วิวัฒนาการคือการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นสู่รุ่นโดยอาจจะเป็นสิ่งที่ดีเพิ่มขึ้นหรือตัดสิ่งที่ไม่ได้ใช้ออกไปก็ได้และหากเราย้อนกลับไปเหล่านักวิทย์ทั้งหลายก็บอกว่ามนุษย์เรานั้นมีวิวัฒนาการมาจากลิงแต่ถ้าจะให้พูดลึกลงไปในรายละเอียดแล้วละก็มันช่างเป็นเรื่องยากและต้องเป็นความพอดีสุดๆเลยที่จะเปลี่ยนจากสิ่งหนึ่งให้มีความเจริญขึ้นมาได้ขนาดนี้ก็ลองคิดกันเล่นๆ ก็แล้วกันว่าในโลกกลมๆใบนี้มีสิ่งมีชีวิตอื่นๆ อีกมากมายเอาแบบที่เรารู้จักก็มีจำนวนมากถึงห้าหรือหกล้านสายพันธ์เข้าไปแล้วและนอกจากในจำนวนนี้ก็ยังมีอีกมากมายที่เราไม่เคยพบเห็นหรือยังไม่สามารถเข้าไปยังที่อยู่ของสิ่งเหล่านั้นได้ แต่ไฉนเลยจึงมีแค่เพียงมนุษย์เท่านั้นละที่กลับพัฒนาตัวเองแล้วขึ้นมาใช้ชีวิตเหนือสิ่งต่างๆ บนโลกนี้เราเองก็ยังหาคำตอบของเรื่องนี้ไม่ได้ แต่ก็มีคนอีกมากมายที่พยายามหาเหตุและผลที่จะทำให้คำถามเหล่านี้กระจ่างขึ้นมาซึ่งหากเราได้พบกับคำตอบนั้นก็อาจจะทำให้เราพัฒนาสิ่งต่างๆไปมากกว่านี้อีกก็ได้

แต่วันนี้พวกเราเพลินเพลินก็เลยลองเอาเรื่องของการวิวัฒนาการนี้แหละมาเป็นหัวข้อพูดคุยกับเพื่อนเพื่อน ว่าถ้าหากเรายังสามารถกำหนดหรือพัฒนาร่างกายของเราให้เปลี่ยนไปได้แบบใจคิดแล้วละก็เราจะเปลี่ยนแปลงอะไร เพื่ออะไรกันบ้าง ซึ่งพวกเราก็คุยกันอยู่มากมายหลายอย่างจนพอจะสรุปเอาแค่ 4 อย่างที่ฟังดูแล้วว่าถ้าเปลี่ยนไปได้ก็คงดีเหมือนกัน

อย่างแรกเลยกับเรื่องใกล้ตัวนั้นก็คือการเกิดของเด็กๆนั้นเอง และสิ่งที่เกี่ยวข้องที่สุดก็คงเป็นสะโพกของเรานี้แหละเนื่องจากการให้กำเนิดของเรานั้นถ้าคลอดแบบตามธรรมชาติก็คือเด็กจะต้องผ่านสะโพกออกมาซึ่งถ้าเราสามารถขยายอุ้งเชิงกรานให้กว้างขึ้นแล้วละก็พวกเราก็คงจะไม่ต้องคลอดด้วยวิธีอื่นแล้วหรืออันที่จริงถ้าเราสามารถเติมโตอยู่ภายนอกได้เหมือนกับการเติบโตในรังไหมแล้วละก็มันก็คงง่ายขึ้นเยอะเลย

ถ้าเพิ่มพลังการมองในสิ่งต่าง ๆ ของเราให้เหมือนปลาหมึก
ที่กล่าวว่าวิวัฒนาการในส่วนนี้ได้ก็จะทำให้ดีขึ้นก็เพราะว่าตอนนี้เราจะมองเห็นสิ่งต่าง ๆจากทางด้านหน้าเท่านั้นเพราะด้วยรูปร่างและการทำงานของระบบเซลล์เรตินาที่เป็นการทำงานเหมือนการฉายภาพผ่านกล้องรูเข็มไปที่ส่วนรับภาพเพื่อส่งสัญญาณไฟฟ้าแปลความหมายอีกครั้ง ทำให้การขยับมองวัตถุต่างๆ ทำได้ไม่เกิน 180 องศาแต่อันที่จริงแล้วเราก็ยังขยับศีรษะของเราไปยังทิศทางอื่นเพื่อมองดูโดยรอบก็ได้ แต่ถ้าหากเราสามารถมองภาพได้องศากว้างขึ้นอีกก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีและเราก็พบว่าเจ้าปลาหมึกบางชนิดนั้นมันเก่งมากเรื่องการมองเห็นทั้งในที่มืดและทั้งในองศาที่กว้างกว่าเราด้วยเพราะมันมีเซลล์รับแสงที่สามารถทำงานได้ดีกว่าของเรา ดังนั้นถ้าลองเปลี่ยนให้เรามีดวงตาของประหมึกได้ก็คงจะทำให้เรามองสิ่งต่าง ๆได้อย่างละเอียดและชัดเจนขึ้น

ถ้าเราวิ่งเร็วและขาแข็งแรงเหมือนนกกระจอกเทศ
เป็นเพราะเท้าเรานั้นมีกระดูกเล็กๆเป็นจำนวนมากและที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า ในตอนแรกมีแนวโน้มที่เราใช้เท้าและมือในการหยิบจับสิ่งของต่าง ๆ และที่เราบอกว่ามีจำนวนมากนั้นก็คือมีมากถึง 26 ชิ้นเลยนะ ซึ่งเจ้าชิ้นเล็กเหล่านี้ก็ต้องเชื่อมต่อและยึดด้วยกล้ามเนื้อต่าง ๆ ซึ่งมีมากก็ทำให้มีโอกาสเจ็บมากด้วยจากการเคลื่อนไหวที่ผิดจังหวะ ดังนั้นถ้าเราลองเปลี่ยนเท้าของเราไปเป็นเท้าของนกกระจอกเทศซึ่งมีกระดูกน้อยลงได้แล้วละก็ มันก็คงจะทำให้เราเดินได้สะดวกและวิ่งได้อย่างรวดเร็วขึ้นอีกด้วยเพราะนกกระจอกเทศไม่ใช่หัวเข่าแต่เป็นข้อต่อข้อเท้า ทำให้เท้าช่วยให้พวกเขาทำงานได้อย่างดีเยี่ยมในการวิ่งหรือกระโดด

ถ้าฟันของเรามีใหม่เรื่อยๆ
สิ่งใกล้ตัวที่เราใช้งานอยู่แทบทุกวันหรือาจจะตลอดเลยก็ได้นั้นก็คือฟันของเรานั้นเองนอกจากที่จะใช้ในการเคี้ยวหรือเพื่อทานอาหารแล้วมันยังช่วยในการออกเสียงอีกด้วยนะ และในฐานะมนุษย์ (และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมส่วนใหญ่) เราจะมีฟันอยู่ 2 ชุดนั้นก็คือฟันน้ำนมและฟันแท้นั้นเองซึ่งมันคงไม่ดีแน่ถ้าฟันแท้ของคุณต้องจากไปเพราะเราคงต้องหาสิ่งทดแทนเพื่อทำหน้าที่ของฟันที่หลุดออกและแน่นอนว่ามันคงไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไหร่เมื่อเรายิ่งมีอายุมากขึ้น แต่ถ้าหากว่าคุณมีฟันเหมือนของจิงโจ้แล้วละก็มันก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งเพราะว่าเมื่อฟันของจิงโจ้หลุดออกแล้วฟันที่อยู่ด้านหลังจะค่อยๆขยับชิดเข้ามาเพื่อให้สามารถใช้งานได้เหมือนเดิม

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน