9 ท่าออกกำลังกายที่ทำให้คุณสง่างามเหมือนนักบัลเล่ต์เลยทีเดียว

การมีบุคลิก​ท่าทางที่ดีนอกจากจะทำให้คุณมีภาพลักษณ์ที่ดีแล้ว​ แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพของคุณโดยรวมอีกด้วย ท่าทางที่ดีช่วยให้กระดูกกล้ามเนื้อและข้อต่อของคุณอยู่ในแนวที่ถูกต้องและสมดุลทั้งยังช่วยทำให้กระดูกสันหหลังผ่อนคลาย ในทางกลับกันท่าทางที่ไม่ดีนั้นสามารถนำไปสู่อาการปวดหัว​ ปวดคอ และปวดหลังได้

ท่าที่ไม่ถูกต้องอาจไม่ได้เกิดจากลักษณะโครงสร้างร่างกายที่ผิดปกติ แต่อาจเกิดจากกล้ามเนื้อที่ขาดความสมดุลมีการอ่อนแอหรือเกร็งตัวเกินไป ทำให้คุณเกิดอาการบาดเจ็บบริเวณ​ต่างๆ ถ้าคุณรู้ว่ากล้ามเนื้อส่วนใดมีปัญหาก็จะสามารถแก้ไขอาการบากเจ็บเหล่านั้นได้
เราได้ทำการวิจัยและคัดเลือกท่าออกกำลังกายเหล่านี้มาเพื่อให้เพื่อนๆของเราทุกๆคน

1. ท่ายืดหันหน้าเข้ามุม

การยืดหันหน้าเข้ามุมช่วยยืดกล้ามเนื้อไหล่และหน้าอก​ ท่านี้เป็นท่าที่คุณสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลาเลยทีเดียว

-ยืนหันหน้าเข้าหามุมห้อง
-ก้าวเท้าข้างหนึ่งไปข้างหน้าเพื่อให้ทรงตัวได้ดีขึ้น
-วางมือลงบนผนังโดยให้ข้อศอกอยู่ต่ำกว่าไหล่เล็กน้อย
-โน้มตัวเข้าหามุมห้องเพื่อยืดกล้ามเนื้อหน้าอกและไหล่
-ค้างไว้ 20 วินาทีและกลับสู่ท่าเริ่มต้น ทำซ้ำ 3 ครั้ง

2. ท่ายกขาไปด้านข้าง

แม้ว่าการยกขาไปด้านข้างจะรวมอยู่ในการออกกำลังกายร่างกายส่วนล่าง แต่ก็เป็นท่าที่ช่วยในการรักษาท่าทางที่ดีได้อีกด้วย คุณควรตั้งหลับและศรีษะของคุณให้ตรง​และไม่ห่อไหล่ในขณะที่ทำท่านี้​ ท่านี้ทำให้กล้ามเนื้อหลังของคุณแข็งแรงขึ้นอีกด้วย

-ยืนตรง​และวางมือไว้บนสะโพก
-ถ่ายน้ำหนักตัวไปทางขาขวา​ รักษาหลังของคุณให้ตรงและยกขาซ้ายขึ้น
-วางขาซ้ายลงที่เดิม
-ทำ 10 ครั้งต่อข้าง​ และทำซ้ำทั้งหมด 3 รอบ
-คุณสามารถจับเก้าอี้หรือผนังเพื่อเพิ่มความมั่นคงและปลอดภัยได้

3. ยืดเข่าท่าสามเหลี่ยม

การยืดเข่าท่าสามเหลี่ยมช่วยเปิดหัวไหล่และกล้ามเนื้อหน้าอก​ ทั้งยังช่วยบรรเทาอาการปวดหลังส่วนล่างได้อีกด้วย

-วางเท้าสองข้างให้ห่างกันพอสมควร
-หมุนเท้าซ้ายของคุณทำมุมตั้งฉากกับขาขวา​ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหัวเข่าของคุณอยู่ในแนวเดียวกับกึ่งกลางของข้อเท้า
-ยกแขนขึ้นไปจนถึงระดับไหล่​ เพื่อยืดกล้ามเนื้อหน้าอก​ หัวไหล่​ และเงยศรีษะขึ้นมองตามมือ
-งอเข่าซ้ายและวางมือซ้ายลงด้านหน้าและสลับยกมือขวาขึ้นและค่อยๆหันศีรษะไปทางขวา​
-ค้างไว้ 1 นาทีแล้วค่อย ๆ กลับไปที่สู่ท่าเริ่มต้น
-ทำสลับกัน2ข้าง​ และทำซ้ำ 3 ครั้ง

4. การยืดท่าลูกสุนัข

การยืดท่าลูกสุนัขเป็นอีกหนึ่งการออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยมหากคุณต้องการการพักผ่อนและยืดเปิดหัวไหล่

-เริ่มต้นด้วยการวางมือ​ แขน​ หัวไหล่และหัวเข่า​บนพื้น โดยที่งอข้อสะโพกขึ้นดังภาพ
-เลื่อนมือไปข้างหน้าให้หน้าผากและหน้าอกติดพื้น
โดยที่คุณไม่รู้สึกปวดคอ
-ค้างอยู่ในท่านี้เป็นเวลา 1 นาทีแล้วค่อย ๆ กลับไปที่ท่าเริ่มต้นด้วยการเลื่อนมือย้อนกลับมาทางหัวเข่า
-ทำซ้ำ 3 ครั้ง

5. การยืดท่าแมววัว

การยืดท่าแมววัวนี้จะช่วยยืดกระดูกสันหลังของคุณ​ เปิดกล้ามเนื้อหน้าอกและหัวไหล่​ ทั้งยังช่วยคลายความตึงเครียดที่คอลำตัวและหัวไหล่อีกด้วย

-เริ่มต้นด้วยการตั้งท่าคลาน​ วางมือสองข้างให้ตรงกับหัวไหล่​ และงอข้อสะโพกให้ตั้งฉากกับหัวเข่า
-เงยหน้าขึ้นมองเพดานและแอ่นหลังของคุณให้ลงสู่พื้นให้มากที่สุด
-จากนั่นโก่งหลังของคุณขึ้นสู่เพดานให้มากที่สุดในขณะที่ก้มศรีษะมองลงมาที่พื้น
-ทำท่านี้ซ้ำเป็นเวลา 1 นาที

6. ยืดท่าสุนัขก้มตัว

การยืดท่าสุนัขก้มตัวนั้นเป็นการยืดหัวไหล่และกล้ามเนื้อหลังส่วนบนได้ดี​ ทั้งนี้ยังช่วยเสริมความแข็งแรงและจัดแนวกล้ามเนื้อหลังให้สมดุล

-เริ่มต้นจากการวางมือและหัวเข่าลงที่พื้น​ ให้หัวไหล่ตรงกับข้อมือและงอข้อสะโพกเหมือนท่าตั้งคลาน
-จิกเท้าลงกับพื้นและยกสะโพกขึ้น รักษาองศาของศรีษะให้แนบกับต้นแขน ค้างไว้ 1 นาที
-ค่อยๆงอเข่าของคุณวางลงบนพื้นและกลับไปที่ท่าเริ่มต้น ทำซ้ำ 3 ครั้ง

7. ยืดท่างูเห่า

ท่างูเห่าเป็นท่ายืดเหยียดที่อ่อนโยนต่อข้อไหล่และกล้ามเนื้อช่วงอกของคุณ​ ทั้งยังช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหลังด้วย

-นอนคว่ำและเอามือวางไว้ข้างลำตัว​ งอศอกให้ต่ำกว่าระดับไหล่เล็กน้อย​ จากนั้นเหยียดข้อศอกและยกศรีษะและลำตัวช่วงบนขึ้น ทำท่านี้ค้างไว้อย่างน้อย 20 วินาที
-จากนั้นค่อย ๆ งอศอกกลับไปที่ท่าเริ่มต้น ทำซ้ำ 3 ครั้ง

8. ท่าคันธนู

ท่าคันธนูนั้นช่วยยืดเหยียดเปิดหัวไหล่และกล้ามเนื้อหน้าอกพร้อมกับเสริมกำลังกล้ามเนื้อด้านหลังด้วย ท่านี้เป็นหนึ่งในท่าที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแก้ท่าทางที่ไม่ดี

-นอนคว่ำในขณะที่วางมือไว้ข้างลำตัว
-งอเข่าของคุณและเอามือจับข้อเท้าทั้งสองข้าง​ หัวเข่าไม่ควรกางมากกว่าสะโพก
-ใช้มือดึงยกเท้าและยกต้นขาขึ้น ค้างไว้ 30 วินาที กลับไปยังท่าเริ่มต้นอย่างช้าๆ ทำซ้ำ 3 ครั้ง

9. ท่าต้นไม้


ท่าต้นไม้เป็นการยืดเหยียดเพื่อเปิดข้อไหล่และเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหน้าท้อง

-ยืนตัวตรงแล้วถ่ายน้ำหนักตัวเล็กน้อยไปที่เท้าขวา ยกเข่าซ้ายขึ้น​ จากนั้นวางเท้าซ้ายไว้ที่ต้นขาด้านในหรือหน้าแข้งของขาขวา​ ถ้าวางสูงถึงต้นขาก็จะเพิ่มความท้าทายมากขึ้น
-เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องและหลัง​ โดยประสานมือทั้งสองข้างไว้ที่หน้าอก​ และยกมือทั้งสองขึ้นไปที่เพดาน ค้างไว้ประมาณ1นาที  จากนั้นค่อย ๆ กลับไปที่สู่ท่าเริ่มต้น

คุณพร้อมที่จะออกกำลังกายเพื่อปรับท่าทางให้ดีขึ้นหรือยัง? คุณมีการออกกำลังกายของคุณเองที่คุณใช้เป็นประจำเพื่อให้ได้ท่าทางที่ดีและสมดุลหรือไม่? ถ้าคุณมีท่าโปรดของคุณแนะนำเราบ้างนะในเพจของเรา

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside —รูปภาพโดย © Shutterstock.com เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน