ระยะเวลาของการตัดผมและการดูแลที่แตกต่างกัน

ผมถือเป็นสิ่งที่หลายหลายคนให้ความสนใจอย่างมาก ถ้าลองดูกันเล่นเล่นแล้วละก็พวกเราก็จะเห็นว่าในแต่ละวันนี้มีผลิตภัณฑ์ต่างต่างมากมายหลากหลายความสามารถที่ออกมาให้คุณไม่ว่าจะทำให้ผมนิ่มหรือทำให้ผมมีน้ำหนักรวมไปถึงการเปลี่ยนสีผมได้ดังใจ และเดียวนี้พวกเรายังคงมีอีกหลายเรื่องอีกมากมายท่ีสามารถทำได้กับทรงผมแต่เพื่อนเพื่อนทราบกันไหมละว่าหากคุณตัดผมบ่อยเกินไปอาจจะทำให้ผมมันงอกออกมาไม่ทันก้ได้ และถ้าหากคุณตัดผมน้อยเกินไปผมของคุณอาจกลายเป็นผมที่แห้งแข็งเหมือนฟางได้ แล้วถ้าเป็นแบบนี้เราเองจะต้องตัดผมบ่อยแค่ไหนหรือต้องรอนานขนาดไหนถึงจะทำผมที่ร้านสักครั้ง ใครจะตอบเรื่องนี้ได้กันนะวันนี้พวกเราเพลินเพลินก็เลยลองไปหาข้อมูลของเรื่องราวผมผมมาให้เพื่อนเพื่อนได้ฟังกันก็น่าจะดีเนอะ

เอาจากสิ่งใก้ตัวเลยดีกว่านั้นคืออันที่จริงสถาพของผมนั้นก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละแบบแต่ละประเภทตามแต่ว่าเรามีสภาพผมแบบไหนหรือมีเส้นผมแบบไหนนั้นแหละดังนั้นก่อนที่เราจะเข้าเรื่องกันเราอยากจะบอกถึงลักษณะใหญ่ๆที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้นั้นคืออย่างแรกขนาดของผมที่หนาหรือบาง อย่างที่สองก็คือความตรงของผมนั้นเอง

มาเริ่มกันจากผมหยักศกหรือหยิกกันก่อนเลย
ต้องบอกเลยว่าหากเพื่อนเพื่อนมีผมหยักศกหรือผมหยิกนั้นช่างมีความพิเศษไม่เหมือนใครเพราะอันที่จริงแล้วผมหยักศกนั้นก็คือผมตรงแบบธรรมดานั้นแหละเพียงแต่ว่าเมื่อมันยาวได้ระดับหนึ่งก็จะเปลี่ยนรูปเป็นเกลียวคลื่นโดยความหนาและความยาวนั้นอาจจะไม่เท่ากันในแต่ละเส้นเลยด้วยซึ่งมันเป็นได้ทั้งการเกิดขึ้นเองตามอย่างพ่อหรือแม่ หรืออาจจะเกิดขึ้นจากการที่โดนแสงแดดทำให้ตอนนั้นขาดความชุ่มชื่นก็ได้แต่ถ้าหากคุณมีผมแบบนี้แล้วละก็คงต้องบอกว่านั้นทำให้คุณไม่ต้องเปลี่ยนทรงผมบ่อยบ่อยเพราะมันจะยาวได้ช้ากว่าผมแบบตรงมากมากโดยคุณสามารถปล่อยเวลาหลังจากการทำผมครั้งสุดท้ายไปได้อีกสามถึงสี่เดือนเลยทีเดียวจึงจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงของทรงผม แต่ถ้าหากว่าคุณต้องการให้เส้นผมยาวเร็วๆขึ้นแล้วละก็เราแนะนำให้ลองเล็มปลายผมออกสักหนึ่งหรือสองเซ็นทุกสองหรือสามสัปดาห์ซึ่งนั้นจะทำให้คุณเห็นความแตกต่างได้เลยว่าผมของคุณนั้นยาวเร็วกว่าหากปล่อยไปเฉยๆ

หรือถ้าหากเพื่อนเพื่อนไปทำผมหยิกมาด้วยการดัดแล้วละก็การดูแลรักษาลอนผมเหล่านั้นให้ยังคงม้วนและดูเหมือนมีสปริงแล้วละก้อย่างแรกเลยคุณต้องดูแลไม่ให้ผมมันแห้งเกินไปเพราะการที่ดัดด้วยน้ำยาและความร้อนนั้นก็ทำให้ผมแห้งในบางส่วนอยู่แล้ว และหากมันแห้งเกินไปมันก็จะขาดและพันกันได้ง่ายขึ้นและควรปฏิบัติตามคำแนะนำของช่างที่ทำการดัดผมให้คุณเพราะขั้นตอนและรูปแบบการดัดผมนั้นสามารถทำได้หลายแบบและการดูแลหลังจากทำผมแล้วก็จะแตกต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่เราขอแนะนำเลยก็คือการเล็มผมสักหนึ่งครั้งในช่วง 2 หรือ 3 สัปดาห์เพราะปลายผมที่แห้งแตกแล้วไม่ได้รับการดูและจะทำให้เกิดผมที่ยุ่งมากขึ้นไปอีกส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ทำตามคำแนะนำของช่างจะดีที่สุด

มาถึงเพื่อนเพื่อนที่ผมตรงหรืออาจจะหยักศกนิดๆ
สำหรับเพื่อนเพื่อนที่มีเส้นผมที่ตรงยาวสลวยแล้วละก็ต้องขอยินดีด้วยเลยเพราะผมแบบนี้นั้นดูแลได้ง่ายกว่าแบบอื่นๆแต่ถึงกระนั้นก็ยังต้องการการดูแลอยู่นะ ดังนั้นสิ่งแรกเลยที่ต้องทำก็คือคุณจะต้องผมแห้งสนิททุกครั้งที่เข้านอนเพราะการนอนทั้งที่ผมยังเปียกอยู่จะทำให้คุณตื่นมาด้วยผมที่ยุ่งเหยิ่งแล้วมันยังอาจจะทำให้คุณเกิดอาการคันศรีษะได้ด้วยอย่างที่สองคือสังเกตุว่าคุณผูกผมบ่อยๆหรือเปล่าเพราะหากว่าคุณทำบ่อยมากมากแล้วละก็แสดงว่าคุณมั่นใจในการผูกผมซึ่งเราอยากให้คุณเริ่มมองดูทรงผมสั้นซึ่งมันน่าจะเหมาะกับสไตล์การใช้ชีวิตของคุณมากกว่า แต่หากว่าคุณชอบปล่อยผมแล้วละก็คุณก็ควรจะเล็มปลายผมทุกหนึ่งหรือสองสัปดาห์เพื่อไม่ให้ปลายผมที่แห้งมาสร้างปัญหาให้กับผมที่ยาวสลวยของคุณ สำหรับการดูแลอื่นๆก็เพียงแค่ใส่น้ำมันหรือครีมนวดในทุกครั้งที่สระผมเพื่อช่วยเพิ่มความชุมชื่นก็เท่านั้นเอง

เส้นผมที่มีขนาดหนา
ด้วยความหนาของตัวเส้นผมทำให้เราต้องทำการซอยผมให้เข้ารูปอยู่เสมอนั้นเอง ดังนั้นเพื่อนเพื่อนที่มีผมหนาบางคนจึงอาจจะชอบที่จะไว้ผมยาวแล้วรวบหรือทักเปียเพื่อที่ว่าจะได้ไม่จำเป็นต้องไปที่ร้านทำผมบ่อยนักแต่อันที่จริงแล้วการทักผมหรือมัดผมกลับจะทำให้ผมตรงส่วนที่มัดหรือตรงส่วนที่เป็นเปียนั้นหักและแห้งกว่าซึ่งจะทำให้ผมยุ่งขาดชี้ฟูได้ง่ายสิ่งที่เราอาจจะให้ลองทำก็คือลองคุยกับช่างทำผมเพื่อหาทรงผมสั้นที่เข้ากับรูปหน้าของคุณแล้วซอยผมไล่ระดับเพื่อลดความหนาของเส้นผมก็จำทำให้คุณรู้สึกสบายขึ้นแล้ว การดูแลทั่วไปก็แค่สระผมสองหรือสามวันครั้งแต่ถ้าหากมีความจำเป็นต้องสระผมติดต่อกันหลายหลายวันก็คงต้องใช้ทรีทเม้นเสริมเข้าไปด้วยก็จะพอช่วยได้

สำหรับเส้นผมที่มีขนาดบาง
เพราะลักษณะที่บอบบางนั้นเองจึงทำให้ต้องได้รับการดูแลมากกว่าแบบอื่นเพราะความบางทำให้มันแห้งได้ง่ายอีกทั้งยังแตกปลายได้ตลอดเวลาสิ่งที่จำเป็นเลยก็คือความชุมชื่นดังนั้นควรหลีกให้ห่างการใช้น้ำอุ่นในการทำความสะอาดเพราะจะทำให้น้ำมันในเส้นผมหายไปได้อย่างรวดเร็วและสิ่งที่เกิดขึ้นกับสาวผมบางก็คือทรงผมที่ดูลีบนั้นเองดังนั้นการไว้ผมสั้นน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับสาว ๆ ที่มีผมลักษณะนีแต่ถ้าหากคุณอยากจะทำผมยาวแล้วละก็อาจจะต้องใช้ตัวช่วยในการจัดทรงหรือแต่งผมให้ดูฟูขึ้นสักเล็กน้อยนะและอย่างน้อยก็ควรจะต้องเล็มผมทุกสัปดาห์เพื่อป้องกันผมเสียนะ

สุดท้ายแล้วผมที่ไม่มีใครอยากเป็นก็คือผมเสียนั้นเอง
อาการผมเสียนั้นไม่ได้จำแนกชัดเจนเพียงแต่ว่ามันเป็นลักษณะของผมที่ แห้ง แตกปลาย หรือหักงอ จัดทรงผมได้ยากซึ่งมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆหรอกแต่ก็เกิดขึ้นได้หากคุณทำผมเปลี่ยนสีหรือดัดบ่อยเกินไปเพราะทุกขั้นตอนที่กล่าวมานั้นล้วนทำให้เกิดความแห้งของตัวเส้นผมนั้นเองหรือบางครั้งอาจจะเกิดจากการที่คุณปล่อยให้เส้นผมของคุณโดนบางสิ่งบางอย่างแล้วไม่ได้ล้างทำความสะอาดในทันที่ซึ่งเมื่อปล่อยเอาไว้ก็ทำให้เกิดอาการดังกล่าวดังนั้นหากเพื่อนเพื่อนไม่อยากให้ผมเสียก็แค่ดูแลตามความเหมาะสมสระผมทำความสะอาดตามที่ควรทำและไม่ไปทำผมบ่อยเกินไปก็พอแล้ว สำหรับการจะฟิ้นสภาพผมนั้นหากเพื่อนเพื่อนไม่อยากที่จะวุ่นวายมากละก็การตัดผมสั้นแล้วให้เส้นผมใหม่ยาวขึ้นมาจะเป็นทางเลือกที่ดีมากมากเพราะทั้งสะดวกและก็ประหยัดอีกด้วยซึ่งหากคุณต้องการปรับสภาพผมที่เสียนั้นต้องดูแลอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยก็แปดสัปดาห์เลยทีเดียว

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน