5 เรื่องราวความบังเอิญที่ดูเหมือนเป็นพรหมลิขิต

เพื่อนเพื่อนเคยเจอสถาณะการณ์ที่คาดไม่ถึงกันมาบางอยู่แล้วละสิ อย่างบางครั้งการที่เราเดินออกจากบ้านโดยที่เผลอหยิบเอาสิ่งของบางอย่างออกมาด้วยแต่แล้วกลับกลายเป็นว่าเจ้าของสิ่งนั้นคือสิ่งที่เราจำเป็นต้องใช้งาน หรือถ้าให้บอกเรื่องขำขำอย่างทกครั้งที่ล้างรถหรือซักผ้ามักจะต้องกลายเป็นวันที่ฝนตก และที่ไม่เป็นใจที่สุดอย่างช่วงวันหยุดยาวที่เพิ่งผ่านมานั้นเองที่อากาศสุดแสนจะร้อนเหลือเกินแต่พอทำงานวันแรกฝนตกซะงั้น ฟังดูแล้วส่วนใหญ่เรามักจะเจอแต่เรื่องบังเอิญที่ไม่ค่อยถูกใจสักเท่าไหร่นัก แต่เพื่อนเพื่อนเคยคิดกันเล่นๆไหมละว่าเมื่อเราเจอเรื่องแบบนี้มันจะมีใครบางคนหรือเปล่านะที่ได้เจอเรื่องบังเอิญดีดีกับเค้าบ้าง

ซึ่งพอพวกเราเพลินเพลินได้ลองหาเรื่องราวเหล่านั้นในโลกออนไลน์ดูก็พบว่ายังมีเรื่องราวความบังเอิญที่ฟังดูแล้วน่ารักๆอีกมากมายที่เพื่อนเพื่อนของเราได้เจอวันนี้พวกเราก็เลยอยากจะลองเอามาให้เพื่อนเพื่อนได้ลองอ่านกันบ้างเพื่อว่าวันนี้หรือพรุ่งนี้ความบังเอิญดีดีแบบนี้จะเกิดขึ้นกับพวกเราบ้างยังไงละ

เหมือนพรหมลิขิต
หลายปีก่อนเราได้เจอกับสาวสวยคนหนึ่งในระหว่างทางกลับบ้าน และแน่นอนว่าเราตัดสินใจเข้าไปทำความรู้จักกับเธอทันทีในตอนแรกเธอก็ยังดูกลัวๆสักหน่อยแต่พอเราได้คุยทุกอย่างก็ดูจะเป็นใจมากขึ้น พวกเรามีหลายหลายอย่างคล้ายกันมากทั้งหนังสือที่อ่านหรือสถานที่ที่ชอบ และยิ่งรู้จักกันมากขึ้นก็ยิ่งทำให้เราทั้งคู่ประหลาดใจมากขึ้นเพราะหลังจากที่คุยกันมาได้หลายเดือนเราก็ได้ไปรับไปส่งเธอที่บ้านซึ่งเราพบว่าห้องที่เธอเช่าอยู่มันดันเป็นห้องพักเก่าของเราเองซึ่งเราย้ายออกไปเมื่อปีก่อนนั้นยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ใช่แค่คนที่บังเอิญเจอกันอย่างแน่นอน และตอนนี้พวกเราก็ได้ตกลงที่จะแต่งงานกันแล้ว

เธอคือฝาแฝดของเรา
ในช่วงหน้าร้อนของปีนี้เราได้ลาหยุดพักหนึ่งเดือนซึ่งมันเป็นการใช้วันลาหยุดที่สะสมมาหลายปีของเราเอง ต้องบอกว่ามันเป็นวันหยุดที่เราต้องจดจำไม่อีกนาน เพราะว่าในระหว่างการเดินทางไปเที่ยวเกาะแห่งหนึ่งในต่างประเทศ เราได้พบกับเพื่อนร่วมทริปหลายคนซึ่งมันก็ทำให้เราได้แลกเปลี่ยนพูดคุยในหลายหลายเรื่องแต่มีอยู่คนหนึ่งที่เราคุยแล้วรู้สึกสนิทใจมากมาก เพราะพวกเรามีหลายหลายอย่างที่เหมือนกันและในวันสุดท้ายก่อนที่เราจะแยกกันกลับตอนที่นั่งเรืออยู่เพื่อนคนนั้นของเราก็สังเกตุเห็นรอยแผลที่หลังหูของเราและเค้าก็ถามเราว่านั้นคือรอยที่ได้จากการไปรักษาตัวหรือเปล่า ซึ่งมันถูกต้องเลยแต่ที่บังเอิญกว่านั้นก็คือเค้ามีรอยเหมือนกันจากการรักษาตัวแบบเดียวกับเราเลยซึ่งพอคุยกันไปก็ยิ่งต้องประหลาดใจเพราะหมอที่ทำการรักษาให้ดันเป็นคนเดียวกันอีก “หรือเค้าจะเป็นฝาแฝดในอีกมิติคู่ขนานของเรากันแน่นะ”

มันได้ผลเสมอ
เรื่องตลกของเราคือความสามารถพิเศษของพ่อของเราเองซึ่งมันเหมือนเค้ามีพลังพิเศษที่จะทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ กลับมาใช้งานได้ชั่วคราวด้วยการเคาะเบาๆเท่านั้นเอง จุดเริ่มต้นที่เราเห็นบ่อยๆก็คือเจ้าทีวีและเตาอบที่บ้านซึ่งมันเป็นของที่มีมานานและละ และทุกครั้งที่มันเหมือนจะมีอาการทำงานไม่ได้พ่อของเราก็จะเดินเข้าไปและขยับเครื่องเล็กน้อยพร้อมกับเคาะเบาเท่านั้นเองมันก็กลับมาทำงานได้แล้ว แต่ใครจะคิดละว่ากับคอมพิวเตอร์ที่บ้านของเราก็มีผลเหมือนกันเพราะจู่ๆโน๊ตบุ๊คของเราก็เปิดไม่ติดแล้วพ่อก็เดินเข้ามาพร้อมกับขยับเครื่องเบาๆ ก่อนที่จะเคาะเบาๆที่หลังเครื่องและหลังจากนั้นมันก็เปิดติดขึ้นมาเลย พ่อหันมายิ้มเล็กๆพร้อมบอกเราว่า “มันได้ผลเสมอ” เห็นแล้วก็ตลกดีที่มันบังเอิญติดตอนที่พ่อเคาะนี้แหละ

นั้นแมวที่คุณตามหา
หลายวันก่อนเราออกไปนั่งทานกาแฟในร้านประจำของเราทำเป็นร้านแบบเปิดกว้าง มีโต๊ะให้นั่งทานกาแฟและชมบรรยากาศด้านนอกระหว่างที่เรากำลังนั่งดูคนที่เดินผ่านไปมาตามท้องถนนก็มีคนเดินเข้ามาแล้วเอาภาพแมวให้เราดูและบอกว่า น้องแมวของเค้าหายไปถ้าเคยเห็นหรือพบก็ให้ติดต่อที่เบอร์ในกระดาษหน่อย และพอเค้าพูดจบเราก็เห็นน้องแมวเหมือนในภาพค่อยๆเดินผ่านมาจากด้านหลังของเค้า ที่เราทำก็แค่บอกเค้าไปว่า “นั้นแมวที่คุณตามหาหรือเปล่า” แล้วมันก็เหมือนฉากในหนังที่เจ้าของได้พบแมวและหันมาชอบคุณเราและพยายามที่จะเลี้ยงกาแฟหรือขนมเป็นการตอบแทน

น้องต้องฟังรู้เรื่อง
มีอยู่ครั้งหนึ่งฉันไม่อยู่บ้านประมาณหนึ่งเดือน เลยฝากสัตว์เลี้ยงของเรา (นั้นก็คือเต่า) ไว้กับพ่อแม่ซึ่งพอกลับมาหลังจากเราเข้าไปทักทายคนอื่นๆเรียบร้อยแล้วกลับมาที่ห้อง เราอุ้มน้องเต่าขึ้นมาแล้วบอกว่า “คิดถึงฉันไหม” แล้วจากนั้นเจ้าเต่าก็ผยักหน้าพอดี มันเป็นจังหวะพอดีกันมากมากเลยหรือว่าน้องจะฟังเรารู้เรื่องกันแน่นะ

เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน