เรื่องจริงของคู่รักที่อยู่ด้วยกันบนเรือไททานิคจนนาทีสุดท้าย

ย้อนกลับไปเกือบยี่สิบปีถ้าถามถึงพระเอกนางเอก ที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่รักที่เสียสละเพื่อกันและกันในภาพยนตร์สักเรื่องแล้วก็เพื่อนเพื่อนหลายคนคงต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้องเป็นคู่พระเอกนางเอกจากภาพยนตร์เรื่องไททานิค ซึ่งในเรื่องนั้นถึงแม้ตอนจบทั้งคู่จะไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ความรักของทั้งคู่ก็ยังคงอยู่ในใจของผู้ชมตลาดไปนั่นเอง กลับเนื้อเรื่องที่อ้างอิงจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริงของเรือเดินทางที่จัดได้ว่าเป็นเรือเดินทางข้ามมหาสมุทรที่ยิ่งใหญ่อันดับต้นต้นในยูกันเลยก็ว่าได้ แต่ใครจะคิดบ้างเหรอว่าเรื่องราวความรักแบบนั้นจะมีจริงๆและเกิดขึ้นจริงบนเรือไททานิคซะด้วย เพราะเราได้อ่านเรื่องราวที่บอกถึงผู้โดยสารอย่างเช่น John Jacob Astor IV และ Molly Brown, Isidor และ Ida Straus ขึ้นเรือไททานิคเมื่อวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2455 มุ่งหน้าสู่นครนิวยอร์ก

และนั้นคงเป็นการเดินทางที่ยิ่งใหญ่หากมันเป็นการเดินทางที่สามารถไปถึงปลายทางได้ แต่มันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นแต่ก็ยังคงสร้างเรื่องราวที่น่าจดจำให้กับเราได้ชื่นชมอันในหลายหลายเรื่องและสิ่งที่เรากำลังจะบอกเพื่อนเพื่อนก็เป็นหนึ่งในเรื่องราวดีดีเหล่านั้นนั้นเอง

เราอยากจะแนะนำให้เพื่อนเพื่อนรู้จักกับ Isidor Straus ที่ต้องบอกเลยว่าเค้าสร้างฐานะและสร้างตัวจากการทำงานของตัวเองล้วนๆ

© East News
โดย Isidor เกิดในบาวาเรียในปี 1845 เป็นทั้งนักธุรกิจ และนักการเมือง และเจ้าของร่วมของห้างสรรพสินค้า Macy จุดเริ่มเริ่มต้นอาชีพที่น่าสนใจของเค้านั้น เริ่มจากงานเล็กๆน้อยๆอย่างที่เราอาจจะคาดไม่ถึงด้วยการทำงานเป็นเสมียนในธุรกิจของพ่อของเค้าเอง ในปี 1865 ชายหนุ่มผู้นี้ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเองโดยการย้ายไปนิวยอร์กพร้อมกับนาธานน้องชายของเขา เพือสร้างฐานะให้ตัวเองและเค้าก็ทำได้ทั้งในด้านธุรกิจและการเมือง

ซึ่งที่นิวยอร์กนี่เอวที่เป็นจุดเริ่มต้นของธุระกิจและยังเป็นสถานที่ที่ Isidor Straus และ Rosalie Ida Blun ได้พบกัน โดยในปี 1866 Isidor เค้าร่วมทำธุรกิจกับลุงของ Ida และหลังจากนั้นพวกเขาก็ได้เจอกัน เริ่มต้นจากคนรู้จักและกลายเป็นเพื่อนกัน และในไม่ช้าก็กลายเป็นคู่รักกัน และพวกเขาก็แต่งงานกันในปี 1871 และมีลูกด้วยกันถึง 7 คน โดยพวกเขาทั้งสองเป็นที่รู้จักในหมู่ผู้คนในเรื่องการทำบุญ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น และมักมีความเห็นอกเห็นใจกับเพื่อนและคนรอบตัวเสมอ

และแน่นอนว่าพวกเขาจองตั๋วชั้นเฟิร์สคลาสบนเรือไททานิค
© Capital Pictures/ EAST NEWS
ซึ่งการขึ้นเรือไททานิคในครั้งนั้นเป็นโชคชะตาที่พลิกผันของทั้งคู่ เพราะการเดินทางไปยุโรปเมื่อต้องกลับไปสหรัฐฯนั้นเป็นการเดินทางเที่ยวสุดท้ายโดล Ida เขียนจดหมายถึงเพื่อนของเธอเมื่อไม่กี่วันก่อนที่จะขึ้นเรือไป ซึ่งเธอหลงใหลเรือไททานิคและกล่าวชื่นชมในความยิ่งใหญ่ของมันเป็นอย่างมาก
© Titanic / 20th Century Fox
นั้นเพราะที่พักของพวกเขาเป็นที่พักระดับเฟิร์สคลาส “ตกแต่งอย่างมีรสนิยมดีที่สุดและหรูหราที่สุด และไม่ใช่แค่ห้องพัก”

และแน่นอนว่าถึงแม้จะสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายขนาดไหน แต่ในตอนท้ายของการเดินทางเรือลำนี้ก็ไปได้ไม่ถึงฝั่งฝัน

เพราะเรือไททานิคนั้นจมลงในวันที่ 15 เมษายน 1912 ในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ หลังจากที่เรือชนกับภูเขาน้ำแข็ง ซึ่งผู้โดยสารตกตะลึงและตื่นตระหนกมากเมื่อทราบว่าเรื่องที่คิดว่ายิ่งใหญ่และปลอดภัยสุดๆจะกำลังจมลง โดยไม่นานหลังจากการปะทะ กัปตันสั่งให้คนลงเรือชูชีพและเริ่มการอพยพ

ซึ่งมีการตัดสินใจว่าผู้หญิงและเด็กจะต้องได้ขึ้นเรือก่อน ซึ่ง Isador เป็นหนึ่งในชายที่ร่ำรวยที่สุดบนเรือ เขาจึงได้รับที่นั่งพิเศษ แต่เขาปฏิเสธอย่างจริงจัง เนื่องจากผู้หญิงและเด็กจำนวนมากยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ และIda ซึ่งได้รับที่นั่งลำดับแรกบนเรือชูชีพก็เช่นกัน โดยเธอปฏิเสธที่จะทิ้งสามีของเธอไว้ข้างหลัง
@ East News
ซึ่งต้องบอกว่าสิ่งที่ทั้งคู่ตัดสินใจลงไปนั้นสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนอย่างมากเพราะด้วยฐานะของผู้โดยสารชั้นหนึ่งและเป็นผู้หญิงอีกต่างหากแต่ Ida ในวัย 63 ปีก็ตัดสินใจก้าวลงจากเรือชูชีพทันทีที่เธอรู้ว่าสามีไม่ได้มากับเธอ ทั้งที่เจ้าหน้าที่และสามีพยายามพาเธอกลับขึ้นเรือ แต่เธอปฏิเสธที่จะไป โดยกล่าวว่า “เราอยู่ด้วยกันมาหลายปีแล้ว คุณไปไหน ฉันไปด้วย”

ซึ่ง Ida ขอให้คนสนิทของเธอที่มาด้วยกันขึ้นเรือชูชีพแทน นอกจากนั้นเธอยังให้เสื้อคลุมแก่เค้าเพื่อให้ความอบอุ่นและบอกกับเธอว่า “คุณต้องการสิ่งนี้มากกว่าฉัน” ซึ่งหลังจากได้รับความช่วยเหลือจาก Ida ท่ามกลางผู้คนในเรือชูชีพนั้นเธอก็เก็บเสื้อคลุมของ Ida ไว้เป็นอย่างดีและหลังจากมีโอกาสก็มอบคืนให้กับลูกๆ ของ Ida ในภายหลัง

ซึ่งภาพของคู่สามีภรรยาสูงอายุที่อยู่ด้วยกันจนนาทีสุดท้ายในภาพยนตร์นั้นก็คือเรื่องราวของพวกเค้านั้นเอง

©Titanic
โดยในภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าทั้งคู่อยู่เคียงข้างกันในขณะที่น้ำทะเลที่เย็นเยือกเริ่มไหลเข้ามาเต็มห้องโดยสารของพวกเขา แต่ไม่มีใครรู้จริง ๆ ว่าพวกเขาใช้เวลาช่วงสุดท้ายของพวกเขาที่ไหน เพราะตามที่หลานทวดของพวกเขากล่าวว่าเกี่ยวกับข้อมูลที่มีผู้พบเห็นและเล่าให้ฟังเค้ากลาวว่า “มรคนเห็นพวกเขาครั้งสุดท้ายกำลังยืนอยู่บนดาดฟ้า กอดกัน และรออย่างใจเย็น”


© CC BY 3.0
ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดที่เรารู้คือพวกเขายังคงยืนหยัดอยู่บนเรือและแน่นอนที่สุดว่าเพราะเป็นที่ที่เค้าได้อยู่ด้วยกันจนถึงวินาทีสุดท้าย โดยหลังจากการจมลง ได้มีการค้นพบร่างของ Isidor และเขาย้ายไปที่ Woodlawn ในบรองซ์ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่สามารถค้นพบร่างของภรรยาของเขา แต่อย่างไรก็ตามเธอเราต่างคิดว่าพวกเค้าได้ใช้เวลาและทุกสิ่งร่วมกันมากกว่าคู่รักหลายหลายคู่แล้วและในช่วงเวลาสุดท้ายนั้นยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกดีดีที่มีให้แก่กันนั้นเอง

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน