คนส่วนใหญ่ใช้ทรัพยากรอย่างไม่เต็มประสิทธิภาพเพราะจากสถิติพบว่า 90% ของเสื้อผ้าที่เราซักนั้นไม่ได้สกปรก ในขณะเดียวกันตอนที่เราซักเสื้อผ้าสักชิ้น เราก็ลืมเอาสิ่งอื่นๆลงไปซักในเครื่องซักผ้า
พวกเราต้องการให้ทุกคนประหยัด และทำอะไรที่พอดี เราจึงมีคำถามว่า จริงๆ แล้ว เราควรซักผ้าบ่อยแค่ไหน

1. เลกกิ้งส์กับกางเกงยีนส์

© MEGA / Mega Agency / East News © Ralph, PacificCoastNews.com / East News

(ซ้าย: ใส่ 2-3 ครั้ง ขวา: น้อยครั้งเท่าที่จะเป็นไปได้)

การซักกางเกงยีนส์บ่อยๆ จะทำให้สีจางลงและทำให้ผ้ายีนส์เสียรูปทรง นอกจากนี้อุณหภูมิสูงยังทำให้กางเกงหดตัว ซึ่งจะทำให้กางเกงยีนส์ตัวโปรดของคุณดูแตกต่างจากตอนที่คุณซื้อมา
“คุณต้องการดูแลยีนส์ของคุณหรือไม่? ถ้าใช่ อย่าเอาไปใส่ในเครื่องซักผ้า” นั่นเป็นคำแนะนำของ CEO Levi, Chip Bergh หัวหน้าบริษัทสารภาพว่าเขาไม่ได้ซักกางเกงยีนส์ในเครื่องซักผ้ามานานกว่า 10 ปีแล้ว
“ควรซักกางเกงยีนส์ให้น้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ไม่เพียงแต่รักษาสีและรูปทรง แต่ยังเพื่อการประหยัดน้ำเพราะมันจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม”
Chip Bergh, Levi’s CEO กล่าวว่า แน่นอนคุณไม่ควรซักมันบ่อย ๆ แต่โปรดจำไว้ว่ากางเกงยีนส์ทำขึ้นเพื่อคาวบอยและคนงาน และคนเหล่านั้นไม่ได้ใส่ใจเรื่องความสะอาดมากนัก ดังนั้นสำหรับคนที่ชอบกางเกงยีนส์ และ เก็บเป็นของสะสม ควรทำความสะอาดกางเกงยีนส์ของคุณเมื่อมันเลอะในน้ำเย็นเท่านั้น และต้องกลับด้านในของกางเกงยีนส์ออกข้างนอกก่อนด้วยนะ ซึ่งแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับเลกกิ้งส์ เสื้อผ้ารัดรูปนั้นดูดซับเหงื่อได้ดีและมีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ซึ่งส่งผลให้มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ หากคุณสวมใส่กางเกงรัดรูปแล้วคุณสามารถซักได้หลังจากสวมใส่ 2-3 ครั้ง แต่หากคุณใช้พวกมันสำหรับเล่นกีฬาให้ซักหลังจากการฝึกซ้อมในแต่ละครั้ง (อย่างไรก็ตามขึ้นกับเหงือของคุณ หากเหงื่ออกมาก ก็ควรซักทุกครั้ง)

2. สปอร์ตบรากับบราในชีวิตประจำวัน

© grinvalds / depositphotos © PacificCoastNews / East News
ในการสำรวจจากผู้หญิงประมาณ 200 คน เราถามว่าพวกเขาซักยกทรงบ่อยแค่ไหน ประมาณ 1 ใน 3 ของผู้หญิงบอกว่าพวกเขาซักมันทุก 2 สัปดาห์ เพราะพวกเขาไม่ได้สวมชุดชั้นในแบบเดียวกันทุกวัน
มีชุดชั้นในหลายชุดคุณสามารถเปลี่ยนได้ทุกวันและซักมันได้บ่อยขึ้น มันช่วยให้พวกมันดูดีตลอด ยังรักษารูปทรงและไม่ยืด อย่างไรก็ตามสปอร์ทบรานั้นควรซักทุกครั้งที่ใส่

3. พรมในห้องน้ำกับผ้าเช็ดตัว

© Nobilior / depositphotos © Twitter / East News

(ซ้าย: สัปดาห์ละครั้ง ขวา: ทุก 2 สัปดาห์)
เราควรต้องเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวบ่อยๆ แต่เพื่อลดจำนวนการซักผ้าเช็ดตัวดังนั้นเราควรซัก 1 ครั้งทุก 2 สัปดาห์โดยใช้ผ้าเช็ดตัว 2 ผืน เพื่อให้แต่ละผืนมีแห้งสนิทระหว่างการใช้งาน หากคุณปฏิบัติตามนี้ไม่ได้ ผ้าขนหนูของคุณอาจมีกลิ่นเหม็นและผ้าสีขาวจะกลายเป็นสีเทา พรมในห้องน้ำนั้นสกปรกมากกว่าที่พวกเราหลายคนคิด ผ้าเปียกที่อยู่ในที่ที่ไม่มีแสงแดดและชื้น เป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อรา ดังนั้นพรมในห้องน้ำควรซักสัปดาห์ละครั้ง

4. หมวกแก็ปกับหมวกฤดูหนาว

© Juan Sharma / Bruja, PacificCoastN / East News © Milton Ventura / Broadimage / East News

(ซ้าย: ทุกๆ เดือนครึ่ง ขวา: ทุกๆ 2 เดือน)
หากคุณไม่ได้สวมหมวกใบเดียวกันตลอดฤดูหนาว คุณสามารถซักได้ทุก ๆ 2 เดือนโดยเฉลี่ย ส่วนใหญ่สามารถทำความสะอาดได้ง่ายในเครื่องซักผ้าแต่ต้องอ่านข้อกำหนดของการซักของผ้าและหมวกแต่ละประเภท
ดังนั้นที่ง่ายที่สุดเราขอแนะนำให้ซักด้วยมือ 2 ครั้งในฤดูร้อนด้วยน้ำอุณหภูมิห้องเพื่อไม่ให้หมวกเสียทรง

5. ปลอกหมอนกับผ้าปูที่นอน

© varandah / depositphotos © nito103 / depositphotos

(บน: ทุกๆ 5 วันล่าง: ทุกๆ 10 วัน)
ฝุ่นที่สะสมบนเตียงมีไวรัส สปอร์ แบคทีเรีย และจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายอื่นๆ เมื่อสูดหายใจเข้าไปอย่างต่อเนื่องจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ หายใจลำบาก และระคายเคือง เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วของมนุษย์เป็นอาหารของไรฝุ่น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าวควรซักเครื่องนอนทุกๆ 10 วัน
อย่าลืมใส่ใจเป็นพิเศษกับปลอกหมอน – คุณควรเปลี่ยนบ่อยกว่าผ้าปูที่นอนและผ้านวม เพราะมันมีสิ่งที่เหลืออหลังการแต่งหน้า ไขมัน และแบคทีเรียสะสมอยู่ซึ่งอาจทำให้เกิดสิวและผื่น

6. ผ้าห่มกับผ้าคลุมเตียง

© iofoto / depositphotos © golubovy / depositphotos
(บน: ทุกๆ เดือน ล่าง: ทุกๆ 2 เดือน)
หากคุณใส่ผ้าคลุมเตียงลงในเครื่องซักผ้าพร้อมกับผ้าปูที่นอน ให้หยุดทำแบบนั้น เพราะมันควรทำความสะอาดทุกๆ 2 เดือนเพราะมันไม่ได้สัมผัสกับผิวของคุณบ่อย
เมื่อพูดถึงผ้าห่มที่คุณเอามาห่อตัวคุณเอง ให้ใส่ใจกับความถี่ในการใช้มัน โดยปกติจะซักไม่น้อยกว่าเดือนละครั้ง

7. แจ็คเก็ตและเสื้อโค้ท

© Diggzy / Hall / Pena, PacificCoastNews.com / East News © Dylan Travis / ABACA / Abaca / East News
(ซ้าย: ทุกๆ 3 เดือน ขวา:ไม่ต้องซัก)
แจ็คเก็ตควรซักประมาณหนึ่งครั้งในทุก 3 เดือนด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ เสื้อคลุมภายนอกที่ไม่ได้สัมผัสกับผิวหนังไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดบ่อยๆ เคล็ดลับคือ: ใส่ลูกเทนนิสหลายลูกลงในเครื่องซักผ้าเพื่อป้องกันไม่ให้ขนจับเป็นก้อน
วิธีการขจัดคราบบนเสื้อโค้ทควรจะละเอียดมาก: อ่านฉลากและทำความเข้าใจก่อน เสื้อโค้ทส่วนใหญ่ไม่สามารถซักทำความสะอาดได้ เสื้อขนเป็ดบางครั้งก็ไม่สามารถทความสะอาดได้ (ควรสอบถามร้านค้าให้ชัดเจนก่อนซัก)

8. หมอนกับผ้านวม

© belchonock / depositphotos © AntonMatyukha / depositphotos
(บน: ทุกๆ 3 เดือน ล่าง: ทุกๆ 6 เดือน)
สิ่งสกปรกและไขมันจากผมและผิวหนังแทรกอยู่ในหมอน และอาจทำให้เกิดเชื้อราในใยของหมอนที่ไม่ได้ซักด้วยเครื่องซักผ้ามานานหลายปี มันดึงดูดไรฝุ่นที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ การทำความสะอาดหมอน ทุกๆ 3 เดือนก็เพียงพอแล้ว
ควรทำความสะอาดผ้านวมทุกๆ 6 เดือน พวกมันไม่สกปรกเหมือนหมอน

9. ผ้าโปร่ง Tulle กับม่าน

© olenka-2008 / depositphotos © ginasanders / depositphotos
(ซ้าย: ทุกๆ 6 เดือน ขวา: ทุกๆ ปี)
ควรทำความสะอาดม่านหนาที่แขวนอยู่ที่ด้านข้างหน้าต่างปีละครั้งหากคุณดูดฝุ่นเป็นประจำ เพื่อป้องกันเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ อย่างเช่น ไรฝุ่น
ผ้าโปร่งแขวนอยู่ตรงกลางและดักจับสิ่งสกปรกและฝุ่นที่ลอยเข้ามาในบ้านผ่านทางหน้าต่างที่เปิดอยู่ นั่นเป็นสาเหตุที่ควรทำความสะอาดอย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน

โบนัส: สามารถทำความสะอาดผ้าม่านห้องน้ำได้เช่นกัน

© VitalikRadko / depositphotos
ผ้าม่านห้องน้ำจะมีคราบสบู่ที่เหลืออยู่ ถ้าผ้าม่านทำจากโพลีเอสเตอร์หรือสิ่งทอสามารถทำความสะอาดได้โดยเครื่องซักผ้า
หากมีเชื้อราอยู่บนนั้น ก่อนอื่นคุณต้องแช่มันเป็นเวลาหลายชั่วโมงโดยใช้น้ำส้มสายชูแล้วแปลงคราบออกไป หลังจากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุณหภูมิ 60°C แล้วเติมผงฟูลงไปครึ่งถ้วย
อย่างไรก็ตามการทำความสะอาดเสื้อผ้าเครื่องใช้นั้น ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของแต่ละประเทศ อากาศร้อนเราจะมีเหงือมากก็ควรทำความสะอาดให้บ่อยขึ้น สุดท้ายแล้วมันก็ต้องขึ้นอยู่กับความสะบายใจของแต่ละคนด้วย และการเผชิญกับสิ่งต่างๆอย่างคราบสกปรก หรือหากรู้สึกว่ามันสกปรกแล้วก็ทำไปเถอะเพื่อความสะบายใจ

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน