ความรู้พื้นฐานที่เราถูกสอนกันมาตั้งแต่สมัยยังเล็ก ด้วยข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ และหลาย ๆ ศาสตร์ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเด็กที่ได้รับการนอนหลับอย่างเพียงพอจะมีสุขภาพดี ปฏิบัติหน้าที่ที่ต้องทำ หรือแม้แต่การเรียนที่โรงเรียน ก็ได้ดีขึ้นด้วย และคนกลุ่มนี้ยังมีพฤติกรรมที่ดีและความทรงจำที่ดีอีกด้วย สำหรับการนอนนั้น คงเป็นเรื่องไม่ยากนักสำหรับคนส่วนใหญ่ ซึ่งนั้นตรงข้ามกับการตื่นเลยก็ว่าได้ เพราะการปลุกให้ตื่นนั้นแสนจะยาก เราหลาย ๆ คนก็ยังรู้สึกว่าการลุกออกจากที่นอนในตอนเช้าของวันทำงานนั้น เหมือนมีแรงดึงดูดจากเตียงซึ่งเราต้องพยายามอย่างที่สุดเพื่อให้ลุกขึ้นมาได้ แล้วถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับคุณละคุณจะมีวิธีการณ์แบบไหนบ้างเพื่อใช้ในการปลุกพวกเค้าหรือคุณมีเคล็ดลับแบบไหนกันบ้าง วันนี้เราได้ลองหาวิธีง่าย ๆ ที่จะมาลองช่วยคุณในการปลุกคนที่ไม่อยากตื่นกันดู
พวกเราตัดสินใจที่จะรวบรวมคำแนะนำที่ดีเกี่ยวกับวิธีการปลุกใครสักคนอย่างราบรื่นขึ้นสำหรับคุณและอีกหลาย ๆ คน
1. ปล่อยให้แสงแดดเข้าห้องก่อนปลุกเค้า
แสงธรรมชาติทำหน้าที่เป็นเครื่องกระตุ้นสมองของเราที่จะปล่อยเซโรโทนินซึ่งจะช่วยให้เรารู้สึกตื่นตัว ดังนั้นก่อนที่คุณจะต้องการให้พวกเขาลุกจากเตียง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า บางคนเดินเข้าไปเปิดม่านหรือหน้าต่างปล่อยให้แสงแดดเข้ามาในห้องของคนที่คุณต้องการจะปลุกประมาณ 15 นาที แล้วจึงเข้าไปปลุกอีกครั้ง
2. จำกัด แสงสีฟ้าก่อนนอน
อุปกรณ์ดิจิตอลทั้งหมด เช่น แท็บเล็ต ทีวี และสมาร์ทโฟน ล้วนปล่อยแสงสีน้ำเงินซึ่งรบกวนร่างกายตามธรรมชาติของเรา มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการสัมผัสกับแสงสีฟ้าเป็นเวลานานก่อนนอนอาจทำให้คนหลับยากและอาจตื่นนอนได้ยากขึ้นด้วย
3. เปิดเพลงเบา ๆ เพราะเพื่อปลุกใครสักคน
เพลงอาจเป็นวิธีที่ปลุกที่ฟังดูง่าย ๆ แต่ได้อย่างดี และยังเป็นเสีงที่ผ่อนคลายมากเสียงนาฬิกาปลุก คุณสามารถวางวิทยุไว้ในห้อง เพื่อเปิดสถานีโปรดหรือทำเพลย์ลิสต์ของเพลงที่เค้าชอบมากที่สุด สิ่งนี้จะทำให้อารมณ์ของเค้าดีขึ้นและช่วยให้พวกเขาหลีกเลี่ยงจากอาการหงุดหิดที่เกิดขึ้นในตอนเช้า
4. เปิดหนังสือเสียง หรือ อ่านสิ่งที่พวกเขาชอบ
นี่อาจเป็นวิธีที่ดีในการปลุกลูกของคุณเพราะหนังสือเสียงจะเพิ่มความสนใจและทำให้พวกเขาลุกขึ้นจากเตียง ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาสามารถฟังต่อได้ในขณะที่แต่งตัวและทานอาหารเช้า
5. วาดแผนภูมิกิจวัตรตอนเช้าเพื่อทำให้พวกเขาสนุก
แผนภูมิกิจวัตรประจำตอนเช้าเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการทำให้เด็กจดจ่อกับการทำหน้าที่ที่พวกเขาต้องทำในตอนเช้า มันจะช่วยให้ลูกของคุณตื่นขึ้นมา ทำงานบ้านในตอนเช้าให้เป็นเหมือนภารกิจซูเปอร์ฮีโร่ตัวจริง เช่น อาบน้ำล้างหน้า แต่งตัว ทานอาหารเช้า หยิบกระเป๋าเป้และกล่องอาหารกลางวัน
6. เปลี่ยนการตื่นนอนให้กลายเป็นเกม
คุณสามารถทำให้การตื่นนอนสนุกสนานมากขึ้นโดยเปลี่ยนเป็นเกม ยิ่งไปกว่านั้นมันจะช่วยลดความเครียดและความต้องการที่จะเถียงกับลูกของคุณ ใช้จินตนาการของคุณเพื่อสร้างเกมที่แตกต่างและลูกของคุณจะไม่บ่นเกี่ยวกับการตื่นนอนอีกเลย
7. ลองใช้อาหารในการปลุกคนของคุณด้วยกลิ่นอาหารเช้าที่พวกเขาโปรดปราน
แค่คิดว่าอารมณ์ของลูกคุณในช่วงเวลาระหว่างวันจะดีขึ้นแค่ไหน ถ้าพวกเขาเริ่มต้นด้วยอาหารจานโปรด! และทำให้กลิ่นของมันหอมฟุ้งไปทั่วทั้งบ้านจะทำให้พวกเขาลุกขึ้นจากเตียงทันที
8. ให้เวลาพวกเขาในการตื่นด้วยให้ดื่มน้ำผลไม้หนึ่งแก้ว
การตื่นขึ้นมาในตอนเช้าไม่ใช่เรื่องง่ายแม้แต่สำหรับผู้ใหญ่ และเด็กๆ ก็รู้สึกไม่สนใจอะไรเลยหลังจากที่ได้นอนหลับลึกมา การให้เครื่องดื่มแก้วโปรดกับพวกเขาในทันทีเป็นการให้เวลากับพวกเขาในการ “เปิดสวิตช์”
9. ใช้สัตว์เลี้ยงครอบครัวเป็นสัญญาณเตือน
หากลูกของคุณมีสุนัขหรือแมวอันเป็นที่รักคุณสามารถใช้มันเพื่อปลุกลูกๆ เพียงแค่วางมันไว้บนเตียงและมันจะทำให้พวกเขาไม่มีโอกาสนอนหลับอีกต่อไปโดยการเลียใบหน้า กระโดด และอื่นๆ
10. ให้ลูกของคุณรับรู้ผลที่ตามมาของการมาสาย
ทันทีที่กำหนดกิจวัตรตอนเช้าสำหรับลูกของคุณ จงทำให้พวกเขารู้สึกรับผิดชอบในการทำตามใจ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถสร้างบทลงโทษบางอย่างสำหรับการตื่นสายได้ เช่น ไม่ให้ดูโทรทัศน์ไปหนึ่งวัน สำหรับเด็กโตคุณสามารถปล่อยให้พวกเขามาสายเพื่อไปโรงเรียนได้แล้วเขาจะรู้สึกอึดอัดต่อหน้าครู
11. อย่าดราม่า
การพาลูกออกจากเตียงอาจเป็นเรื่องยาก อย่างไรก็ตามคุณจะไม่ประสบความสำเร็จหากคุณเลือกที่จะปลุกลูกของคุณด้วยการตะโกนใส่พวกเขา มันจะนำไปสู่การเพิกเฉยและพวกเขาจะไม่อยากลุกขึ้น
12. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขานอนหลับเพียงพอ
เด็กต้องเวลานอนที่เพียงพอซึ่งขึ้นอยู่กับอายุของพวกเขา เด็กวัยหัดเดินต้องการเวลาประมาณ 11-14 ชั่วโมงต่อคืน ในขณะที่เด็กก่อนวัยเรียนต้องการ 10-13 ชั่วโมงและเด็กอายุ 6-13 ปีควรได้รับเฉลี่ย 9-10 ชั่วโมงต่อคืน เด็กที่หลับไม่เพียงพอจะมีปัญหาในการตื่นนอน
คุณมีเคล็ดลับของคุณเองที่จะปลุกลูกๆ ของคุณหรือไม่? แบ่งปันให้กับพวกเราในเพจของเรา!
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน