณควรเก็บไว้ในที่ที่มีหลังคาคลุมที่มีขนาดใหญ่พอที่จะปกป้องมันจากฝนหรือแดด ควรอ่านคู่มือใช้งาน และทดลองใช้งานให้เข้าใจตั้งแต่ที่ซื้อมาเพื่อให้แน่ใจว่าเราใช้งานมันได้ถูกต้อง แต่ก็ยังต้องเตือนเพื่อน ๆ ไว้ก่อนว่า มันยังเป็นอันตรายอย่างยิ่งที่จะต่อเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเข้ากับแผงควบคุมไฟฟ้าหลักของบ้าน หรือหัวจ่ายไฟสำหรับเครื่องเป่าผม หรืออะไรก็ตาม เพราะมันอาจทำให้เกิดแรงดันไฟฟ้าที่สูง และเกิดไฟฟ้าช๊อตได้
8. ควรเตรียมน้ำดื่มติดบ้านไว้บ้าง
© Shutterstock.com © Shutterstock.com
ไม่ควรดื่มน้ำจากก๊อกในช่วงไฟดับเพราะเราอาจจะไม่สักเกตุเห็นความปิดปกติของน้ำก็ได้ ดังนั้น ควรเตรียมน้ำดื่มไว้ ในที่ที่สามารถหยิบมาดื่มได้ง่าย เพราะจริง ๆ แล้วร่างกายคนเราต้องการน้ำดื่ม 3-4 ลิตรเป็นอย่างน้อยในแต่ละวัน
9. ตรวจสอบไฟฉายให้ทำงานได้อยู่อย่างสม่ำเสมอ
© Shutterstock.com © Shutterstock.com
เรารู้ว่าคุณเตรียมความพร้อมและคนส่วนใหญ่ก็มีไฟฉายติดบ้าน แต่ สิ่งหนึ่งที่หลาย ๆ คนอาจจะลืม หรือ ไม่ได้ดูแลหรือตรวจสอบว่ามันยังใช้งานได้ดีอยู่หรือไม่ หรือ มีถ่านไฟฉายพอสำหรับการใช้งานจริง หรือไม ดังนั้น คุณควรหาเวลาว่างตรวจสอบ ไฟฉายทุก 3 หรือ 6 เดือนเพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อยามจำเป็นมันจะใช้งานได้จริง ๆ
คุณรักษาความปลอดภัยได้อย่างไรในช่วงที่ไฟฟ้าดับ กรุณาแบ่งปันความคิดและความคิดของคุณกับเราในเพจของเรา!
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลินขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน