7 เรื่องสั้นจากชาวเน็ตที่ช่วยควบคุมความโกSธได้เป็นอย่างดี

ถ้าพูดถึงคนที่คุณไม่ค่อยอยากอยู่ใกล้ๆ หลายหลายคนอาจจะนึกไปถึงชื่อของคนที่คุณนู้จักหรือเจ้านายหรือใครอีกหลายหลายคน แต่เมื่อเราลองมาสอบถามถึงรายละเอียดว่าทำไมถึงไม่อยากเข้าใกล้คนเหล่านั้นแล้วละก็เราก็ได้สิ่งที่น่าสนใจขึ้นมาอย่างหนึ่งนั้นก็คือเพื่อนเพื่อนของเราส่วนใหญ่ไม่ชอบที่จะอยู่ใกล้ๆ กับคนที่มีoารมณ์โกsธง่าย เจ้าความโกsธนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้oารมณ์และความสัมพันธ์ของคุณที่มีต่อเพื่อนเพื่อนและคนรอบรอบข้างไม่ค่อยดีเท่าไหร่และยังอาจทำให้คุณหรือตัวใครก็ตามที่มีoารมณ์โกsธบ่อย ๆ นั้นไม่สบายได้อีกด้วย ดังนั้นการรู้จักคุมตัวเองและสงบสติoารมณ์จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก
พวกเราจึงได้รวบรวมเคล็ดลับที่มีเพื่อนเพื่อนของเราในอินเทอร์เน็ตได้แบ่งปัน ซึ่งมันอาจช่วยหลีกเลี่ยงสิ่งต่าง ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นคุณได้

  • เรื่องแรกไม่อยากไปอยู่ในนั้น

เวลาเรารู้สึกว่ากำลังจะโกsธแรงๆ เราจะบอกกับตัวเองสั้น ๆ ว่าเราน่ารักเกินไปที่จะต้องเข้าไปอยู่ในรั้วหลังกำแพงที่ทุกคนต้องใส่เสื้อเหมือน ๆ กันและค่อยมีคนมาเรียกชื่อเข้าแถวทั้งเช้าและเย็นก่อนเข้านอน

  • เรื่องที่สองขอเวลาหน่อย

เป็นเรื่องปรกติมากมากหากคุณต้องทำงานหรือมีเรื่องที่ต้องทำร่วมกับคนอื่น ๆ สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือมันต้องมีเรื่องความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันบางซึ่งนั้นจะนำมาซึ่งการถกเถียงกัน และหากมีคนมาเถียงกับคุณและคุณกำลังจะพูดกลับไปโดยไม่ได้ใช้เหตุผลแล้วละก็โปรดทำเรื่องง่าย ๆ ดังต่อไปนี้นั้นคือ ตอบพวกเขาไปว่า “คุณอาจพูดถูก แต่เราต้องการเวลาคิดและต้องการข้อมูลบางอย่างอีกสักหน่อย” แล้วก็เดินออกมา พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆ การปล่อยให้มีการพูดโต้ไปมาโดยไม่ได้มีการใช้เหตุผลนั้นไม่ทำให้อะไรดีขึ้นดังนั้นการกลับมาคิดและเตรียมข้อมูลไปคุยอีกครั้งจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นอย่างแน่นอน

  • เรื่องที่สามหน้าตาก็สำคัญนะ

เรื่องง่าย ๆ ที่เรามักจะเห็นนั้นก็คือเวลาที่มีใครสักคนกำลังโกsธใบหน้าของเค้าจะแสดงออกมาอย่างชัดเจนทั้งสีหน้า คิ้ว หรือ ตาก็ตามซึ่งมันก็คงไม่น่าดูนักดังนั้น เราจะมองไปที่กระจกทันที เวลาโกsธหรือรู้สึกไม่ดี และพอเห็นว่าหน้าตาเราดูไม่ดี แสดงว่าอาการหรือoารมณ์ที่เป็นอยู่นี้ไม่ดีจริงๆและนั้นก็จะทำให้เราค่อย ๆ ดีขึ้น

  • เรื่องที่สี่ปล่อยวางหรือเตรียมพร้อม

เราเคยอ่านหนังสือซึ่งมีการพูดถึงกฏ 5 นาที ในการคิดว่าเรื่องที่เรากำลังเผชิญอยู่หากมันเป็นสิ่งที่ไม่มีผลต่ออนาคตของเราอีก 5 ปี เราก็ไม่ควรใส่ใจหรือหงุดหงิดกับมันเกิน 5 นาทีซึ่งนั้นก็คือเรื่องที่ฟังดูง่ายมากมากแต่ขอบอกเลยว่ามันทำยากนะแต่มันก็ยังทำได้ โดยคุณก็แค่ค่อยเตือนตัวเองระหว่างวันในช่วงต่าง ๆ หากคุณกำลังครุ่นคิดถึงปัญหาหรือเรื่องราวอะไรก็แล้วแต่ที่คิดซ้ำไปซ้ำมา เราอยากให้คุณเปลี่ยนให้มันดีขึ้นด้วยการคิดว่าสิ่งนั้นมันจะมีผลอะไรกับคุณอีกบ้างหรือเปล่าถ้าไม่มีก็ควรจะปล่อยมันไปได้แล้วแต่ถ้ามีก็ลองทำรายการเพื่อแก้ไขหรือรับมือสิ่งที่กำลังจะต้องเกิดขึ้นมันก็จะทำให้เรื่องราวต่าง ๆ ดีขึ้นอย่างแน่นอน

  • เรื่องที่ห้าเรื่องตลกช่วยได้

หากคุณไม่อยากที่จะเสียเวลาไปกับการโมโหใครสักคน ก็แค่จินตนาการหน้าของฝั่งตรงข้ามในแบบตลกๆ แล้วก็เดินออกมา โดยแกล้งทำเป็นรับโทรศัพท์แค่นั้นก็อารมณ์ดีขึ้นเยอะแล้วละ

  • เรื่องที่หกออกกำลังกายช่วยได้

การตอบสนองต่อคู่สนทนานั้นสำคัญพอพอกับผลงานของคุณอย่างเช่นหากคุณกำลังต้องแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่าง ๆ หรือคุยเรื่องงานกับคนที่มีตำแหน่งสูงกว่าการแสดงสีหน้าหรือท่าทางไม่ชอบใจนั้นอาจะไม่เป็นเรื่องที่ดีนักซึ่งหากคุณเก็บเรื่องเหล่านั้นกลับไปที่บ้านด้วยแล้วละก็มันคงกวนใจคุณไปอีกนานแล้วอาจจะทั้งคืนก็ได้ ทำไมไม่ลองและไปวิ่งที่สนามหญ้าหรือออกกำลังกายเบา ๆ ที่ยิมเพราะการได้ออกแรงบ้างจะทำให้เราเอาเรื่องไร้สาระออกไปจากตัวเราได้ง่ายขึ้น และการได้พักหลังการออกกำลังกายเบาๆ ก็ให้ความรู้สึกที่ดีมากมากด้วยนะ

  • เรื่องที่เจ็ดถอยหนึ่งก้าว

วิธีการของเรานั้นแสนง่ายมันก็แค่พยายามหยุดสิ่งที่กำลังคิดและกำลังจะพูดออก โดยเมื่อเราเริ่มรู้สึกว่าบทสนทนาระหว่างเราและเพื่อนชักจะเสียงดังขึ้นไปทุกทีแล้วเราจะหยุดพูดและค่อย ๆ ขยับไปหาที่นั่งหรือขอตัวไปห้องน้ำก่อน เพราะระดับเสียงนั้นเป็นสัญญาณแรกๆ ที่เราบงบอกว่าเราเริ่มที่จะพยายามให้อีกฝ่ายคล้อยตามเราโดยยึดเหตุผลของเราและพยายามใช้เสียงเข้ามาช่วยข่มและนั้นก็จะนำมาซึ่งเรื่องที่ใหญ่ขึ้นหากเราไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดหยุด

เพื่อนเพื่อนที่อ่านมาถึงตอนนี้แล้วเป็นอย่างไรกันบ้างมีเรื่องอะไรทำให้คุณโกsธได้บ้างไหมแล้วคุณเคยใช้วิธีเหล่านี้บ้างหรือเปล่า หรือเพื่อนเพื่อนอาจจะยังมีวิธีที่ดีดีมากกว่านี้อีกยังไงก็แบ่งปันเคล็ดลับของคุณในเพจของเราด้วยละ

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน