7 เรื่องเล่าอารมณ์ดีจากสาวๆที่เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ

อารมณ์ขันถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องบอกว่ามันเป็นเหมือนอีกหนึ่งวิชาเลยที่พวกเราสามารถเอามาใช้ในการดำเนินชีวิตระหว่างวันของเราได้ ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้เอามาใช้ทำงานหรือแก้ไขปัญหาของเราได้แต่มันสามารถทำให้คนรอบๆตัวเรานั้นมีรอยยิ้มพร้อมทั้งเสียงหัวเราะอีกด้วยดังนั้นพวกเราก็ไม่แปลกใจเลยที่เหล่าคนที่มีอามณ์ขันเหล่านั้นมักจะมีเพื่อนฝูงหรือผู้คนรายล้อมอยู่เสมอ และวันนี้เราก็อยากจะมานำเสนอความสามารถทางด้านอารมณ์ขันของเหล่าสุภาพสตรีเพราะเราทราบมาว่าผู้หญิงหรือเหล่าเพื่อนหญิงของเรานั้นมักจะมีความคิดลึกล้ำหรืออาจจะเรียกว่าคิดซับซ้อนหรือคิดหลายตลบมากมากซึ่งเราก็พบว่ามันมีเหตุผลเนื่องจากผู้หญิงนั้นมีการใช้งานความคิดแบบละเอียดละออหรือจะเรียกว่าคิดแล้วคิดอีกคิดอยู่นั้นแหละ และด้วยคุณลักษณะนี้เองที่ช่วยให้ผู้หญิงสามารถสร้างแนวคิดที่ไม่อาจคาดคิดเป็นจำนวนมาก แล้วถ้าสิ่งเหล่านั้นเราเอามาใช้งานควบคู่ไปกับสติปัญญาในการสร้างสรรค์อารมณ์ขันแล้วมันจะทำให้เรามีโอกาสได้เพลิดเพลินไปกับเรื่องราวที่เปิดมุมมองใหม่ๆได้เสมอ

วันนี้พวกเราเพลินเพลินลองรวบรวมเอาเรื่องราวน่ารักๆที่เกิดขึ้นกับของเหล่าเพื่อนสาวของเรา มาลองดูกันสิว่าต่อไปนี้เรื่องราวไหนจะถูกใจและเรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนเพื่อนได้บ้าง

คำขอโทษแบบนี้ก็ดีเนอะ

ก่อนหน้านี้เราเป็นคนไม่ค่อยคิดอะไรมากแต่ก็มีหลายหลายคนผ่านเข้ามาแล้วทำเรื่องไม่ค่อยดีกับเรานักซึ่งมีครั้งล่าสุดนี้แหละที่เราคิดว่ามันเกินไปและเพื่อนของเราที่เป็นทนายก็อาสาจะจัดการเรื่องนี้ให้ในแบบที่เค้าถนัดซึ่งหลังจากนั้นเราก็ได้สิ่งที่เรียกว่าค่าชดเชยจากการกระทำเหล่านั้น ซึ่งพอมาดูแล้วเราก็คิดได้ว่าต่อไปนี้ถ้าเรารับคำขอโทษเป็นสิ่งนี้เราก็คงอยู่ได้อย่างสบายเลย

ห่างกันสักพัก

เรามีแฟนคนหนึ่งตอนที่เรียกอยุ่ชั้นมัธยมปลายซึ่งตอนนั้นต้องเรียกว่าเป็นช่วงที่หลายๆคนรวมทั้งเราและแฟนด้วยต้องขยันสุดๆเพื่อที่จะเตรียมตัวสำหรับการสอบเพื่อที่จะได้เข้ามหาวิทยาลัยที่เลือกได้ ตอนนั้นเองเราก็คิดได้ว่าเราน่าจะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ก่อนดังนั้นเราก็เลยส่งข้อความไปบอกแฟนของเราว่าตอนนี้เราอยากใช้เวลาให้กับเรื่องเรียนเลยอยากจะขอ “ห่างกันซักพัก” ซึ่งข้อความที่ส่งกลับมาจากแฟนสาวของเราไม่ได้เขียนอะไรมากแต่เป็นข้อความสั้นๆว่า สักพัก ต้องใช้ “ส” ซักอันนี้มันซักผ้า แล้วหลังจากนั้นเราก็ไม่ได้คุยกับเธออีกเลยจนถึงตอนนี้

วางมันลงซะ

เพื่อนเพื่อนเชื่อเรื่องที่ว่าผู้หญิงเก็บเงินเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดบ้างไหมครับตอนแรกผมก็ไม่เชื่อจนกระทั้ง ตอนที่ผมเริ่มทำงานได้สักพักแต่ไม่มีเงินเก็บเลยตอนนั้นเองแฟนของเราอาสาจะเข้ามาจัดการเรื่องนี้ให้ ซึ่งผมขอบอกเลยว่าว่าแฟนสาวของผมช่างเก่งจริงๆเพราะนอกจากเธอจะให้ผมทำรายการบัญชีเพื่อบอกถึงสิ่งที่ผมใช้ไปแล้วเธอยังสามารถจดจำราคาสิ่งของต่างๆ มีอยู่ครั้งหนึ่งผมอยากได้ของอย่างหนึ่งและระหว่างที่เดินเล่นก็บังเอิญไปพบเข้าพอดีทันทีที่ผมหยิบขึ้นมาเธอกล่าวสั้นๆว่า “คุณมีมันแล้วจงปล่อยสิ่งนี้ลง” ซึ่งผมจำไม่ได้เลยว่ามันมีอยู่และเมื่อลองกลับบ้านมาก็มีอยู่ในตู้จริงๆ ซะด้วย

แค่ตัวช่วยก็พอ

วันหนึ่งเราขับรถไปกับลูกสาววัย 7 ขวบและมองเห็นเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังปั่นจักรยานเล่นที่ข้างทางเราซึ่งเราสังเกตุเห็นว่าเธอมองตามเด็กๆเหล่านั้นอยู่เราก็เลยพูดกับลูกสาวว่า วันหนึ่งถ้าลูกกล้าพอลูกก็จะสามารถปั่นจักรยานแบบนั้นได้ แต่เธอมองกลับมาแล้วบอกสั้นๆว่า “การปั้นจักรยานไม่ต้องใช้ความกล้าหรอกพ่อ แค่ล้อเล็กอีกสองล้อก็พอให้เราไม่ต้องล้มแล้ว” เออมันก็จริงนะเราก็นึกว่าอยากปั่นเท่ๆซะอีก

คุณสวยมาก
ในตอนที่ฉันนั่งฟังบรรยาย และมองจ้องออกไป โดยบังเอิญหางตาของฉันไปสะดุดกับผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งซึ่งเขาก็จ้องมาที่ฉัน แต่ฉันไม่คิดอะไรและตั้งใจฟังอาจารย์บรรยายต่อไป หลังจากการบรรยายจบลง เขามาหาฉัน และวางมือบนศีรษะของฉัน “คุณกำลังทำอะไร” เขาจ้องมาที่ฉันอย่างเฉยชาและบอกว่า “ผมไม่เคยเห็นกะโหลกที่สวยแบบนี้มาก่อน” จากนั้นเขาก็เดินจากไป

ของขวัญที่อยากได้

เราบังเอิญมีห้องเช่าที่ติดกับคู่แต่งงานสูงอายุคู่หนึ่ง ซึ่งก็คงจะแต่งกันมานานแล้วและก็คงรักกันดีอยู่ จนวันหนึ่งบังเอิญเราไปพบคุณยายที่ร้านกาแฟซึ่งในระหว่างนั้นคุณตาไม่ได้อยู่ด้วยเราที่นั่งอยู่ข้างก็เลยชวนคุยกันไปเรื่อยๆ จนกระทั้งถามไปถึงว่าท่านดูรักกันมากมากแล้วพบกันได้ยังไงคุณยายขยับเข้ามาใกล้และเล่าว่าในวันใกล้สิ้นปีมีครั้งหนึ่งท่านไปเที่ยวกันสองคนและคุยกันเล่นๆระหว่างที่เห็นดาวตก ว่าอยากจะได้ของขวัญอะไรให้อธิฐานขอได้หนึ่งอย่าง และคำที่คุณตาบอกก็คือ “จับมือกันไว้จนแก่แบบนี้ก็พอนะ” แค่ฟังก็ทำให้เราอินตามไปด้วยเลยและคงไม่ต้องบอกอะไรอีกแล้วสำหรับเรื่องราวดีดีที่คุณยายข้างบ้านได้เล่าให้ฟัง แล้วก็คิดอย่างมีแบบนี้สักคนเนอะ

ตลกเกินไป
คิดถึงตอนที่ไปออกเดตกับผู้ชายคนหนึ่ง ในขณะที่กำลังเล่นมุกอยู่ก็เห็นสายตาอันตกตะลึงของเขา โดยหลังจากนั้นตอนที่กำลังกลับบ้านในระหว่างทางเค้าก็บอกว่าเราน่าจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันก็พอเพราะจากที่ได้เที่ยวกันวันนี้เมื่อเขาพึ่งรู้ว่าฉันเป็นคนตลกเกินไป

เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน