ในวันนีที่นักเรียนเกือบทุกคนต้องเข้าสู่ระบบการเรียนออนไลน์ เปิดประสบการณ์ใหม่ใหม่ให้ทั้งครูผู้สอนและเหล่านักเรียนหลายคนต้องใช้เวลานานกว่าจะปรับตัวได้ แต่อีกหลายคนก็สามารถเข้ากับเรื่องใหม่ใหม่ระบบใหม่ใหม่ได้อย่างรวดเร็ว แต่ถึงขั้นตอนหรือกระบวนการใดใดจะถูกปรับปรุงหรือทำให้ดีขึ้นอย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนตัวนักเรียนหรือเหล่าลูกศิษย์นั้นก็คือคุณครูนั้นเอง วันนี้เราเลยอยากที่จะมาพูดถึงเหล่าคุณครูที่ทำให้ชีวิตของนักเรียนของเค้าได้เปลี่ยนไป บางคนเป็นแรงบันดาลใจช่วยให้เด็ก ๆ บรรลุความฝัน หรือช่วยกระตุ้นให้นักเรียนเอาชนะความกลัวและความไม่มั่นใจ นอกจากนี้ในหลาย ๆ ครั้งครูยังให้คำแนะนำที่ช่วยทำให้คลีคลายปัญหาน้อยใหญ่ลงได้ ดังนั้นคุณครูจึงสมควรได้รับการยกย่องสำหรับเรื่องราวมากมายหลายสิ่งที่พวกเขาทำให้กับผู้อื่นโดยหวังแต่เพียงว่าให้เหล่าลูกศิษย์ได้พบแต่สิ่งที่ดี
พวกเราที่เพลินเพลินได้ลองรวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับครูที่น่าชื่นชมในการส่งเสริม สนับสนุน และต้องบอกเลยว่าทุ่มสุดตัวเลยเพื่อนช่วยลูกศิษย์มาให้เพื่อนเพื่อนได้ลองอ่านกัน พร้อมแล้วก็ไปกันเลยดีกว่านะ
เรื่องแรกเบื้องหลังความสำเร็จ
ในอดีตเราทำตัวเหมือนคนที่ชอบเข้าสังคมชอบพูดคุยกับเพื่อนเพื่อนมาก แต่ในส่วนลึกๆแล้วเราไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเองเลย จนเราได้มาพบกับคุณครูแนะแนวท่านหนึ่งที่ได้ให้แรงบันดาลใจกับเราและท่านบอกว่าเรามีความสามารถด้านวรรณกรรม และการเขียนที่ไม่เหมือนใคร ท่านให้เราเขียนเรื่องราวต่างๆ มาให้อ่านหลังเลิกเรียนเพื่อเป็นการฝึกฝนและท่านยังค่อยแนะนำเทคนิคและวิธีการใช้ภาษาให้เราอีกด้วย และหลังจากวันนั้นตอนนี้ก็ผ่านมา 40 ปี แล้วเราเขียนหนังสือเล่มแรกชื่อว่า
เรื่องที่สองโอกาสและสิ่งที่เหมาะสม
เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องของเราโดยตรงแต่เป็นสิ่งที่เราอยากจะบอกให้เพื่อนเพื่อนรู้เพราะมันเป็นเรื่องที่ทุกคนควรได้รับ มันเกี่ยวกับลูกสาวของเพื่อนของเรา ตั้งแต่เล็กแล้วเธอมีมีท่าทางและหลายหลายอย่างที่ไม่เหมือนเด็กทั่วไปและเมื่อต้องเข้าโรงเรียนเราก็พบว่าเธอเรียนรู้สิ่งต่างต่างได้ช้า เราและเพื่อนคิดอยู่นานจนในที่สุดก็ตัดสินใจค้นหาข้อมูลและแล้วเราก็พบโรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งมีรูปแบบการสอนเพื่อนคนแบบเดียวกับลูกของเพื่อนเรา หลังจากเข้าเรียนเธอเก่งขึ้นจนสามารถช่วยสอนการบ้านลูกๆของเราตอนหลังเลิกเรียนแทนเรา และในตอนนี้เธอก็จบปริญญาด้านการศึกษา และยังกลับมาสอนเด็กที่มีลักษณะแบบเดีบยวกับที่เธอเป็น มันทำให้เราและเพื่อนรู้ว่าสิ่งที่ดีที่สุดที่เราทำได้เพื่อใครวักคนคือการ (หาสิ่งที่เหมาะสมและให้โอกาสนั้น เพราะทุกคนยอมมีเส้นทางและวิธีการที่จะเติบโตที่เหมาะสม)
เรื่องที่สามเป็นให้ได้ทุกอย่าง
เริ่มแรกเราไม่ค่อยชอบเรียนเรื่องตัวเลขและการคำนวนเลย จนกระทั่งวันหนึ่งเราเดินกลับบ้านแล้วบังเอิญ มีคนที่ท่าทางไม่น่าคบเดินเข้ามาหาเราและทำท่าทางต้องการของอะไรจากเราสักอน่าง แล้วคุณครูคณิตศาสตร์ชื่อ เรย์ ที่บังเอิญเดินผ่านมาก็เข้ามาขวางระหว่างเราและชายคนนั้น ครูเรย์ทำท่าทางและบอกว่าเราคือลูกสาวของครู และชายคนนั้นก็หันเดินกลับไปตั้งแต่นั้นมาครูก็มักจะเดินมาส่งเราหากว่าเรากลับบ้านดึก ๆ และนอกจากนั้นครูเรย์ยังช่วยสอนการบ้านข้อที่ยากยากทำให้เเราเข้าใจและชอบวิชาคณิตศาสตร์อีกด้วย “ขอบคุณครูเรย์จากใจจริง”
เรื่องที่สี่กล้าที่จะขอโทษ
มันเป็นเรื่องราวในวัยเด็กของเราในวันแรกของการเรียนชั้นประถม เพื่อนที่นั่งข้างเราพยายามชวนเราคุย แม้ว่าเราจะเตือนว่าเดี๋ยวครูจะดุนะ เธอก็ยังชวนเราคุยอยู่ตลอด จนในที่สุดแล้วครูก็สังเกตเห็น จึงเรียกให้เราทั้งคู่ออกมาหน้าห้อง
- ครู: เธอชื่ออะไร
- เรา: ชื่อโอลีฟค่ะ
- ครู: โอลีฟ ดูเหมือนว่าเธอกับฉันน่าจะต้องคุยกันบ่อยขึ้นนะ
- แต่หลังจากนั้นครูก็ค่อยเฝ้าดูเราอยู่เสมอจนกระทั่ง 1 เดือนผ่านไป…หลังจากการสอบครั้งแรก ครูเรียกให้เราออกไปยืนหน้าชั้นเรียนอีกครั้งแต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งแรกเพราะว่า
- ครู: ครูต้องขอโทษเธอด้วยนะที่คิดว่าเธอไม่ตั้งใจเรียนในวันแรก และนี้คือคะแนนการสอบของเธอ และเธอได้เกรด A ยินดีด้วยนะ
- ฉัน: ขอบคุณค่ะคุณครู เราปลื้มมากกับเกรดแต่ที่ยิ่งกว่านั้นคือครูสอนให้เราเห็นจากการกระทำว่าหากเราคิดว่าใครสักคนไม่ดีจงเฝ้ามองสิ่งที่เค้าทำ เหมือนที่ครูค่อยเฝ้ามองเรา(แต่ไม่ใช่ค่อยจับผิดนะ) แล้วเมื่อเราแสดงให้เห็นว่าเราไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าคิด ครูก็ยังมีสอนให้เราแสดงความกล้าที่จะกล่าวคำขอโทษ แม้กับคนที่อายุน้อยกว่าแบบเราก็ตาม
เรื่องท่ีห้าเป็นที่ปรึกษา
ในสมัยมัธยมต้นเราเจอคุณครูท่านหนึ่งสอนวิชาเกี่ยวกับภาษาต่างประเทศ ซึ่งแน่นอนเราไม่ชอบเรียนเลยเพราะมันมีหลายหลายสิ่งหลายหลายอย่างแตกต่างจากสิ่งที่เราคุ้นเคย และครูก็คงสังเกตุได้แหละว่าเราไม่ถูกใจสิ่งนี้ ครูเลยเรียกเราไปคุยที่ห้องถามถึงสิ่งที่เราไม่ชอบและร่วมกันหาทางแก้ไข จนในที่สุดครูเริ่มนำหนังสือการ์ตูนภาษาต่างประเทศมาให้เรายืมอ่านในช่วงเย็น ซึ่งมันทำให้เราค่อยๆจำคำศัพท์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น แต่แล้ววันหนึ่งทางบ้านของเรามีปัญหา ทำให้เราเริ่มไม่ได้เข้าไปหาคุณครูเลยเป็นเวลาหลายสัปดาห์ จนกระทั่งคุณครูเดินมาหาเราที่ห้องก่อนเลิกเรียนและชวนเราออกไปนั่งคุยกันที่สวนของโรงเรียน เราเปิดใจเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้คุณครูฟัง และท่านก็ฟังอย่างตั้งใจ สุดท้ายแล้วคุณครูก็สอนให้เราแก้ไขปัญหาที่ละเรื่อง และทำให้เราเข้าใจว่าบางอย่างที่เราแก้ไขไม่ได้ก็ต้องปล่อยให้มันแก้ไขตัวมันเองเราทำได้แค่เฝ้ามองและพยายามมีความสุขกับอยู่กับมันให้ได้
เรื่องที่หกการเดินของความรู้
ตอนเรายังเด็กเราสงสัยมากมาก ว่าทำไมที่หมู่บ้านของเราถึงมีการจัดการเรียนวิชาคำนวน เพียงแค่ครึ่งวันเช้าของวันศุกร์เท่านั้น เพราะเราจะต้องเรียนต่อเนื่องหลายชั่วโมงซึ่งแตกต่างจากการเรียนวิชาอื่นที่มีการเรียนหลายหลายวันโดยแต่ละวันก็ใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น แต่นั้นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะคุณครูที่สอนท่านสอนได้สนุกมากมาก มีทั้งอุปกรณ์ประกอบการเรียนการสอนที่ทำให้เราเข้าใจง่าย ๆ และคุณครูยังดูสนุกสนานไปกับการสอนมากมากจนทำให้พวกเราต่างเฝ้ารอการมาของวันศุกร์ ต่อมาเมื่อเราเริ่มโตขึ้นจนกระทั่งพ่อของเราพาเราออกไปเที่ยวในตัวเมืองนั้นคือการออกไปข้างนอกครั้งแรกของเรา ซึ่งทำให้เรารู้ว่าหมู่บ้านของเราอยู่ห่างจากตัวเมืองมากและต้องใช้เวลาเดินทางถึง 3 ชั่วโมง กว่าจะมาถึงได้ และคุณครูที่มาสอนเราก็ต้องเดินทางแบบนี้ในตอนรุ่งเช้าของวันศุกร์เพื่อออกมาสอนเราและท่านก็จะกลับเข้าเมืองในช่วงเย็น นั้นทำให้เราได้รู้ว่าครูต้องตั้งใจมากมากถึงตื่นมาตั้งแต่เช้าเพื่อเดินทางสามชั่วโมงเพื่อมาสอนพวกเรา (ความรู้ไม่มีขาแต่ครูก็พามันมาหาเราได้แม้จะต้องเดินทางไกลขนาดนี้ ผมรักครูครับ)
เรื่องที่เจ็ดผู้สร้างแรงบันดาลใจ
ต้องขอบอกให้เพื่อนเพื่อนก่อนว่าเรามาจากครอบครัวที่พ่อเป็นพนักงานบริษัทธรรมดา แต่ที่ทุกวันนี้เราก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าของกิจการของเราเองได้เพราะ อาจารย์ท่าหนึ่งท่านชื่อว่าอาจารย์ เดวิท มีเป็นเหมือนแสงสว่างส่องทางแห่งอนาคตให้กับลูกศิษย์มากมาย เพราะท่ามักจะพูดว่า พวกเราทุกคนไม่ได้เรียนเพื่อไปทำงานเป็นลูกจ้างใคร แต่เราเรียนรู้เพื่อสร้างและสะสมประสบการณ์เพื่อสักวันหนึ่งเราจะเป็นผู้บริหารและเจ้าของกิจการของเราเอง คำพูดของครูทำให้ผมรู้สึกงุนงงในตอนแรก ว่าทำไมครูสอนแนะแนวคนหนึ่งถึงมาพูดเรื่องราวเหล่านี้ละ และนั้นเองที่ทำให้เราอยากรู้ว่าการสร้างเนื้อสร้างตัวนั้นต้องทำอย่างไร จนผมโตขึ้น ผมมีบริษัทของตัวเอง และประสบผลสำเร็จเหมือนทุกวันนี้ “ขอบคุณครูผู้สร้างแรงบันดาลใจที่ทำให้เราเติบโต”
แล้วเพื่อนเพื่อนละมีเรื่องราวของคุณครูท่านไหนบ้างที่ส่งผลหรือสร้างความประทับใจต่อคุณมากที่สุด แล้วตอนนี้ท่านเป็นยังไงกันบ้างแล้ว ช่วยแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับครูของเพื่อนเพื่อนให้พวกเราทราบในเพจของเราด้วยสิ
เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน