10 รายละเอียดเล็ก ๆ ในครัวที่ช่วยทำให้ครัวสะอาดอยู่เสมอ

สำหรับบ้านที่ทำอาหารทานเอง หรือ บ้านที่อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ ห้องครัวถือเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ที่มีผู้คนเดินเข้าเดินออกเพื่อไปหยิบอาหารหรือน้ำมาทาน จึงไม่แปลกใจเลยที่มันจะเป็นห้องที่ทุกคนใช้งานบ่อยอันดับต้นต้นของบ้าน และด้วยการที่ใช้งานบ่อยนี้แหละทุกคนเลยมักจะเคยชินกับมันจนไม่ได้สังเกตเห็นรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจทำให้บางอย่างไม่น่าดูจากการทำความสะอาดแบบไม่ทั่วถึงจนเกิดเป็นความเคยชินไปเลย หรืออาจใช้เวลานานเกินไปที่จะทำความสะอาดด้วยก็ได้ แต่ถ้าคุณปฏิบัติตามเคล็ดลับง่ายๆเหล่านี้ห้องครัวของคุณจะดูสะอาดและสวยงามอยู่เสมอ

หลังจากที่เพื่อนเพื่อนได้อ่านบทความนี้แล้วพวกเราที่เพลินเพลินคิดว่าอย่างน้อยมันก็น่าจะช่วยให้คุณมองเห็นรายละเอียดต่าง ๆ ในห้องครัวของคุณได้มากขึ้น และแก้ไขสิ่งที่ทำให้ดูยุ่งเหยิง หรือ ยุ่งยากให้ดูง่ายขึ้นมาเลยละ

จัดเก็บผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้งานในครัวและสิ่งของอื่น ๆ ที่จำเป็นไว้ในตู้ให้ดูโปร่งและเป็นระเบียบอยู่เสมอ

ปัญหาในการจัดเก็บผลิตภัณฑ์และสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ต่างต่างของแต่ละบ้านนั้นแตกต่างกันไปตามแต่ขนาดของครัวของแต่ละบ้าน และยิ่งครัวมีขนาดใหญ่ ยอมมีพื้นที่มากพอที่จะทำตู้หรือชั้นว่างโดยเมื่อเทียบกับห้องครัวที่มีขนาดเล็กแล้วยอมดูไม่สบายตามากกว่า ดังนั้นเรามีเคล็ดลับง่ายๆ ก็คือจัดวางทุกอย่างให้เป็นระเบียน โดยวางเอาไว้ให้เรามองเห็นได้ ถ้าหากตู้ของเราสงเกินไปหรือ เรามีของที่ใช้เก็บแค่ชิ้นเล็กๆ เราสามารถแบ่งชั้นออกเป็น 2 ส่วนด้วยการเพิ่มที่กั้นจะดีกว่าการว่างของให้แน่น แล้วเหลือพื้นที่ด้านบน เพราะจะหาหรือหยิบได้ง่ายกว่า

ยิ่งไปกว่านั้นการเก็บผลิตภัณฑ์ไว้ในขวดโหลที่ปิดสนิทจะช่วยป้องกันแมลงต่างๆในตู้กับข้าว และคุณสามารถเพิ่มชั้นวางหรือทำเป็นลิ้นชักลึกเพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บ

2. ดูแลเรื่องความสะอาดของอุปกรณ์ทำครัวต่างต่างไม่ให้มีคราบ หรือ สิ่งไม่พึงปนะสงค์ตกค้างอยู่
© AntonMatyukha / Depositphotos

อย่างจานที่แตกหรือมีรอยร้าวแล้วควรเปลี่ยนใหม่ดีกว่าเพราะเวลานำมาให้งานมันก็อาจจะแตกได้แถมรอยร้าวต่างต่างนั้นยังอาจหลุดลอกลงไปในอาหารได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นรอยร้าวในจานเหล่านี้ยังจะสามารถเป็นที่สะสมของสิ่งสกปรกและสิ่งไม่พึ่งประสงค์ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมร้านอาหารต่างต่างจึงไม่นิยมใช้จานที่มีรอยร้าวแล้ว

นอกจากนี้อย่าลืมจัดการกับเครื่องครัวที่เป็นพลาสติกที่มีรอยขีดข่วนซึ่งทำให้เสียรูปลักษณ์การใช้งานไปแล้ว ชามเคลือบและเครื่องครัวไม้เก่า ๆ เช่น ไม้พายและช้อนผสมที่เป็นรอยดำมากมากก็ไม่ควรเก็บไว้

3. การดูแลอ่างล้างจาน และบริเวณที่วางจาน

© belchonock / Depositphotos, © ajafoto / Depositphotos

วิธีการคือง่ายมาก คุณควรจัดเตรียมจาน ส้อม และช้อนตามจำนวนที่ครอบครัวของคุณต้องการ และนำส่วนที่เหลือออกไป เพราะถ้ามันมีจำนวนมากเกินไปมันจะเกะกะมากหลังจากล้างจานหรือทำอาหาร คุณยังจำเป็นต้องทำความสะอาดอ่างล้างจาน และควรเช็ดให้แห้งด้วยกระดาษเช็ดมือหรือผ้า ส่วนเศษอาหารที่เกิดชื้นในอ่างล้างจานจะเป็นแหล่งเพาะสิ่งสกปรกต่างต่างได้ ดังนั้นอย่าลืมทำความสะอาดเศษอาหารที่ค้างอยู่ทุกครั้ง และควรล้างอ่างล้างจานสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งด้วยสารทำความสะอาด

4. การจัดเก็บผงซักฟอกหรืออุปกรณ์ทำความสะอาด
ถ้าพื้นที่บ้านมีขนาดไม่ใหญ่มากเครื่องซักผ้ามักตั้งอยู่ในห้องครัวในอพาร์ตเมนต์ ถ้าเป็นในแถบยุโรปจะมีตู้ขนาดเล็กสำหรับจัดเก็บพวกอุปกรณ์ต่างๆแยกไว้ให้ แต่ที่บ้านเรานั้นแทบจะไม่มีให้เลยดังนั้นเมื่อลองมองดูรอบรอบเครื่องซักผ้าซึ่งมักจะมีเครื่องมือซักผ้าหลายชนิด เช่น ผงซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม และสารทำให้ผ้าสดใสที่ทุกคนมองเห็นได้ ยิ่งไปกว่านั้นสารเหล่านี้มีกลิ่น และอาจเป็นปัญหาต่ออากาศภายในห้องได้ ดังนั้นคุณสามารถเคลื่อนย้ายสิ่งเหล่านี้ไปไว้ใต้อ่างล้างจานได้ หรือหาตะกร้าที่มีฝาปิดมาใส่ให้เรียบร้อยแทนการวางไว้ตามพื้นหรือบนเครื่องซักผ้า

5. โต๊ะในครัว

ส่วนที่ถูกละเลยมากที่สุดที่เราพบก็คือโต๊ะอาหารที่ตั้งอยู่ในส่วนกลางหรืออาจจะในห้องทานอาหารนั้นเอง ส่วนใหญ่โต๊ะอาหารจะเป็นที่รวมของอาหารทุกสิ่งที่เราสามารถหยิบมาทานได้โดยไม่ต้องเข้าตู้เย็น (รวมถึงซอสและเครื่องเทศต่างๆ อีกด้วย) นั้นเองที่ทำให้ทุกคนในบ้านเวลาซื้ออาหารหรือขนมมาก็จะมาวางไว้ที่โต๊ะอาหารดังนั้นมันจึงหาความเป็นระเบียบได้ยากมาก สิ่งที่เราอยากจะแนำนำคือลองหากล่องสำหรับเก็บเครื่องเทศหรือซอสต่างๆ และเตรียมถาดขนมหรือผลไม้ให้เห็นได้ชัดเพื่อที่เมื่อทุกคนผ่านมาเห็นจะได้ทราบว่าต้องซื้อหรือไม่ต้องซื้อขนมมาวางไว้เพราะเห็นบริมาณอาหารที่ถูกจัดไว้อย่างเรียบร้อยแล้ว

6. ฟองน้ำและผ้าขี้ริ้ว

© garry64ru@mail.ru / Depositphotos
ฟองน้ำ และเศษผ้าเป็นสิ่งที่ต้องมีในครัว คุณอาจจะหาภาชนะที่พอดีสำหรับวางฟองน้ำของคุณ และผ้าขี้ริ้วก็ควรตากให้แห้งอยู่ตลอด เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในห้องครัว อีกทั้งยังเป็นการลดกลิ่นอับชื้นอีกด้วย และเราขอแนะนำให้คุณเปลี่ยนฟองน้ำทุก 7 วันเพื่อความสะอาดและป้องกันกลิ่นตกค้างจากคราบอาหาร

7. การดูแลผ้าต่างๆที่อยู่ในครัว

ผ้ากันเปื้อนในครัว หรือผ้าที่วางหม้อไม่ควรเต็มไปด้วยคราบมันเยิ้มที่ไม่สามารถล้างหรือทำความสะอาดได้ และที่จับหม้อก็เช่นกัน การเย็บผ้ากันเปื้อนใหม่ และที่วางหม้อใหม่หรือเปลี่ยนให้มีขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งานภายในครัวของแต่ละคน จะช่วยให้ห้องครัวของคุณโล่งโปร่งและดูดีขึ้นมาก

8. โพสต์อิทโน้ตและกระดาษอื่น ๆ
© borusikk / Depositphotos, © EnzoArt / Depositphotos

บันทึกโพสต์อิทจำนวนมากที่คนในบ้านติดไว้ในตู้เย็นและสถานที่อื่น ๆ ที่มองเห็นได้มักจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองซีดเมื่อเวลาผ่านไป และทำให้ห้องครัวของคุณดูรกรุงรั ลองใช้แผ่นแม่เหล็กพิเศษสำหรับมาร์กเกอร์แบบลบได้ยึดติดกับตู้เย็น หรือผนังแทนกระดาษ จะช่วยให้มันดูดีขึ้นและคุณสามารถเขียนใหม่ได้ตลอด

9. หน้าต่างห้องครัว

© Khan_risk / Depositphotos, © fotogal / Depositphotos

ทำให้หน้าต่างห้องครัวของคุณดูสวยงาม โดยอย่าพยายามนำสิ่งของต่าง ๆ ไปวางกองไว้ใกล้หรือไปตั้งบังแสงแดด เพราะยิ่งห้องเราได้ความสว่างจากแสงแดดมากเท่าไหร่ห้องก็จะดูโล่งโปร่ง และยังระบายกลิ่นต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย

10. อากาศบริสุทธิ์

© hrabar / Depositphotos

ระบายอากาศในครัวให้บ่อยที่สุดเท่าที่ทำได้ โดยเฉพาะขณะทำอาหาร หากคุณกำลังทำอาหารทะเล หรือทอดอาหารโดยไม่มีเครื่องดูดอากาศ คุณตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เปิดประตูหรือเปิดหน้าต่างแล้ว เนื่องจากห้องครัวที่มีอากาศถ่ายเทจะทำให้ไม่มีกลิ่นตกค้าง

นอกจากเคล็ดลับข้างต้นแล้ว เพื่อนเพื่อนยังมีเคล็ดลับอะไรอีกบ้างในการรักษาความสะอาดครัวของเพื่อนเพื่อน? ยังไงก็แบ่งปันเรื่องราวเหล่านั้นกับเราในความคิดเห็นได้เลยนะ

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน