ภาษากายง่ายๆที่จะทำให้คุณสร้างความประทับใจกับเพื่อนและคู่สนทนาได้ดี

เคยมีการกล่าวถึงหลังการสร้างความประทับใจให้กับเพื่อนใหม่หรือคนที่เราเพิ่งรู้จักได้ไม่นาน ด้วยวิธีการต่าง ๆ หากหลายมากมายซึ่งมันก็ยังเป็นสิ่งที่เราหลายหลายคนอยากรู้เพราะ การที่เราเป็นที่รักหรือที่ประทับใจในความทรงจำของเพื่อนใหม่ได้นั้นก็คงจะทำให้เราสามารถพูดคุยและทำงานร่วมกับคนเหล่านั้นได้ง่ายขึ้นนั้นเอง ด้วยโดยจากหลายสื่อเราพบว่าคนเรานั้นจะประทับใจกันได้โดยช่วงเวลาแรกที่เราพบกัน 30 วินาทีแรกที่ได้พบหน้าจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะสร้างความประทับใจนั้นเอง แล้วเราจะต้องทำยังไงละเพื่อให้ช่วงเวลา 30 วินาทีแรกนั้นมันดูน่าจดจำหลายคนบอกวิธีการพูดหลายคนบอกให้แต่งตัวสวยๆจะได้สะดุดตาต้องใจ แต่วันนี้พวกเราจะมาบอกว่าภาษากายของเรานี้แหละที่มีความสำคัญต่อการสร้างความประทับใจมากกว่าคำพูด ดังนั้นสิ่งสำคัญคือเราต้องมุ่งเน้นไปที่บุคคลที่เราพบตั้งแต่วินาทีแรก และแทนที่จะรู้สึกแย่ในภายหลัง หรือสามารถแก้ไขความรู้สึกแย่ๆ นั้นทำได้ก็ตาม แต่ทำไมต้องทำสิ่งนั้นในเมื่อคุณสามารถร่ายมนตร์ให้ใครสักคนได้ตั้งแต่แรกเริ่ม?

ก็เลยเอาภาษากายที่อยากจะมาแนะนำให้เพื่อนเพื่อนลองพิจารณาดูว่าเหมาะสมที่จะไปทำหรือมีสิ่งไหนที่ไม่ควรทำกันบ้างไปชมกันเลย

เมื่ออยู่กับเพื่อนใหม่หรือใครก็ตามอย่าจ้องที่นาฬิกาหรือเปิดโทรศัพท์บ่อยนัก
แน่นอนว่าการมองที่นาฬิกาเค้าหมายถึงพวกเขาต้องการรู้เวลาแต่การที่คุณจ้องมองที่นาฬิกาบ่อยบ่อยนั้นก็ถูกตีความหมายว่าคุณกำลังเบื่อช่วงเวลานี้อยู่นั่นเองและอยากให้มันผ่านไปเร็วเร็ว ซึ่งบางคนอาจจะมีเหตุผลหรือมีนัดทำธุระต่อจากนี้ก็เป็นได้ดังนั้นจึงต้องคอยดูเวลาว่าใกล้จะถึงเวลานัดแล้วหรือยัง ถ้าหากว่าคุณมีนัดหรือมีกิจกรรมที่ต้องไปทำต่อแล้วแล้วก็เราขอเสนอว่าให้ฟุตบอลกับเพื่อนหรือคนอื่นๆ ก่อนเวลาสักหนึ่งชั่วโมงหรือสามสิบหน้าที่ก่อนเวลาที่คุณจะต้องออกไปจริง ๆ จะดีกว่าค่อยลุ้นว่าใกล้จะแยกย้ายจากการประชุมหรืองานเลี้ยงที่นั่งอยู่จะดีกว่า

การจับมือที่เบาและไม่มั่นใจ
การแสดงความรู้จักหรือทักทายด้วยการจับมือนั้น ถือได้ว่าเป็นหลักการทั่วไปที่หลายคนทำกัน แล้วเพื่อนเพื่อนเคยสังเกตุกันบ้างไหมละว่ากับเพื่อนหรือคนแปลกหน้าที่เราไม่สนิทเราจะไม่ค่อยอยากจะเป็นมิตรแล้วละก็ เราจะแค่แตะมือกันเบาๆ นั้นเป็นเพราะว่าเรายังไม่เชื่อใจจึงต้องเว้นระยะห่างเท่านั้นเอง และนอกจากนั้นมันยังแสดงถึงความไม่มั่นใจอีกด้วย ด้วยนั้นหากเพื่อนเพื่อนต้องไปติดต่อธุระกิจหรือต้องการสร้างความน่าเชื่อถือแล้วละก็จังหวะการจับมือให้ทำให้หนักแน่นแต่ไม่ต้องออกแรงมากเพียงแต่ให้จับมือแบบมั่นใจเต็มร้อยเหมือนตั้งใจถือของอะไรสักอย่างแบบนั้นเลยยังไงละ

ลดช่องว่างระหว่างคุณกับคนอื่น
มองง่าย ๆเลยว่าเวลาเราไม่มั่นใจหรือไม่อยากเข้าใกล้ใครเรามักจะหาสิ่งของหรือบางอย่างมาขวางระหว่างเรากับผู้สนทนา ซึ่งหมายความว่าเมื่อคุณพูดคุยกับคนใหม่ คุณมักจะมีสิ่งต่าง ๆ กั้นหรือสร้างระยะห่างที่ไม่จำเป็น ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังถือโทรศัพท์หรือหนังสือ ให้วางไว้ที่ด้านข้างหรือบนโต๊ะในขณะสนทนา เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายคิดว่าพวกเขากำลังรบกวนคุณจากสิ่งที่คุณกำลังทำ ดังนั้นการกำจัดสิ่งที่อยู่ระหว่างคุณทั้งคู่จะทำให้รู้สึกเชื่อมโยงกันมากขึ้น

อย่าใกล้มากเกินไป
แค่ระยะห่างในการยืนระหว่างคู่สนทนาก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องระวัง เพราะพื้นที่ส่วนตัวของเรานั้นอยู่ในระยะจาก 1.5 ถึง 4 ฟุต (45 ซม. ถึง 122 ซม.) หรือประมาณ 1 ช่วงแขนนั้นแหละ ดังนั้นหากเพื่อนเพื่อนกำลังทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่แล้วแล้วก็ให้ยืนห่างกันประมาณหนึ่งช่วงแขนและหากไม่ได้ยินเสียงการสนทนาก็ให้กล่าวขออนุญาตในการขยับเข้าไปใกล้ก่อนทุกครั้ง จะเป็นการดีกว่านะ

หยิบสิ่งของบางอย่างออกจากเสื้อผ้าอย่างประหม่า
เป็นไปได้ที่บางครั้งจะมีบางสิ่งบางอย่างติดอยู่บนเสื้อผ้าของเราแต่ระหว่างการสนทนา ก็อย่าไปยุ่งกับมันเมื่อต้องพบปะกับใครสักคน เพราะการกระทำนี้จะบอกพวกเขาว่าคุณไม่สนใจสิ่งที่พวกเขากำลังพูดเลย ไม่เพียงแค่นั้นพวกเขาอาจคิดว่าคุณไม่เห็นด้วยกับความคิดของพวกเขา และไม่ต้องการให้ข้อเสนอแนะที่ตรงไปตรงมาแก่พวกเขา

การถูมือกันเมื่ออยู่ในการประชุมทางธุรกิจ
การถูมือของคุณในขณะที่มีคนกำลังนำเสนอหรือแสดงความคิดเห็นอาจบอกพวกเขาว่าคุณไม่ประทับใจ ในเวลานั้นพวกเขาอาจรู้สึกหวาดกลัวและสูญเสียคำพูด นอกจากนี้พฤติกรรมนี้ยังสร้างระยะห่างระหว่างคุณ 2 คน เนื่องจากคุณกำลังสื่ออารมณ์เชิงลบ ดังนั้นแทนที่จะถูมือ คุณเพียงวางมือไว้บนเก้าอี้หรือข้างลำตัว

หันปลายเท้าออกจากคนตรงหน้า
เท้าของคุณเคลื่อนไปตามส่วนอื่นๆ ของร่างกาย และมุมของเท้าจะแสดงตำแหน่งที่คุณต้องการไปที่สุด หากยืนชี้ปลายเท้าไปจากบุคคลที่คุณกำลังคุยด้วย แสดงว่าว่าการพูดคุยกับพวกเขาไม่ใช่สิ่งที่คุณให้ความสำคัญ หรือคุณอาจต้องเข้าห้องน้ำ หรือต้องการพักรับประทานอาหารกลางวัน แต่สิ่งสำคัญคือต้องมีส่วนร่วมในการสนทนา และคุณจะบรรลุสิ่งนั้นได้โดยการรักษาเท้าของคุณให้อยู่ในตำแหน่งของอีกฝ่ายหนึ่ง

การนั่งก็สำคัญนะอย่านั่งที่ขอบเก้าอี้ของคุณ
ในระหว่างการพูดคุยวิธีที่คุณนั่งระหว่างการประชุมทางธุรกิจหรือในการทานอาหารเย็น ก็ยังสามารถส่งข้อความที่แตกต่างๆ ถึงคนรอบข้างได้ด้วยนะ เพราะการนั่งตรงส่วนขอบเก้าอี้นั้นแสดงว่าคุณไม่สบายใจและไม่มั่นใจในตัวเองและความคิดเห็นของคุณ หรือกำลังบอกว่าคุณทำตัวไม่ถูกนั้นเองดังนั้นลองนั่งให้สบายๆ แต่อย่าถึงขั้นพิงหรือเอนหลังไปมากมากเพราะแบบนั้นก็ทำให้คุณดูห่างเหิน เราแนะนำให้นั่งให้เต็มและสบายตั้งตัวตรงมองไปข้างหน้าก็พอแล้ว

การแสดงออกเพื่อให้เห็นว่าเราอยู่ฝ่ายเดียวกัน
ในเวลาที่เราพูดคุยกันนั้นความรู้สึกมีส่วนร่วมนั้นถือว่าสำคัญมากมากดังนั้น เพียงแค่เราทำตามท่าทางบางอย่างของอีกฝ่าย ตัวอย่างเช่น ถ้าระหว่างพูดเค้ามีรอยยิ้มหรือพยักหน้า คุณสามารถทำเช่นเดียวกันเพื่อแสดงให้พวกเขาเห็นว่าคุณกำลังเข้าใจสิ่งที่พวกเขาพูด ซึ่งพวกเขาจะรู้สึกมั่นใจที่จะพูดต่อไปเพราะรับรู้ถึงการสนับสนุนและความไว้วางใจจากคุณ ดังนั้นการสะท้อนกลับเป็นวิธีที่ดีในการพยายามทำความเข้าใจอีกฝ่ายและมองสิ่งต่างๆ จากมุมมองของพวกเขา

ไงบ้างกับเรื่องที่เราพามาให้เพื่อนเพื่อนอ่านหวังว่าทุกคนคงชอบนะ
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน