หากเพื่อนเพื่นเป็นคนชอบอ่านหนังสือหรือนิยายหรือชอบชมภาพยนตร์แนวจิตนาการแฟตาซีแล้วละก็ คุณคงต้องมีชื่อของภาพยนตร์ในดวงใจอย่างแน่นอนและหากย้อนกลับไปเมื่อเราราว 10 ปีก่อนหนึ่งได้ค่ายนแนวแฟนตาซีที่ต้องอยู่ในเช็คลิสต์ของการอ่านและการชมภาพยนตร์ของพวกเราในตอนนั้นก็คือภาพยนตร์ Harry Potter นั้นเองซึ่งเรื่องราวของโลกแห่งเวทมนตร์หลังจากการพ่ายแพ้ของโวลเดอมอร์ ยังคงเป็นที่สงสัยของใครอีกหลายคนและบางคนก็พยายามหาข้อสังเกตุบางอย่างจากเนื้อเรื่องในหนังสือ

แม้ว่าผลงานของผู้เขียนจะบอกถึงเรื่องราวในจุดสุดท้ายของเนื้อเรื่องที่พวกเราติดตามกันมาหลายปีได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ แต่ในท้ายที่สุดก็ยังมีอีกหลายคำถามที่เหล่าแฟนแฟนนั้นยังคงคิดคำนึงถึงเรื่องราวเหล่านั้น ด้วยความเป็นไปได้ต่าง ๆ นานาที่จะเผยให้เห็นสิ่งที่เป็นความคิดอันลึกซึ้งของเหล่าแฟนแฟนที่มีต่อเรื่องราวและตัวละครที่พวกเค้าชื่นชอบนั้นเอง ลองมาติดตามชมกันสักหน่อยสิว่า เพื่อนเพื่อนของเราจะมีจินตนาการในการคิดสร้างสรรค์และตั้งคำถามขนาดไหน

มีใครสงสัยเหมือนกันไหมว่าทำไมรูปดัมเบิลดอร์ถึงไม่ช่วยให้แฮร์รี่เจอฮอร์ครักซ์ (ในเรื่องภาพต่าง ๆ จะบอกและพูดคุยกับคนอื่นๆ ได้)
© Warner Bros. Pictures
ยังคงเป็นคำถามที่ค้างคาอยู่ในความทรงจำของพวกเราเกี่ยวกับการตามหาฮอร์ครักซ์ เพื่อจัดการกับโวลเดอมอร์แต่เหตุไฉนเลยภาพของดัมเบิลดอร์ที่วางอยู่ในห้องกลับไม่บอกเรื่องราวที่จำเป็นให้กับตัวละครหลักของเรา และคำตอบของคำถามนี้ก็ถูกเฉลยออกมาว่า อันที่จริงแล้วภาพที่เราเห็นเคลื่อนไหวได้นั้นจะมี 2 แบบนั้นคือภาพของเจ้าตัวจริง ๆ ที่มีทั้งความคิดและความทรงจำของเจ้าของภาพ และอีกแบบหนึ่งคือภาพที่เป็นเพียงภาพถ่ายหรือภาพวาดธรรมดาที่ถูกสร้างขึ้นมาเท่านั้นโดยอย่างหลังนั้นก็จะมีข้อจำกัดบางอย่าง นั้นก็คือเราต้องมีการใส่ข้อมูลเข้าไปให้และสิ่งที่ภาพรู้ก็จะ การตั้งแต่มีการถ่ายภาพเท่านั้นไม่สามารถรู้เรื่องราวต่างๆย้อนหลังไปได้ และภาพเหมือนของดัมเบิลดอร์ก็เป็นแบบหลังดังนั้นจึงบอกได้เฉพาะสิ่งที่รู้ในตอนที่มาวางไว้ที่ฮอกวอตส์แล้วเท่านั้น กับเป็นไปได้ว่ามีความรู้และภูมิปัญญาที่อาจารย์ใหญ่แบ่งปันกับภาพเหมือนของเขาเพียงบางส่วนเท่านั้น ดังนั้น ถ้าอัลบัสไม่ได้บอกภาพวาดเกี่ยวกับฮอร์ครักซ์ แสดงว่าภาพวาดก็ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับฮอร์ครักและมันก็ช่วยแฮร์รี่ไม่ได้นั้นเอง

พ่อแม่ของ Neville Longbottom จะเป็นเช่นไรเมื่อปราบโวลเดอมอร์ได้แล้ว
© Harry Potter and the Order of the Phoenix
ตัวละคร Neville นั้นเรียกได้ว่าเป็นผู้ช่วยสำคัญในตอนปิดฉากเลยก็ว่าได้ แล้วพ่อแม่ของเค้าที่ไม่สบายเนื่องจากถูกสมุนของโวลเดอมอร์จัดการนั้นต้องไปจบลงที่โรงพยาบาล St Mungo ซึ่งหลายคนก็คาดคิดไปว่าเมื่อทุกอย่างจบลงแล้วพวกเค้าน่าจะหายดีขึ้นและสามารถกลับมาอยู่กับลูกๆของเค้าได้ แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอกนะเพราะ เจเคได้บอกเอาไว้ว่ามันคือสิ่งที่เกิดขึ้นและได้รับผลไปแล้วโดยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวของโวลเดอมอร์เลยดังนั้นไม่ว่าโวลเดอมอร์จะคงอยู่หรือถูกจัดการไปได้แล้ว พ่อแม่ของ Neville จึงไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกนั้นเอง

เคยคิดกันเล่นๆบางไหมว่าถ้าฮอกวอตส์เปิดรับนักเรียนได้และเราก็สามารถที่จะเป็นหนึ่งในนักเรียนพวกเราจะต้องเตรยมค่าใช้จ่ายเอาไว้เท่าไร?

ซึ่งเมื่อเราลองคำนวนเล่นๆแล้วก็ได้ยอดรวมออกมาแล้วสำหรับ 7 ปีนั้นก็คือราว ๆ สามแสนดอลลาร์นั้นเองคิดแล้วก็ต้องถ่อยหลังกันเลยดีกว่าเพราะมันก็เยอะอยู่เหมือนกัน และเมื่อข้อความนี้ถูกโพส์ออกไป เจเคโรลลิ่งได้ปลอบใจแฟนๆ ของหนังสือของเธอด้วยการบอกว่าถึงแม้จะไม่ได้เข้าเรียนที่นี้แต่กระทรวงเวทมนตร์ก็เป็นผู้จ่ายค่าเข้าชมฮอกวอตส์ให้ได้หากเหล่าแฟนๆต้องการที่จะมาเยี่ยมเยี่ยน

เมื่อคุณกลายเป็นแอนิเมจัส (ความสามารถในการแปลงร่างได้) คุณสามารถเลือกสัตว์ที่จะแปลงเป็นได้หรือไม่?
© Warner Bros. Pictures
มีการบอกอย่างชัดเจนเลยจากผู้เขียนถึงเรื่องนี้โดย เจเคกล่าวว่าเราไม่สามารถเลือกในสิ่งนั้นได้นั้นก็เพราะ “ถ้าเราสามารถเลือกแอนิเมจัสของเราได้ แล้วละก็พวกเราทุกคนก็คงจะเลือกเป็นสิงโต ลูกสุนัขที่น่ารัก หรือนกอินทรีที่สง่างาม ดังนั้นมันจะไม่มีทางเลยที่จะมีรูปร่างของสิ่งที่เราไม่ชอบกันดังนั้นแล้วการเป็นแอนิเมจัสจึงเชื่อมโยงกับบุคลิกของคุณแต่ละคนเพื่อให้สิ่งที่เหมาะสมกันมากที่สุดแทนที่จะเป็นสิ่งที่เราอยากเป็นต่างหาก” อย่างไรก็ตาม การเรียนรู้เวทย์มนตร์นี้ยากจริงๆ และไม่ใช่ผู้วิเศษทุกคนจะทำได้ แต่พ่อมดหลายคนสามารถค้นหาได้ว่าพวกเขาจะเป็นสัตว์อะไร โดยปกติ สัตว์ที่แอนิเมจัสจะกลายเป็นสัตว์ชนิดเดียวกับผู้พิทักษ์ ตัวอย่างเช่น ของเจมส์ พอตเตอร์เป็นกวาง และของมิเนอร์วา มักกอนนากัลเป็นแมว

จากสิ่งของที่ตัวเอกทั้งคู่ของเราได้ครอบครองนั้นก็คือ ครอบครัวของโวลเดอมอร์จะมีศิลาคืนชีพ และครอบครัวของพอตเตอร์มีผ้าคลุมล่องหน ลอร์ดแห่งศาสตร์มืดและแฮรี่เป็นญาติกันไม่ใช่หรือ?
© Warner Bros. Pictures
แน่นอนว่าตระกูลพ่อมดแม่มดเกือบทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องกันหากคุณติดตามพวกเขาย้อนเวลาไปหลายศตวรรษ แต่ครอบครัวของตัวเอกของเรานั้น ค่อนข้างเป็นญาติห่างๆโดย แฮร์รี่เป็นทายาทของอิกโนตัส เพฟเวอเรลล์ ผู้มอบเสื้อคลุมให้ลูกชายของเขา ลูกชายมีลูกสาวที่แต่งงานกับฮาร์ดวิน พอตเตอร์ จากนั้นเสื้อคลุมก็ถูกมอบให้กับลูกคนแรกทุกคนในตระกูลพอตเตอร์ และสุดท้ายก็ตกไปอยู่ในความครอบครองของปู่ทวดของแฮร์รี่

สเนปมีโอกาสได้อยู่กับลิลลี่หรือไม่?
© Warner Bros. Pictures
หากคุณได้อ่านและติดตามไปจนถึงตอนสุดท้ายจากหนังสือและภาพยนตร์แล้วละก็ เรารู้ว่าลิลลี่ อีแวนส์ จัดให้เซเวอร์รัส สเนปเป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทหรือจะเรียกว่าอยู่ในเฟรนด์โซนของคนแอบรักเพื่อนเลยก็ว่าได้ แต่หากเราลองทบทวนตามคำกล่าวของโรว์ลิ่งแล้วละก็ พวกเขาอาจจะสามารถกลายมาเป็นคู่รักกันก็ได้ แต่เพราะสเนปต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ใหญ่กว่า ทรงพลังกว่า และน่าประทับใจกว่า ดังนั้นเขาจึงมองข้ามความรู้สึกดีดีเล็กๆนั้นไปเพราะความกระหายในศาสตร์มืด และเขาคิดว่าเขาสามารถสร้างความประทับใจให้กับลิลลี่ได้โดยกลายเป็นผู้ใช้พลังจากส่วนนั้น นั้นทำให้เค้ากลายมาเป็นอย่างที่เราทราบนั้นเอง

ทำไมแฮร์รี่ไม่แก้ไขสายตาของเขาด้วยเวทมนตร์?
© Warner Bros. Pictures
ในเมื่อหลายอย่างสามารถทำได้แต่ทำไมแฮร์รี่ไม่ใช้เวทย์มนตร์แก้ไขสายตาของเขาในตอนที่ได้รับบาดเจ็บ ? ซึ่งตามที่โรว์ลิ่งกล่าวไว้ ว่าอาการบาดเจ็บที่เกิดจากเวทมนตร์ไม่สามารถรักษาให้หายได้อย่างสมบูรณ์มันเหมือนกับการที่เราต้องมีร่องรอยต่าง ๆ หลงเหลือเอาไว้เมื่อเราหกล้มนั้นเอง

พิทูเนียไม่ชอบหลานชายของเค้ามากขนาดนั้นจริงหรือ?
© Warner Bros. Pictures
ถ้าถึงเรื่องนี้คงต้องบอกว่า อันที่จริงแล้วมันเป็นความรู้สึกทั้งรักและทั้งไม่ชอบที่ถูกแสดงออกและเก็บเอาไว้ภายในซะมากกว่า เพราะอันที่จริงแล้วพิทูเนียก็อยากเป็นเหมือนน้องของเธอที่มีพลังของเวทมนต์ และเธอก็ต้องผิดหวังเมื่อรู้ว่าเธอทำไม่ได้ แต่ลึกๆ แล้ว เธอรักแฮรี่และอยากให้เขาเจอแต่สิ่งดีดี แต่เธอก็อดไม่ได้แสดงออกมาให้คนอื่นๆเห็น เและเธอพยายามอย่างหนักที่จะเชื่อว่าเธอไม่สนใจเขานอกจากนี้ จนถึงวันที่เธอจากไป เธอก็ยังเก็บผ้าห่มของแฮร์รี่ที่ถูกพามาหาเธอในวันแรกเอาไว้อย่างดี

โบนัส: นักแสดงนำรู้หรือไม่ว่าเรื่องราวจะจบลงอย่างไร?
© Warner Bros. Pictures
อย่างที่พวกเราทราบกันดีอยู่แล้วว่าการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกสร้างและดำเนินการในระหว่างที่หนังสือก็ยังคงถูกเขียนออกมา ซึ่งเป็นข้อสงสัยอย่างมากเลยว่าเหล่านักแสดงและถูกสร้างทั้งหลายที่อยู่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังเรื่องราวที่เราชมนั้น พวกเค้าจะรู้เรื่องราวความเป็นไปในตอนจบก่อนที่หนังสือเล่มสุดท้ายจะวางแผงหรือไม่ ซึ่งคำตอบที่ได้ก็คือพวกแทบจะไม่มีใครทราบเรื่องราวในตอนสุดท้ายเลยเพราะแต่ละคนก็หลีกเลี่ยงที่จะฟังเรื่องราวเหล่านั้น และหลายคนถึงขนาดที่ว่าไม่อยากพูดถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นด้วยซ้ำ เพราะพวกเค้าต่างต้องการอ่านและโลดแล่นไปกับจินตนาการในตอนสุดท้ายๆ อย่างสนุกสนานดีกว่าได้รับรู้แค่จุดเล็กๆน้อยๆ ที่อาจจะมีเท่านั้นเอง

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน