5 ท่ายืดเหยียดที่บอกว่าตัวคุณมีความยืดหยุ่นขนาดไหน

สำหรับคนที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย และมีการยืดเส้นยืดสายอยู่เป็นประจำเรื่องการขยับร่างกายในท่าทางต่าง ๆ ก็ดูเป็นเรื่องง่ายไปหมดทุกอย่าง แต่สำหรับเพื่อนๆ บางคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังก็จะดูเป็นเรื่องยากซะหน่อย แต่แล้วเราก็ยังอาจจะมีเพื่อนเพื่อนบางคนของเราที่เป็นคนที่มีความสามารถในการขยับแขนขาได้อย่างยอดเยี่ยมแบบมากกว่าคนปกติ โดยที่เรามองหาเหตุผลจากความยืดหยุ่นที่มีมากกว่าคนทั่วไปแทบไม่ได้เลยเพราะเค้าเหล่านั้นก็ทำกิจวัตรต่างๆ เหมือนกับเรานี้แหละ วันนี้เรามีข้อมูลมาบอกแล้วว่าความสามารถอันนี้เค้าเรียกกันว่าไฮเปอ ร์โมบิลิตี้ ซึ่งมันอาจจะเป็นความพิเศษที่มีอยู่ในตัวของนักกีฬา หรือนักแสดงที่ต้องทำการแสดงและถูกฝึกฝนมาเป็นอย่างดี

วันนี้พวกเราที่เพลินเพลินได้ลองรวบรวมลักษณะเฉพาะของท่าททางที่บอกได้ว่าคุณนั้นมีความสามารถในการยืดหยุ่นของส่วนต่าง ๆ มากกว่าเพื่อนเพื่อนหรือเปล่า และเพื่อนเพื่อนที่ได้ลองทำดูก็อาจจะได้รู้กันวันนี้แหละว่าตัวคุณเป็นคนที่มีความสามารถแบบไฮเปอร์โมบิลิตี้หรือไม่ ทั้งนี้ใครจะไปรู้คุณอาจกลายเป็นมืออาชีพในด้านนี้ไปเลยก็ได้!

ท่าทางต่าง ๆ ที่ใช้ในการดูว่าเรามีความสามารถแบบยืดหยุ่นพิเศษหรือเปล่าถูกเรียกว่าการทดสอบของ Beighton

ท่าทางเหล่านี้ เป็นการทดสอบใช้เพื่อตรวจสอบความยืดหยุ่นของแต่บุคคล ดังนั้นไม่ใช่ทุกคนที่สามารถทำท่าทั้งหมดนี้ไปได้ โดยท่าทางทั้งหมดประกอบด้วยท่าง่ายง่าย 5 ท่าที่ออกแบบมาเพื่อทำให้เราได้รับรู่ว่าเรานั้นมีความยืดหยุ่นของส่วนต่าง ๆ มากสุดสามารถทำได้ขนาดไหน และระดับที่จะทำได้ก็จะมีการให้คะแนนโดยนับจากเกณฑ์ที่ตั้งไว้โดยมีตั้งแต่ระดับ 1 ถึง 9 คะแนนโดยที่คุณจะได้หนึ่งคะแนนต่อส่วนของร่างกายที่คุณทำสำเร็จ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถจะได้รับ 2 คะแนนถ้าคุณสามารถทำท่าทางที่กำหนดได้ทั้งจากมือด้านซ้ายและมือด้านขวาของคุณ
จากข้อมูลของทีมงานแล้วได้บอกให้เราทราบว่าเพื่อนเพื่อนที่ทำได้ตั้งแต่ 4 คะแนนขึ้นไปมีความสามารถในการเคลื่อนไหวมากกว่าเพื่อนๆคนอื่น

ท่าที่ 1: ท่างอข้อศอกไปข้างหลัง

ทำการยืดแขนออกไปให้ไกลที่สุด และงอข้อมือออกไปด้านนอกจะทำให้ยืดได้ง่ายขึ้น สังเกตุมุมตรงข้อศอกที่อยู่ระหว่างแขนหากมากกว่า 10 °องศา แสดงว่าคุณได้รับหนึ่งคะแนนจากข้อนี้และลองทำตามด้วยแขนทีข้าง

ท่าที่ 2: ง้างนิ้วหัวแม่มือไปให้ชิดกับหน้าแขน

วางแขนของคุณทำมุม90º อวศาแล้วงอข้อมือเข้าไปด้านใน กางนิ้วหัวแม่มือออกและใช้มืออีกข้างของคุณกดนิ้วโป้งเข้าไปที่ปลายแขนอย่างช้าๆ หากคุณสามารถจัดการได้ให้เพิ่มระดับของนิ้วโป้งแต่ละข้างช้าๆจนไปติดกับแขน ถ้าทำได้ให้คะแนนตัวเองไปอีกข้างละหนึ่งคะแนนได้เลย

ท่าที่ 3: ท่าง้างนิ้ว

สำหรับขั้นแรกคุณต้องวางฝ่ามือของคุณโดยหงายขึ้นและดึงนิ้วก้อยของคุณด้วยนิ้วมืออีกข้างหนึ่ง เพื่อดึงลงเช่นที่คุณเห็นในภาพประกอบด้านบน เสร็จแล้วค่อยดึงนิ้วทยอยดึงนิ้วทั้งหมดที่เหลือ และทำซ้ำขั้นตอนสำหรับแต่ละมือและเพิ่มระดับสำหรับแต่ละมือหากนิ้วทั้งหมดของคุณสามารถงอได้มากกว่า 90 °


© OH-LS / Crystal Pictures / EAST NEWS
ท่าที่ 4: งอเข่าไปข้างหลัง

ขณะยืนตรงให้วางน้ำหนักทั้งหมดไว้ที่ขาข้างหนึ่งและพยายามดึงเข่าไปข้างหลัง (แทนที่จะงอไปข้างหน้า) ให้ไกลที่สุดเพื่อยืดขาทั้งหมด ทำซ้ำขั้นตอนสำหรับขาทั้งสองข้าง อย่าลืมเพิ่มระดับสำหรับแต่ละขา หากคุณสามารถงอเข่าไปข้างหลังได้มากกว่า 10 °องศารับเพิ่มไปอีกข้างละหนึ่งคะแนน


©gettyimage

ท่าที่ 5: พยายามวางมือของคุณราบกับพื้นโดยให้หัวเข่าเหยียดตรง

ยืนขึ้นและวางขาทั้งสองข้างไว้ด้วยกัน ยืนอยู่บนพื้นอย่างมั่นคงโดยไม่งอเข่า และให้พยายามสัมผัสพื้นด้วยฝ่ามือของคุณตอนแรกอาจจะไปไม่ถึงพื้นแต่คุณสามารถค่อยๆ เพิ่มระดับสำหรับการยืดแขนแต่ละข้างให้ไปสัมผัสพื้นได้สำเร็จ


ได้เวลาคิดคะแนนแล้ว! หากคุณมีมากกว่า 4 เราก็ยินดีด้วย

เพราะหากคุณได้คะแนนมากกว่า 4 คะแนนในการทดสอบข้างต้นนั่นหมายความว่าคุณอาจมีความสามารถแบบ ไฮเปอ ร์โมบิลิตี้ นั้นเอง แล้วอะไรคือความแตกต่างระหว่างคนที่มีความสามารถ ไฮเปอ ร์โมบิลิตี้ กับผู้ที่ไม่มีมันก็คือเส้นใยคอลล าเจนและโป รตีนของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันอื่น ๆ ดังนั้นพวกเขามีความยืดหยุ่นมากกว่า เนื่องจากเส้นใยเหล่านี้มีหน้าที่ในการสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับร่างกายและส่วนต่างภายในร่างกาย แต่ก็มีบางสิ่งบางอย่างที่คุณต้องพึงระวัง ตัวอย่างเช่น ควรออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลายร่างกาย หลีกเลี่ยงกีฬาที่มีการปะทะกัน ทำท่าออกกำลังกายเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และควรใช้ท่าออกกำลังกายที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการใช้งานข้อต่อมากเกินไปและถ้าคุณมีคะแนนน้อยกว่า 4:

© EAST NEWS, © Getty Images
นั้นก็หมายความว่าคุณมีร่างกายที่ไม่ยืดหยุ่น แต่การไม่มีความยืดหยุ่นมากกว่าปกติมันก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย! ในทางตรงกันข้ามหมายความว่าคุณอยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่จะเล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมใด ๆ อย่างไรก็ตามหากคุณต้องการเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นได้หากคุณมีเหตุผลบางประการที่อยากเพิ่มในจุดนี้ เรามีท่าออกกำลังกาย 3 ท่าที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายนี้ได้ (หากคุณทำอย่างสม่ำเสมอ)

การยืด: นั่งบนพื้นโดยยื่นขาทั้งสองข้างไปข้างหน้าคุณ ไขว่ขาขวาไปทางซ้ายและให้มือขวาอยู่ข้างหลังลำตัว วางมือซ้ายหรือข้อศอกซ้ายด้างข้าง ทำซ้ำในอีกด้านหนึ่ง

ท่ายืดอก: นอนหงายโดยให้แขนทั้งสองข้างออกไปด้านข้างเพื่อให้ร่างกายมีรูปร่างเป็นตัว“ T” ดันพื้นด้วยมือซ้ายแล้วงอเข่าซ้าย หมุนไปทางด้านขวาจนกว่าคุณจะรู้สึกได้ในบริเวณอกด้านขวา ทำซ้ำโดยใช้ด้านตรงข้าม

ท่ายืดเอ็นร้อยหวาย: ยืนขึ้นงอศีรษะและลำตัวไปข้างหน้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โอบแขนรอบหลังขา คงไว้ในตำแหน่งนี้ประมาณ 45 วินาทีถึง 2 นาที งอเข่าเมื่อเสร็จสิ้น

ท่ายืดเพรทเซล: เริ่มด้วยนอนบนพื้นด้านซ้าย งอเข่าขวาและสะโพกขึ้นไปที่หน้าอกให้มากที่สุดก่อนจะวางลง งอเข่าซ้ายแล้วจับเท้าซ้ายด้วยมืออีกข้าง เหยียดขาและลำตัวให้ตรง หันศีรษะไปมองข้ามไหล่ขวาหากคุณต้องการบิดกระดูกสันหลัง

ท่าปรับมุมเอนนอน: นอนหงายเอาฝ่าเท้าเข้าหากันปล่อยให้หัวเข่าเปิดขึ้นขยับชิดพื้น ค้างท่านี้ประมาณหนึ่งหรือ 2 นาที
เข่าถึงหน้าอก: นอนหงายและดึงชิดหน้าอกด้วยมือทั้งสองข้างโดยให้หลังส่วนล่างติดพื้น ค้างไว้ในตำแหน่งนี้ไว้ประมาณ 2 นาที

ท่ายืดกบ: เริ่มต้นวางมือและเข่าบนพื้น จากนั้นกางเข่าให้กว้างขึ้นโดยเลียนแบบกบ ในขณะนี้เท้าตรงติดกับพื้น ค่อยๆเลื่อนสะโพกออกไปชิดส้นเท้า ย้ายจากมือของคุณไปยังปลายแขนของคุณถ้าเป็นไปได้ และค้างไว้ประมาณ1- 2 นาที

คุณได้คะแนนเท่าไร? และท่าใดที่คุณพบว่ายากที่สุด? คุณเป็นหรือรู้จักคนที่มีความยืดหยุ่นสูงหรือสามารถเคลื่อนไหวได้ไม่เหมือนใครหรือไม่? แบ่งปันกับเราสิ!

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน