ในหนึ่งปีมี 365 วันแบ่งเป็นคิดเป็นจำนวน 52 สัปดาห์นิดๆ สำหรับผู้ชายที่ต้องเข้าร้านทำผมก็จะเว้นระยะห่างประมาณสี่ถึงห้าสัปดาห์ต่อครั้ง แต่สำหรับคุณสุภาพสตรีบางคนนั้นกลับเลือกที่จะไปร้านทำผมทุกหนึ่งหรือสองสัปดาห์เลย ทำไมคนเราถึงจะต้องไปร้านทำผมทั้งที่เจ้าผมของมนุษย์เรานี้มันก็มีค่าเฉลี่ยในการเติบโตหรือจะเรียกได้ว่ายาวขึ้นด้วยความเร็ว 0.35 มม. (ประมาณ 0.13 นิ้ว) ต่อวันแต่ของบางคนก็อาจจะเร็วกว่านั้น ซึ่งหากคุณตัดผมออก 2 นิ้วและละก็ต้องก็ต้องใช้เวลาเกือบ 5 เดือนในการรอค่อยให้มันกลับมายาวเท่าเดิม นั้นเป็นที่มาของการที่บางคนเลือกที่จะไปร้านทำผมให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ตรงกันข้ามมีเพื่อนของเราอีกจำนวนมากที่อยากจะไปร้านทำมทุกสัปดาห์ด้วยเหตุผลที่ว่า หลังจากที่เค้าเดินออกมาจากร้านทำผมแล้วมันยิ่งทำให้เค้ารู้สึกมั่นใจ แล้วอะไรละที่ทำให้เกิดสิ่งนี้ขึ้นทั้งๆที่ร้านและช่างทำผมก็เป็นร้านเดียวกันและช่างคนเดียวกันซะด้วย

วันนี้พวกเราเพลินเพลินก็เลยอยากจะแวะเอาเกล็ดเล็กๆของเพื่อนเพื่อนที่ทำให้การเข้าร้านทำผมของคุณครั้งต่อไปออกมาดูสร้างความมั่นใจให้กับเพื่อนเพื่อนมากกว่าที่เคยเป็นมานั้นเอง

มาเริ่มกันที่สิ่งแรกกันเลยดีกว่านั้นก็คือการเลือกทรงผม
©deposits
เพื่อนของเราหลายคนคิดไปเองว่าการที่เห็นดาราคนโปรดหรือดาวเด่นสักคนทำผมทรงไหนก็ได้แล้วก็ออกมาดูดีไปหมด ซึ่งก็อยากจะเอามาทำตามบ้างเพราะดูแล้วเค้าเหล่านั้นช่างเฉิดฉายซะเหลือเกิน แต่คุณทราบหรือไมว่ากว่าคนดังๆเหล่านั้นจะเปลี่ยนทรงผมหรือทำอะไรแต่ละอย่างนั้นมันไม่ได้เกิดจากความบังเอิญหรืออะไรก็ได้อย่างที่คุณคิดหรอกนะ ทุกอย่างมันล้วนอยู่ในกรอบและการคิดอย่างถี่ถ้วนหรือถึงขั้นอาจจะมีขั้นตอนในการเลือกเพื่อให้ทรงผมใหม่นั้นออกมาดูดีที่สุด เพราะทรงผมบางอย่างนั้นดีสำหรับบางคน แต่ก็อาจจะไม่เหมาะกับบางคนเช่นกัน ดังนั้นก่อนที่คุณจะตัดสินใจเลือกในการเปลี่ยนแปลงทรงผมเราอยากให้คุณลองปรึกษาช่างที่อยู่ข้างหน้าคุณหรือลองขอคำแนะนำสักเล็กน้อยก่อนที่คุณจะยืนยันทรงผมของคุณอีกครั้ง และสำหรับงานพิเศษอย่างงานเลี้ยงแต่งงานหรืองานที่คุณไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่คาดคิดด้วยละก็ เรายังมีอีกหนึ่งอย่างที่คุณสามารถทำได้นั้นก็คือการทดลองทำทรงผมเหล่านั้นก่อนวันจริงจะมาถึงนั้นเอง ขอยกตัวอย่างเรื่องงานแต่งงานที่ทรงผมของเจ้าสาวต้องพิเศษอย่างมากเพราะมันต้องเข้ากับเสื้อผ้าหน้าผมและยังต้องทำให้เจ้าตัวรู้สึกมั่นใจมากมาก ดังนั้นเป็นการดีอย่างมากที่คุณจะลองทำผมเหมือนวันจริงก่อนเพื่อที่จะได้ทราบว่ามันออกมาดีอย่างที่คุณคิดหรือเปล่านั้นเอง มาถึงเรื่องต่อมานั้นก็คือการทำสีผมนั้นเอง สิ่งแรกที่เราจะบอกให้เพื่อนเพื่อนที่อยากจะเปลี่ยนสีผมทราบไว้ก่อนเลยนั้นก็คือการทำสีในแต่ละครั้งนั้นมันอาจจะได้สีออกมาไม่เหมือนอย่างที่เราคิด ด้วยเหตุผลอย่างแรกค่อสถาพของเส้นผมของคุณเอง สองตัวสีที่เลือกใช้ ถึงแม้ว่าคุณจะใช้ช่างคนเดิม สีเดิมก็ตามมันก็อาจจะออกมาไม่เหมือนเดิมได้ดังนั้น หากคุณต้องการเปลี่ยนสีผมเป็นสีสันใหม่ๆขอให้เผื่อใจเล็กเอาไว้เลยว่าอาจจะได้แค่สีที่ใกล้เคียงเท่านั้น

การเลือกชุดเสื้อผ้าที่จะใส่ในวันที่จะเข้าร้านทำผม
เพื่อนๆอาจจะงงได้ว่าทำไมเราจึงบอกแบบนี้แล้วเสื้อผ้ามันไปเกี่ยวอะไรด้วย อย่างแรกเลยคือบางคนเลือกที่จะไปตัดผมในช่วงเวลาว่างหลังเลิกงานดังนั้นชุดที่ใส่ไปอาจจะยังเป็นเสื้อสูทหรือชุดทำงานที่อาจจะพอดีตัวไปสักหน่อย ซึ่งขั้นตอนในการสระผมและตัดผมอาจจะทำให้ชุดของคุณเลอะได้นั้นเอง และอย่างที่สองคือเราอยากให้คุณเลือกเสื้อที่คุณใช้อยู่บ่อยๆ หรือชุดที่คุ้นเคยเพราะนั้นคือสไตล์การแต่งตัวที่คุณชอบและมั่นใจนั้นเอง จากสิ่งนี้จะช่วยให้ช่างทำผมสามารถแนะนำทรงผมที่เข้ากับคุณได้ไม่ยากและมันน่าจะลงตัวมากขึ้นสำหรับการเข้าร้านตัดผมครั้งนี้สำหรับคุณ

การนั่งนิ่งๆจะช่วยทำให่้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีอย่างรวดเร็ว
คำแนะนำนี้ของเราเกิดจากประสบการณ์จริงของทั้งช่างทำผมและคนที่มาทำผม อยากที่เราบอกเกริ่นไปในตอนต้นว่าการนั่งนิ่งๆ จะช่วยทำให้ทุกอย่างออกมาดีนั้นก็เพราะว่า ถ้าคุณขยับเคลื่อนไหวตลอดเวลาการกะหรือวัดความยาวของเส้นผมข้างซ้ายและขวาก็จะทำได้ยากขึ้นอีกทั้งการขยับของเราแต่ละอาจจะทำในจังหวะที่ช่างกำลังตัดหรือเล็มผมอยู่ซึ่งมันคงไม่ดีแน่กับจังหวะแบบนี้ อีกอย่างที่เราอยากจะแนะนำนั้นก็คือท่านั่ง เพราะการนั่งไข้วขาจะทำให้ตัวของคุณเอนไปข้างใดข้างหนึ่งซึ่งมันอาจจะทำให้การกะความสมดุลย์ในการตัดพลาดไปได้ ดังนั้นเราจึงอยากขอแนะนำว่าเพื่อนๆลองปิดโทรศัพท์สักครู่และนั่งพิงพนักพิงของเก้าอี้ให้สบายพยายามทำตัวตรงและมองไปที่กระจกข้างหน้าเพียงเท่านี้ช่างทำผมก็จะใช้เวลาไม่นานในการทำผมให้กับเพื่อนเพื่อนแล้ว

อย่าใช้อารมณ์ในการเข้าร้านทำผม
เพื่อนเพื่อนทราบกันไหมว่า ทุกคนมีช่วงเวลาที่ไม่ควรเข้าร้านทำผมอยู่ด้วยซึ่งนั้นก็คือช่วงเวลาที่คุณกำลังรู้สึกอ่อนไหวหรือเสียใจกับอะไรบ้างอย่างอยู่นั้นเอง เราอาจจะเคยได้ยินหรือได้ฟังใครต่อใครหรืออาจจะเห็นผ่านละครมาว่าตอนที่เราหวั่นไหวการเปลี่ยนตัวเองจะช่วยทำให้อะไรหลายหลายอย่างดีขึ้น แต่นั้นมันเป็นเรื่องในละครเท่านั้นแหละในความเป็นจริงที่เราเจอนั้นก็คือเพื่อนของเราหลายคนเข้าร้านทำผมเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยการตัดผมสั้นหรือทำสีผมเพื่อให้ดูสดใส แต่สิ่งเหล่านั้นมันอาจจะไม่เข้ากับตัวคุณเลยซึ่งในช่วงที่เป็นแบบนั้นคุณก็แค่อยากจะทำอะไรสักอย่างโดยอาจจะไม่ได้สนใจสิ่งที่ตามมาด้วยซ้ำ นั้นแหละเราจึงขอแนะนำว่าจงอยู่ให้ห่างร้านทำผมยามที่คุณอารมณ์อ่อนไหว

ไม่ต้องสวมหมวกหรือจัดแต่งทรงผมในวันที่คุณจะเข้ามาที่ร้าน
เราเข้าใจว่าบางคนมีความชอบและอยากจะทำให้สิ่งที่ทำเป็นประจำแต่การที่เราสวมหมวกหรือจัดแต่งทรงผมด้วยเจลหรือสิ่งอื่นใดก็ตาม พอไปที่ร้านทำผมและการจะสระผมเพื่อทำให้สิ่งเหล่านั้นหายไปมันอาจจะไม่ง่ายเลย และการสวมหมวกก็ทำให้ผมของคุณลีบแบน ซึ่งด้วยสิ่งเหล่านี้ทำให้การตัดสินใจเลือกทำทรงผมให้คุณเป็นเรื่องที่ยากมากขึ้นนั้นเอง ดังนั้นครั้งหน้าที่คุณจะไปที่ร้านก็เพียงแค่สระผมและเลือกชุดที่คุณใส่ประจำแล้วออกไปที่ร้านเท่านั้นก็พอแล้วที่เหลือก็ให้ช่างทำผมเค้าแนะนำแล้วค่อยๆตัดสินใจก็เท่านั้นเอง

เราขอแนะนำให้คุณบอกความยาวของผมที่ต้องการกับช่างให้ชัดเจน
สำหรับเพื่อนเพื่อนที่อยากจะไว้ผมยาวหรือรู้สึกดีกับความยาวของผมที่มีอยู่ เราอยากจะแนะนำว่าเวลาที่เพื่อนเพื่อนไปทำผมหรืออาจจะตั้งใจแค่ไปซอยผมให้เข้าทรงให้บอกช่างไปเลยก่อนจะเริ่มตัดผมว่าต้องการให้เหลือความยาวอยู่แค่ไหน เพระการบอกเพียงแค่ว่าเล็กน้อยในความเข้าใจของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน บางคนอาจจะคิดว่าห้าเซนติเมตรมันน้อยแต่สำหรับคุณแล้วอาจจะต้องการแค่เอาออกเพียงหนึ่งหรือสองเซนติเมตรเท่านั้น และเราก็เห็นมานักต่อนักแล้วกับการบอกลอยๆว่าซอยนิดเดียวเพราะนิดเดียวของเราไม่เท่ากันไงละ ดังนั้นครั้งหน้าบอกให้ชัดเจนไปเลยว่าตัดออกหนึ่งเซนติเมตรเป็นต้น

การทำผมบางอย่างต้องการการดูแลมากกว่าที่คุณคิด
© Luis Quintero / Pexels
เพราะการทำผมอย่างเช่นการดัด หรือ การย้อมเปลี่ยนสีผมนั้นมันไม่ได้จบเพียงแค่คุณเดินออกมาจากร้านทำผมแต่มันมีอีกหลายอย่างที่จะตามมาด้วยเช่นคุณจะต้องทำการบำรุงและดูแลความชุมชื่นที่ขาดหายไปจากขั้นตอนของการดัดผมและย้อมผมนั้นเอง ดังนั้นหากคุณไม่แน่ใจกับขั้นตอนต่าง ๆ ที่จะตามมาละก็ให้เพื่อนเพื่อนลองสอบถามคนใกล้ตัวที่เคยทำมาก่อน เพื่อเป็นข้อมูลและเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจนั้นเอง

เพียงเท่านี้การเข้าร้านทำผมของคุณในครั้งต่อไปก็จะทำให้คุณได้สิ่งที่ต้องการหรือทรงผมที่ตรงใจและเหมาะกับคุณแล้ว
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน