ถ้าพูดถึงต้นไม้ขึ้นมาแล้วละก็สิ่งที่เราคิดถึงเป็นเรื่องแรกแรกก็คือหากเรามีอยู่ในบ้าน ต้นไม้เหล่านี้สามารถช่วยสร้างอากาศดีดีให้กับเราได้ และเพิ่มความชื้น ช่วยบรรเทาอาการหลายหลายอย่าง และยังทำให้รู้สึกสบายใจขึ้นเมื่อได้มองสีเขียว ๆ ของมัน แต่ต้นไม้บางอย่างก็จำเป็นต้องมีการบำรุงรักษาที่มากมายหลากหลายขั้นตอนเกินไป ซึ่งต้องบอกว่า คนแบบเรานั้นคงไม่สามารถเลี้ยงให้เติบโตได้ แต่เพื่อทำให้ที่บ้านของเราดูเป็นมิตรและมีต้นไม้น่ารักน่ารัก อยู่บ้างเราคงต้องเริ่มมองหาต้นไม่ที่ดูแลง่ายและยังให้ประโยชน์เหมือนเดิมทั้งหมด ซึ่งเมื่อลองไปหาดูแล้วมันก็มีอยู่จริงจริงด้วย ถูกใจพวกเราเหล่าคนชอบความง่ายและดีจริงจริง

ถึงแม้ว่าพวกเราอาจจะหลงลืมที่จะดูแลเหล่าต้นไม้ไปบ้างบางครั้ง แต่เราก็โชคดีที่เรายังสามารถทำให้บ้านของเราดูดีได้โดยไม่ต้องดูหรือลงแรงมากเกินไป ด้วยการหาเหล่าต้นไม้ที่ต้องเรียกว่าเลี้ยงและดูแลง่ายหรือจะเรียกว่าสามารถดูแลตัวเองได้ดีก็ว่าได้นะ

1. เริ่มจากไม้เลื้อย English ivy มันถือว่าเป็นไม้เลื้อยอันดับต้นๆ ที่เรียกว่าแข็งแรงและแทบไม่ต้องดูแลเลยก็ได้
เราควรวางไว้ที่ไหน:คุณควรเก็บ English ivyไว้ในจุดที่มีแสงปานกลางถึงสว่าง แต่อย่างแรงมาก
การให้น้ำ: เจ้าต้นนี้สามารถทนต่อความแล้งได้ดีมากมาก แต่สิ่งสำคัญคือต้องรดน้ำอย่างสม่ำเสมอและอย่าให้เปียกนานเกินไป

2. ต้นหยก Jade plant

ควรวางไว้ที่ไหน: ควรเก็บต้นหยกไว้ในที่สว่าง ต้นอ่อนควรอยู่ในที่แสงแดดแบบในร่มอย่าให้โดนแดดตรงๆ และเมื่อเจ้าต้นหยกของคุณที่มีอายุมากขึ้นก็สามารถรับแสงแดดโดยตรงได้มากขึ้นด้วย
น้ำ: ในช่วงฤดูปลูก (ฤดูใบไม้ผลิ และฤดูร้อน) การจัดหาน้ำให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญ หลังจากนั้นให้รอจนกว่าดินจะแห้งเกือบหมดก่อนจึงค่อยรดน้ำอีกครั้ง ซึ่งอาจใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์หรือหนึ่งเดือนต่อมา ในช่วงฤดูพักตัว (ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว) ซึ่งต้นหยกจะต้องการน้ำน้อยลง

3. คาลันชู Kalanchoe
เราควรวาง เจ้า Kalanchoes ไว้ในห้องที่มีแสงสว่างเพียงพอ
น้ำ: หากคุณรดน้ำมากเกินไปมันอาจจะเฉาได้ ดังนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าดินแห้งหรือชื่นแค่ไหนก่อนรดน้ำ โดยปกติแล้วเราให้น้ำแค่ประมาณสัปดาห์ละครั้ง

4. เปปเปอโรเมีย Peperomia
© /EastNews
ควรวาง Peperomia ไว้ในที่ที่ ไม่ให้โดนแสงแดดโดยตรง เอาแค่ในร่มเงาก็พแล้ว
น้ำ: เจ้า Peperomia ชอบที่ที่มีความชื้น ดังนั้นคุณสามารถปลูกมันในห้องน้ำ แต่ก็สามารถเลี้ยงไว้ในห้องอื่น ๆ ในบ้านได้เช่นกัน ทั้งนี้ควรเก็บดินไว้ให้แห้ง และไม่ต้องรดน้ำบ่อย ทุกๆ 7-10 วันก็เพียงพอ

5. แก้วกาญจนา Chinese evergreen
© shutterstock.com
ควรวาง Evergreens ไว้ที่มีไม่มีแสงส่องโดยตรงเพราะมันเติบโตได้ดีในจุดที่มีแสงปานกลางถึงน้อย และไม่ให้ถูกแสงแดดโดยตรง ดังนั้นคุณจึงสามารถเก็บไว้ในห้องที่ไม่มีหน้าต่างได้
น้ำ: ทำให้ดินชุ่มชื้นโดยการรดน้ำเป็นประจำ แต่อย่าให้เปียกและปล่อยให้ดินแห้งก่อนรดน้ำ

7. ปาล์มหางม้า Ponytail palm
© Depositphotos.com
เจ้าต้น Ponytail palm ชอบแสงแดด ดังนั้นคุณสามารถวางไว้ใกล้หน้าต่างได้
น้ำ: ในฤดูร้อนคุณไม่จำเป็นต้องรดน้ำบ่อยนัก แต่ต้องรดน้ำให้ลงไปถึงส่วนลึกของดินและปล่อยให้ดินแห้งหลังจากนั้น ในฤดูหนาวคุณจะต้องรดน้ำให้บ่อยขึ้น

8. บัวดอย Cast-iron plant
© Science Photo Library / EAST NEWS
เก็บมันให้ห่างจากแสงแดด เพราะอาจทำให้เกิดรอยเหลืองบนใบได้
สำหรับการให้น้ำ พืชชนิดนี้ทนต่อความแห้งแล้งได้ แต่อย่าลืมรดน้ำอย่างทั่วถึงในฤดูใบไม้ผลิ และฤดูร้อนโดยปล่อยให้ดินแห้งระหว่างการรดน้ำ ในฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาวควรให้น้ำน้อยลง

9. โปโธส Pothos
© Depositphotos.com
ควรวางไว้ที่ที่สว่าง แต่ให้พ้นแสงแดด มิฉะนั้นจะไหม้และซีดจาง นอกจากนี้มันยังสามารถทนต่อสภาพแสงน้อยมาก
น้ำ: อย่ารดน้ำมากเกินไป แต่ตรวจสอบให้แน่ใจว่าดินยังคงชื้นอยู่ ปล่อยให้ดินแห้งเล็กน้อยก่อนรดน้ำครั้งถัดไป

10. ต้นวาสนา Corn plant
© Depositphotos.com
คุณสามารถวางต้นวาสนาไว้ใกล้หน้าต่างที่มีแสงสว่างเพียงพอ อย่างไรก็ตามอย่าลืมเก็บไว้ให้พ้นแสงแดดโดยตรง ในช่วงแรกที่ปลูกควรทำให้ดินชื้นเล็กน้อย ในช่วงที่อาหาศเย็นให้รดน้ำให้น้อยลง โดยดินต้องค่อนข้างแห้ง แต่อย่าให้แห้งจนหมด
11. ต้นเงินไหลมา Arrowhead vine
© shutterstock.com
เก็บไว้ในที่ที่มีแสงปานกลางถึงน้อย แต่บริเวณแสงจ้าก็สามารถอยู่ได้เช่นกัน แต่อย่าเก็บไว้ที่นั่นนานเกินไป อย่างไรก็ตามบางชนิดสามารถรับแสงแดดโดยตรงได้มากกว่า
สำหรับการให้น้ำ: พืชชนิดนี้ชอบดินชื้น แต่อย่าให้แฉะเกินไป เมื่อดินเริ่มแห้งก็ถึงเวลารดน้ำอีกครั้ง ในฤดูหนาวให้รดน้ำให้น้อยลง แต่ระวังอย่าให้แห้ง

12. ต้นเศรษฐีเรือนใน Spider plant
© Depositphotos.com
ควรเก็บไว้ในที่สว่าง แต่อย่าให้โดนแสงแดดโดยตรง นอกจากนี้ยังสามารถเติบโตได้ในที่มีแสงแดดน้อยแต่โตช้ากว่า
การให้น้ำควรทำให้ดินชุ่มชื้นบ้าง หลังจากรดน้ำให้ตรวจสอบ หลังจากผ่านไป 4-5 วัน หากแห้งก็ถึงเวลารดน้ำอีกครั้งระวังเรื่องการไหลเวียนของอากาศที่ดี น้ำที่เพียงพอ และแสงจ้า

13. ต้นกวักมรกต ZZ plant
© Depositphotos.com
วางต้นไม้นี้ไว้ในห้องที่สว่าง แต่ให้พ้นแสงแดด เพราะมันไม่ค่อยทนต่อแสงแดดสักเท่าไหร่
สำหรับการให้น้ำ: รดน้ำให้ทั่ว และปล่อยให้ดินแห้ง ก่อนรดน้ำอีกครั้ง ซึ่งมันสามารถทนกับดินแห้งได้ในระยะหนึ่ง แต่ถ้าคุณปล่อยไว้นานเกินไปใบจะร่วง

14. ฟิโลเดนดรอน Philodendron
© Depositphotos.com
เจ้าฟิโลเดนดรอนชอบแสงปานกลางถึงสว่าง อย่าวางไว้ในที่ที่มีแสงแดดส่องถึงโดยตรง
การให้น้ำ: ทำให้ดินชุ่มชื้นเล็กน้อยตลอดทั้งปี ยกเว้นในช่วงที่อากาศเย็นมากมากควรปล่อยให้พื้นดินแห้งบ้าง

15. ลิ้นมังกร Snake plant
© Depositphotos.com
อย่าให้ต้นลิ้นมังกรของคุณอยู่ในแสงแดดจ้า แต่สามารถโดยแดดเบาได้ และหากคุณเก็บไว้ในที่ที่มีร่มมากไปนี้ก็ได้เช่นกัน แต่ว่ามันอาจเติบโตช้ากว่าเล็กน้อยถ้าให้มันได้โดนแดดเบาๆ บ้างและสีของต้นที่โตในที่ร่มก็สดใสน้อยกว่าที่มีแดด

ต้นลิ้นมังกรทนแล้งได้เป็นอย่างดี อย่ารดน้ำมาก และตรวจสอบให้แน่ใจว่าดินไม่ชื้นเกินไป ในช่วงฤดูร้อนให้รดน้ำต้นไม้ทันทีที่ดินแห้ง
ปัญหา: ต้นลิ้นมังกรอาจมีแมลงรบกวนหรือเชื้อรา

เมื่อเพื่อนเพื่อนได้ลองอ่านดูแล้วก็น่าจะพอทราบแล้วว่าพวกมันดูแลง่ายขนาดไหน? แล้วมีต้นไม้ต้นไหนบ้างที่คุณคิดว่าจะลองเอามาเลี้ยงเป็นต้นแรกยังไงก็ช่วยแบ่งปันความคิดเห็นกับเราด้วยสิ
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน