8 เคล็ดลับการอยู่ในป่าเพื่อว่าในสักวันหนึ่งคุณอาจจะหลงป่า

S.T.O.P มันย่อมาจาก stop think observe และ plan ซึ่งมันคือเทคนิคที่ผู้เชี่ยวชาญอย่างมาร์ค เจนกินส์ใช้เมื่อหลงทางในถิ่นทุรกันดารโดยไม่ต้องใช้ GPS หรือไม่มีโทรศัพท์  ทั้งนี้สิ่งสำคัญคือ การหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ การหาน้ำเพื่อให้ได้ดื่มน้ำสะอาด และการหาหนทางกลับสู่หมู่บ้านขั้นตอนต่าง ๆ ทั้งหมดนี้ล้วนจำเป็นและสามารถใช้งานได้

พวกเราได้รวบรวมเคล็ดลับที่สามารถนำไปใช้ได้จริงหากคุณหลงทางในถิ่นทุรกันดารซึ่งมันก็คงไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ หรอกแต่ก็อยากให้เพื่อนๆ ได้ทราบไว้เป็นความรู้เล็ก ๆ น้อยๆ หรือจะเอาไว้อวดเพื่อนเวลาไปตั้งแคป์ก็ยังได้

1. การใช้ถุงพลาสติกห่อรอบกิ่งไม้ในตอนกลางวันจะสามารถสร้างน้ำสะอาดได้

การหาแหล่งน้ำดื่มเป็นสิ่งสำคัญมากเมื่อคุณหลงทางในถิ่นทุรกันดาร เพราะน้ำเป็นสิ่งจำเป็นอันดับต้นๆ และการทนต่อการขาดน้ำของแต่ละคนก็มีไม่เท่ากัน ถ้าเปรียบเทียบกับนักกีฬาที่ออกกำลังกายอย่างหนักในสภาพอากาศร้อนอาจขาดน้ำ และสลบไปในเวลาไม่กี่ชั่วโมง อย่างไรก็ตามวิธีหาน้ำจืดนั้นค่อนข้างง่าย คุณสามารถใช้วิธีควบแน่น เพียงแค่ห่อกิ่งของต้นไม้ที่มีใบไม้อยู่ โดยอาจจะใช้ถุงแบบซิปล๊อค (หรือถุงพลาสติกอื่น ๆ ) พันรอบกิ่งไม้ในที่ๆมีแดดจัดคุณจะได้น้ำจืดมาใช้ดื่มได้แน่นอน แต่ปริมาณที่ได้ก็ขึ้นอยู่กับความช่มชื่นของพื้นที่และน้ำที่ต้นไม้เก็บไว้ด้วย
2. ทำให้ร่างกายอบอุ่นด้วยบับเบิ้ลกันกระแทก / หรือใบไม้

นี่อาจดูเหมือนเป็นเคล็ดลับที่ทำได้ยาก เพราะเราคงไม่พกเจ้าบับเบิ้ลกันกระแทกไปไหนต่อไหนด้วยแน่ๆ แต่เราขอแนะนำในครั้งหน้าการเอาบับเบิ้ลกันกระแทกไปด้วยเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเมื่อตั้งแคมป์ในสภาพที่อากาศหนาวเย็น เนื่องจากพลาสติกที่มีฟองอากาศเปรียบเหมือนสิ่งที่ช่วยป้องกันอาการเย็น ด้วยเหตุนี่บางบ้านอาจจะเคยใช้เพื่อป้องกันความหนาวจากทางหน้าต่างในช่วงฤดูหนาว อย่างไรก็ตามคุณสามารถใช้ใบแห้งแทนได้ เพราะจากการวิจัยแสดงให้เห็นว่าใบแอปเปิ้ลแห้งคือฉนวนกันความร้อนที่ดีมากมาก
3. การรวบรวมน้ำค้างยามเช้าด้วยกำไลข้อเท้าที่ทำจากหญ้า

เทคนิคนี้ใช้กันทั่วไปโดยคนอะบอริจินที่ต้องเดินทางไกลโดยไม่ต้องถือน้ำ พวกเขาเอาหญ้าแห้งมาปั้นเป็นก้อนหรือมัดมันรอบข้อเท้าขณะเดินก่อนพระอาทิตย์ขึ้นเพื่อให้เก็บน้ำค้างจากหญ้าที่พื้นดิน จากนั้นก็นำกำไลหญ้ามาคั้นน้ำเก็บไว้ดื่ม

4. การนอนบนที่นอนสูง สามารถหลีกเลี่ยงภาวะอุณหภูมิลดต่ำเกินไป
นอกจากการหาน้ำดื่มแล้ว การเดินป่าในความมืดเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ดังนั้นคุณจะต้องหาที่พักที่ดูปลอดภัย ถ้าหากคุณไม่สามารถหาถ้ำหรือที่อื่นๆได้ อย่างน้อยคุณต้องแน่ใจว่าคุณป้องกันร่างกายจากพื้นดินที่หนาวเย็นด้วยการนอนในที่สูงขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงอุณหภูมิในร่างกายลดลงในเวลากลางคืน

5. ใบต้นสนป้องกันยุง

แม้ว่าจะไม่มีวิธีการป้องกันยุงได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็มีวิธีธรรมชาติที่จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงแมลงที่อาจเป็นอันตรายได้อย่างพวกน้ำมันสนมีกลิ่นฉุนและสามารถไล่ยุงและเห็บบางชนิดได้ และ ตะไคร้หอมก็สามารถไล่แมลงได้เช่นกัน
6. แกล้งนอนนิ่ง ๆ เมื่อเผชิญหน้ากับสัตว์ใหญ่อย่างหมีกริซลี่
เมื่อคุณเจอหมีสิ่งที่ดีที่สุดที่ควรทำ คือค่อยๆเดินถอยห่างออกไปเพราะส่วนใหญ่แล้วหมีกลัวคุณมากกว่าที่คุณกลัวมัน ในทางกลับกันหากหลีกเลี่ยงไม่ได้การทำตัวนิ่ง ๆ จะไม่เป็นจุดสนใจมาก ดังนั้นโอกาสที่จะรอดได้ดีที่สุดคือการขดตัวเป็นลูกบอลและแกล้งนอนเหมือนไม่รู้สึกตัว

7. ในการข้ามแม่น้ำควรข้ามบริเวณที่น้ำไหล้ช้า

การข้ามแม่น้ำอาจฟังดูง่าย แต่คุณต้องทำอย่างระมัดระวัง สถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในการข้ามมักจะอยู่ในแนวตรงระหว่างฝั่งของแม่น้ำ ยิ่งกระแสน้ำไหลเร็วเท่าไรก็ยิ่งตื้นเท่านั้น คุณสามารถขว้างไม้ลงไปในน้ำเพื่อดูว่ากระแสน้ำไหลเร็วแค่ไหน แต่โปรดจำไว้ว่าการข้ามน้ำลึกขึ้นหน่อยแต่ไหลช้าดีกว่าการข้ามน้ำตื้นที่ไหลเร็ว นอกจากนี้ยังต้องระหว่างขณะข้ามให้หันหน้าไปทางเหนือเสมอ ตอนเดินอาจต้องเอนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย จากนั้นวางเท้ากว้างเท่าไหล่ และการงอเข่าเพื่อลดแรงโน้มถ่วงของคุณ และการมีจุดยึดหรือจุดจับจะสามารถรับประกันความปลอดภัยของคุณได้หากคุณข้ามคนเดียว

8.ใช้ขี้เถ้าล้างมือ

สิ่งที่เรากังวลน้อยสุดเมื่อหลงในถิ่นทุรกันดารทางคือสุขอนามัย แต่บางครั้งมันก็จำเป็นเหมือนกันเพื่อรักษาสุขภาพของตัวเอง ในการใช้มือจับอาหารทานหากไม่มีสบู่เราสามารถใช่ขี้เถาจากที่เราใช้เตรียมอาหารมาใช้ล่างมือแทนสบู่ได้

โบนัส: อาจมีความเชื่อผิดๆในการเอาชีวิตรอดเช่น การดื่มฉี่ หรือมอสจะเติบโตหันไปทางทิศเหนือเท่านั้น

การดื่มฉี่หรือการใช้มอสเป็นแนวบอกทิศทางคือความเชื่อที่ได้รับความนิยมมในภาพยนตร์ ปัสสาวะคือสิ่งที่ร่างกายกรองเกลือและแร่ธาตุส่วนเกินออกจากมา ดังนั้นการดื่มมันอีกครั้งอาจทำให้ไตของคุณต้องทำงานหนักขึ้น และทำให้คุณกระหายน้ำมากขึ้นเนื่องจากปริมาณโซเดียมที่มากขึ้น และเรื่องเล่าที่ว่ามอสเติบโตหันไปในทิศเหนือนั้นก็ไม่จริงเพราะมอสสามารถเติบโตทุกที่ที่ชื้นและไม่มีแดด ในบางแห่งในซีกโลกเหนือสิ่งนี้เกิดขึ้นได้ในทิศเหนือ แต่มันไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้นเสมอ เพราะในซีกโลกใต้มอสจะเติบโตไปทางทิศใต้

อย่างไรก็ตามเคล็ดลับแต่ละอย่างอาจแตกต่างกันไปตามสภาพภูมิอากาศ ดังนั้นหากคุณมีเคล็ดลับที่จะเป็นประโยชน์หรือความเชื่อผิดๆใดที่ไม่ควรทำตาม แบ่งปันสิ่งเหล่านั้นกับเราและผู้อ่านในเพจของเราสิ!

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน