ถ้าจะบอกว่าสัมผัสทั้งห้านั้นก็คือรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสคือสิ่งที่ทำให้เราสามารถรับรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวเราและทำให้เราสามารถเรียนรู้ประสบการณ์ต่าง ๆ ได้จากสิ่งเหล่านั้น สิ่งหนึ่งที่เราอยากจะบอกก็คือเมื่อเราได้พบสิ่งดีดีจากการสัมผัสนี้ได้นั้นมันก็ย่อมที่จะมีสิ่งที่ไม่ได้เช่นเดียวกัน และแน่นอนว่าพวกเราก็คงจะไม่ชอบให้เจอสิ่งเหล่านี้เช่นเดียวกันและในทางกลับกันพวกเราก็ยังไม่อยากที่จะเป็นต้นต่อของการส่งสัมผัสที่ไม่ดีบางอย่างไปให้คนรอบข้างด้วยนั้นเอง

ใช่แล้วละพวกเราเพลินเพลินกำลังอยากจะบอกถึงเรื่องกลิ่นของตัวเรานี้แหละที่หลายคนเองน่าจะกำลังคิดว่าเป็นปัญหาหรือหลายคนอาจจะไม่รู้แต่อันที่จริงมันเป็นสิ่งที่คนรอบตัวคุณไม่กล้าที่จะบอกก็เป็นได้ เพราะอันที่จริงแล้วเราก็อยากจะบอกว่ามันเป็นเรื่องปกติมากมากที่พวกเราจะมีกลิ่นจากเหงื่อหรือมีกลิ่นร่างกายเกิดขึ้นซึ่งเหล่าคนผู้มีความคิดสร้างสรรค์ก็ได้คิดเครื่องมือหรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อช่วยลดสิ่งเหล่านี้ลง แต่มันกลับได้ผลน้อยหรืออาจจะไม่ได้ผลตามที่เราคิดซึ่งบางครั้งมันไม่ได้เกิดจากตัวผลิตภัณฑ์เองแต่มันเกิดจากสิ่งที่เราทำในระหว่างวันนั้นเองที่ทำให้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นปกปิดหรือทำให้กลิ่นของเราลดลงไม่ได้เลย

วันนี้พวกเราเพลินเพลินก็เลยเอาเรื่องราวและข้อมูลเรื่องสิ่งที่เราทำไปโดยไม่รู้ตัวว่าสิ่งเหล่านั้นจะยิ่งทำให้เรามีกลิ่นเหงื่อนั้นเองมาลองอ่านกันเลยดีกว่าว่าเพื่อนเพื่อนยังทำสิ่งเหล่านี้กันบ้างหรือเปล่า

สิ่งแรกที่ต้องเข้าใจก่อนว่าผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ได้สามารถช่วยลดเหงื่อลงได้
หลายหลายคนเข้าใจกันว่าเรามีกลิ่นก็เพราะว่าเรามีเหงื่อซึ่งนั้นก็ถูกต้องแต่ไม่ทั้งหมดเพราะอันที่จริงแล้วกลิ่นนั้นจะก็เกิดสิ่งมีชัวิตเล็กอย่างแบคnีเรียต่างหากดังนั้น เมื่อคุณใช้ผลิตภัณฑ์ที่ลดกลิ่นมันจึงไปสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมแก่การเติบโตของสิ่งเหล่านั้น แต่ไม่ได้ลดเหงื่อแต่อย่างใด ดังนั้น

การใช้อะไรที่มากเกินไปมันไม่ได้ให้ผลอย่างที่คุณคิด
สิ่งที่เรากำลังจะบอกเพื่อนเพื่อนนั้นคือข้อมูลและสิ่งที่ควรทำกับการเลือกและการใช้งานผลิตภัณฑ์แทบจะทุกอย่างเลยก็ว่านั้น และคำแนะนำที่เราอยากจะบอกก็คือเรื่องของปริมาณการใช้งานนั้นเอง เราอยากจะขอยกตัวอย่างง่ายๆอย่างการทำขนมหรือการทำอาหาร หากเพื่อนเพื่อนใส่วัตถุดิบหรือส่วนผสมอะไรที่คิดว่าดีหรืออะไรมากมากแล้วคิดว่าจะอร่อยแล้วละก็คงต้องบอกเลยว่าผลลัพท์มันอาจจะออกมาในทางตรงกันข้ามก็ได้เพราะอะไรที่มากเกินไปหรืออะไรที่ไม่เป็นไปตามความเหมาะสมนั้น มันมักจะให้ผลตรงข้ามเสมอและกับผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเรื่องกลิ่นเองก็เช่นเดียวกันยิ่งเพื่อนๆใช้มากเกินไปมันอาจจะกลายเป็นตัวสร้างกลิ่นไม่ดีขึ้นซะเองก็เป็นได่้ ดังนั้นทางที่เราอยากจะแนะนำเพื่อนเพื่อนนั้นก็คือคุณควรอ่านรายละเอียดการใช้งานก่อนทุกครั้งและยิ่งเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ใหม่ยิ่งต้องทำความเข้าใจ เพระว่าไม่มีอะไรใช้งานเหมือนกัน100% หรอกนะดังนั้นการใช้งานแต่พอดีจึงเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างที่สุดนั้นเอง

กิจวัตรประจำวันที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวันทำให้คุณต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับแต่ละวันด้วย
อย่างที่เราบอกเพื่อนเพื่อนไปในหัวข้อที่แล้วเกี่ยวกับเรื่องรายละเอียดการใช้งานที่ต้องสนใจ อีกสิ่งหนึ่งที่หลายหลายคนมักมองข้ามไปนั้นก็คือพวกเค้ามีผลิตภัณฑ์ไว้ใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ เพียงแบบเดียวเท่านั้นแต่อันที่จริงแล้วสำหรับวันทำงานที่คุณไม่ต้องออกไปตากแดดหรือมีเหงื่อน้อย เทียบกับวันที่คุณต้องออกไปเดินทางกลางแจ้งหรือมีการออกกำลังกายมันก็ต่างกันมากแล้วดังนั้นสำหรับวันที่คุณคิดว่าต้องไปกลางแจ้งหรือเล่นกีฬาแล้วละก็คุณควรที่จะมีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูและเรื่องนี้โดยเฉพาะมันจะช่วยคุณได้ดีกว่านั้นเอง

การเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมก็ทำให้คุณสบายไปหลายอย่างแล้ว
ต้องบอกว่าเสื้อผ้านั้นสำคัญมากเลยที่เดียว เพราะหากคุณเลือกแบบเสื้อผ้าที่ดูไม่เหมาะสมอย่างการสวมกางเกงขาสั้นไปคุณงานก็คงจะดูไม่ดีสักเท่าไหร่นัก จึงได้มีการสอนและมีอาชีพที่แนะนำเรื่องเหล่านี้ให้คุณเพื่อทำให้คุณดูดีได้ในทุกโอกาสนั้นเอง แต่สิ่งที่เราอยากจะบอกนั้นก็คือนอกจากแบบของเสื้อผ้าที่ดูเหมาะสมแล้วนั้น การเลือกเนื้อผ้าก็มีส่วนทำให้คุณดูดีและยังน่าเข้าใกล้มากอีกด้วย นั้นก็เพราะเนื้อผ้าบางอย่างนั้นสามารถให้ความอบอุ่นและบางอย่างก็ให้ความเบาสบายกับผู้สวมใส่ ดังนั้นสิ่งที่คุณควรคิดถึงอีกอย่างนอกจากสถานที่นั้นก็คือสภาพอากาศนั้นเอง อย่างวันที่ร้อนอบอ้าวก็ควรเลือกเนื้อผ้าที่ช่วยระบายอากาศได้ดีอย่างผ้าฝ้ายเป็นต้น หรือหากคุณต้องไปอยู่ที่อากาศหนาวจัดอย่างห้องปรับอากาศก็อาจจะเพิ่มเสื้อนอกที่ทำจากผ้าไนลอนที่ช่วยให้ความอบอุ่นได้เข้าไปด้วย เพียงเท่านี้ก็ไม่ต้องกังวัลกับปริมาณเหงื่อที่จะออกมามากเมื่ออยู่ในอากาศที่ร้อนแล้วละ

การทานน้ำและอาหารก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องของกลิ่นนะ

เพื่อนเพื่อนทราบหรือไม่ว่าร่างกายของเรานั้นมีการทำงานอยู่ตลอดเวลาและจากสิ่งนั้นเองที่ทำให้เกิดความร้อนขึ้นในร่างกายของเราซึ่งตามปกติแล้วก็จะทำการระบายความร้อนออกมาในรูปแบบของเหงื่อนั้นเอง แล้วการทานน้ำและอาหารไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้ยังไงนะเหรอนั้นก็เพราะว่าหากร่างกายของเราไม่สามารถสร้างน้ำขึ้นมาเองได้ดังนั้นจึงต้องเกิดจากการทานน้ำหรือได้รับมันจากอาหารที่เราทานเข้าไปนั้นเอง ดังนั้นหากวันนั้นคุณไม่ได้ทานน้ำหรือได้รับน้ำในปริมาณที่เหมาะสมแล้วละก็ร่างกายก็จะเริ่มระบายความร้อนหรือขับของเสียออกมาให้รูปแบบอื่นและทำให้เกิดกลิ่นขึ้นมาได้ยังไงละ ถ้าไงก็ลองสังเกตกันดูว่าวันที่คุณทานน้ำน้อยๆนั้นเป็นอย่างไรบ้างแล้วมาบอกพวกเราด้วยละ

เรื่องราวน่าสนใจท้ายเรื่องเกี่ยวกับที่บางคนก็ไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในการลดกลิ่นเลยมันเป็นไปได้ยังไงนะ
มีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์หลายหลายอย่างเพื่อลดกลิ่นใต้วงแขน แต่เราก็พบว่ามีเพื่อนของเราบางคนที่แทบจะไม่ต้องใช้เจ้าสิ่งนี้เลยนั้นไม่ใช่ว่าพวกเค้าไม่มีเหงื่อหรือไม่ได้ออกกำลังกาย แต่เราพบว่าปฏิกิริยาบางอย่างในร่างกายของเค้าซึ่งมาจากดีเอ็นเอนั้นมีส่วนทำให้เจ้าสิ่งมีชีวิตที่ทำให้เกิดกลิ่นนั้นไม่สามารถเจริญเติบโตได้หรือทำได้น้อยมากมากนั้นเอง ซึ่งก็พบกได้ไม่มากนักแต่เราก็คิดว่าหากอนาคตเราพบถึงสิ่งที่ทำให้เกิดสิ่งนี้ได้แล้วละก็มันอาจจะเป็นอนาคตที่พวกเราทุกคนไม่ต้องกังวลเรื่องได้วงแขนอีกต่อไปเลยก็ได้
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน