บ้านในอนาคตสำหรับใครที่จะย้ายออกไปอยู่ดาวดวงอื่นที่ไม่ใช่โลก

ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสัก 20 ปีก่อนการที่จะบอกว่าพวกเราจะย้ายออกไปอยู่ดาวดวงอื่นคงจะเป็นได้แค่ความฝันหรือจินตนาการของเหล่าบรรดานักเขียนนวนิยายต่าง ๆ อย่างแน่นอนเพราะด้วยหลายหลายอย่างเช่นการเดินทางที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คนธรรมดาทั่วไปจะมีโอกาสแม้แต่จะคิดหรือเข้าใจในการเดินทางออกไปโลกชั้นบรรยากาศโลก มันก็ทำไม่ได้แล้ว แต่ใครจะคิดละว่ามาถึงวันนี้วันที่เรามีการเดินทางออกไปนอกชั้นบรรยากาศด้วยเทคโนโลยีที่เราสามารถเข้าถึงได้หากมีเงินจำนวนมากพอนั้นเอง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมีก้าวแรกให้เดินแบบนี้แล้วอนาคตที่คนทั่วไปจะสามารถเดินทางออกไปนอกโลกก็ขยับใกล้เข้ามาเรื่อยๆนั้นเอง

ดังนั้นอีกหนึ่งจินตนาการที่พวกเราเคยได้ยินมาอย่างการออกไปอยู่ตามดวงดาวต่าง ๆ มันก็น่าจะสามารถเป็นไปได้ในอนาคตข้างหน้าใช่ไหมละดังนั้นก่อนที่พวกเราจะข้ามผ่านดวงดาวและความมืดสนิทของจักรวาลในวันข้างหน้าเพื่อไปอยู่บนดาวอื่น ๆ วันนี้เรามาลองดูสิว่าหากเราไปได้จริงดวงดาวแต่ละดวงนั้นจะต้องสร้างบ้านแบบไหนที่จะเหมาะสมกับการอยู่อาศัย

มาเริ่มจากดาวพุธกันก่อนเลยดีกว่านะ
จากสิ่งที่เราทราบมาว่าที่ดาวพุธนั้นมีสภาพอากาศและอุณหภูมิที่แปรปรวนอย่างสุดขั้ว แถมยังมีฝนดาวตก และแผ่นดินไหว กับแสงแดดที่แรงกว่าโลกถึง 7 เท่า ดังนั้นการที่เราจะไปอยู่ที่ดาวพุธได้จึงไม่ใช่บ้านเล็กๆน่ารักอย่างการสร้างกระท่อมริมน้ำขึ้นมาอย่างแน่นอน ดังนั้นเพื่อรับมือกับสิ่งเหล่านี้เราจะต้องเลือกการสร้างบังเกอร์ใต้ดิน และเป็นความคิดที่ดีที่จะตั้งถิ่นฐานใกล้ฝาน้ำแข็งของดาวเพื่อเราจะสามารถเข้าถึงแหล่งน้ำได้ง่าย และอย่าลืมแผงโซลาร์เซลล์ ละเพราะนั้นจะเป็นแหล่งพลังงานจำนวนมากให้เราได้ใช้งานอย่างสะดวก และด้วยเทคโลโนยีสมัยใหม่ของตอนนี้เราสามารถส่งสัญญาณกลับมาที่โลกด้วยเวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้นและอนาคตน่าจะน้อยลงได้กว่านี้อีกทำให้เพื่อนเพื่อนสามารถโทรกลับมาหาเพื่อนๆหรือคนอื่นๆได้ไม่ยากเลย

ลำดับถัดมาเราขอแนะนำดาวศุกร์
ถึงแม้จะห่างออกมาจากดาวพุธและคิดเป็นอันดับที่สองที่ห่างจากพระอาทิตย์ แต่จากการตรวจสอบแล้วละก็เราพบว่า องค์ประกอบหลายหลายอย่างเช่นแรงดึงดูดและสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกันมาก อีกทั้งยังไม่มีสภาพอากาศที่แปรปวนมากนัก นั้นเป็นเรื่องง่ายเลยที่เราจะปรับตัวเข้ากับที่นี้ได้ แต่เพราะความร้อนของพื้นผิวเราอาจจะอยู่บนพื้นดินไม่ได้นานเท่าไหร่นั้นดังนั้นการอาศัยอยูบนท้องฟ้าด้วยเรือเหาะพลังงานแสงอาทิตย์น่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีเลย

ลองมาดูกันที่ดาวพลูโตดีกว่า
เพราะสภาพอากาศที่หนาวเย็นอย่างมากดังนั้นการสร้างบ้านแบบโดมน้ำแข็งคล้ายของเอสกิโมจึงเป็นสิ่งที่เราอยากจะนำเสนอโดยภายในบ้านจะประกอบด้วยสัดส่วนต่าง ๆและนั้นรวมถึงสวนหลังบ้านของคุณด้วยนะ คุณต้องมีแหล่งกำเนิดแสงที่ทรงพลังจำนวนมาก เนื่องจากดวงอาทิตย์บนดาวพลูโตดูเหมือนดวงจันทร์บนโลกในกรณีที่ดีที่สุด หลอดฟลูออเรสเซนต์แบบเก่าน่าจะตอบโจทย์เพราะให้ทั้งแสงสว่างและความร้อนอีกด้วย และหากเราต้องไปอยู่จริง ๆ และก็คงต้องมีระบบทำความร้อนอัจฉริยะที่ไม่ละลายน้ำแข็งหรือกำแพงบ้านเราด้วยนะ

มาถึงดาวพฤหัสบดี
ถ้าเพื่อนเพื่อนทราบกันบางก็จะรู้ว่าดาวพฤหัสบดีเป็นกลุ่มก๊าซขนาดยักษ์ ดังนั้นการอาศัยอยู่บนนั้นจึงเป็นเรื่องยาก แต่บางทีก็เป็นไปได้ บ้านของคุณจะต้องมีทั้งรถไฟเหาะพิเศษที่จะช่วยให้มันลอยอยู่บนเมฆหนาทึบของดาวพฤหัสบดีและโดมป้องกันที่แข็งแกร่ง ฟองอากาศจะเก็บออกซิเจนที่จำเป็นไว้ภายใน ตัวอาคารควรยึดติดกับเป็นชั้นเดียว แต่ในทางกลับกัน ดาวพฤหัสบดีมีดวงจันทร์หลายสิบดวงและมองเห็นแสงออโรร่าที่ดีทางตอนเหนือ ดังนั้นอย่างน้อยคุณก็น่าจะมองเห็นได้ชัดเจนจากหน้าต่างของคุณ

มาถึงดาวเสาร์กันบ้าง
ต้องบอกว่าดาวเสาร์ยังพร้อมสำหรับการเข้าอยู่สักเท่าไหร่เพราะมันไม่มีพื้นผิวที่เป็นของแข็ง ดังนั้นบ้านของคุณจึงเป็นโครงสร้างคล้ายฟองสบู่ที่สามารถลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศของดาวเสาร์ได้ นอกจากนี้คุณยังต้องการพนังและหลังคาที่แข็งแรงพอที่จะรับแรงกระแทกของเหล่าฝนดาวตกอีกด้วย

ดาวยูเรนัสและดาวเนปจูน
ที่เรารวมเอา 2 ดวงเข้าด้วยกันนั้นก็เพราะว่าทั้งคู่มีลักษณะคล้ายกันมากมากเพราะเป็นดาวเคราะห์ที่มีน้ำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของเหลวที่ไม่มีพื้นผิวที่เป็นของแข็ง ดังนั้นเราคงต้องมีเรือเพื่ออาศัยอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน และเนื่องจากมันมีแรงดึงดูดมากกว่าโลกดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เราควรจะเตรียมตัวเรือของเราให้แข็งแรงเข้าไว้และมองหาแหล่งพลังงานจากการใช้คลื่นน้ำและการไหลนั้นเอง

เรามาพูดถึงดาวอังคารกันดีกว่า
คงเป็นดาวดวงเดียวที่ตอนนี้เราวางแผนที่อย่างชัดเจนเพระทั้งการสำรวจและการส่งยานอวกาศไปตรวจสอบทำให้เราได้ข้อมูลมากมายของดาวดวงนี้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไหร่นักที่จะย้ายไปอยู่ในตอนนี้เพราะเรายังต้องสร้างสิ่งก่อสร้างที่เหมือนโดมขนาดใหญ่เพื่อกันฝุ่นจากพายุที่จะพัดมาเป็นช่วงเวลาและอีกประโยชน์ของโดมก็คือการสร้างอากาศนั้นเอง เพราะถึงจะมีพื้นดินและพายุที่เราทนได้แต่ก็ยังขาดอากาศสำหรับการหายใจอยู่นั้นเอง ดังนั้นเมื่อเราสร้างโดมจำนวนมากและสามารถผลิตอากาศได้มากพอสักวันหนึ่งเราก็จะสามารถก้าวออกจากโดมมาวิ่งเล่นที่ด้านนอกของดาวอังคารได้อย่างแน่นอน

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน