4 ประโยคที่เมื่อพูดแล้วคนที่ได้ฟังอยากจะถอยห่าง

จากที่เราได้รวบรวมข้อมูลและอ่านจากแหลงข้อมูลต่างๆ ทำให้เราได้ทราบเรื่องหนึ่งว่าความประทับใจแรกสามารถเกิดขึ้นได้ภายในไม่กี่วินาที มันแทบจะเป็นภาพจำที่คงอยู่อย่างนั้นไปอีกนาน แต่ในบางครั้งยิ่งเราอยู่ใกล้ใกล้ใครก็ตามมากมากมีการติดต่อสื่อสารมากขึ้น ร่วมถึงการได้ทำงานด้วยกันมากเท่าไร ถึงแม้ว่าเราจะชอบคนคนนั้น หรือคนนั้นจะเป็นเพื่อนสนิทกับเรามากๆ ย่อมมีบ้างสิ่งมาทำให้เรารู้สึกต้องการที่จะลดการพบเจอลงไปบ้าง ร่วมถึงลดการติดต่อสื่อสารให้น้อยลง นั่นเป็นไปได้ว่าเพราะคำพูดบางคำ ใช่แล้วครับแค่คำพูดบางคำจริงๆ เพื่อนเพื่อนลองย้อนนึกกลับไปดูก็ได้ว่าเราเคยมีเพื่อนบางคนที่เคยสนิทมากมากและด้วยการพูดจา แค่บางคำกลับทำให้เรารู้สึกอยากจะอยู่ให้ห่างกับเค้าทั้งที่เค้าอาจจะไม่ตั้งใจหรือแม้แค่อาจจะไม่เคยคิดด้วยซ้ำไปว่าคำพูดเหล่านั้นมันอาจจะฟังดูไม่เข้าหูคนฟัง นั้นคือที่มาของเรื่องที่เรากำลังจะบอกเพื่อนเพื่อนในวันนี้นั้นเอง โดยพวกเราที่เพิลนเพลินได้ลองรวบรวมคำพูดหรือวลีต่างๆที่เมื่อพูดออกไปแล้วผู้ฟังจะรู้สึกแย่และเป็นจุดเริ่มต้นของความห่างเหินนั้นเอง ถ้าพร้อมแล้วก็ไปอ่านกันได้เลย

มาเริ่มต้นด้วยประโยคสุดฮิตที่เราได้ฟังมาบ่อย ๆ และก็ขึ้นทุกครั้งที่คนไม่สนิทมาพูด กับคำว่า “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะว่านะ แต่ …” ต้องขอบอกเลยว่าคำพูดสั้นๆ นี้มันช่างสร้างผลลัพท์ที่มากมายเหลือเกินเพราะอะไรนะเหรอ ก็เพราะเมื่อเราได้ฟังกลับยิ่งรู้สึกเหมือนโดนว่าอยู่นั้นเอง เราเลยขอยกตัวอย่างมาในบทสนทนาสั้นๆ ของคนที่ทำงานสองคนนี้

เก๋: สวัสดีแก้ม ฉันไม่ได้ตั้งใจจะว่านะ แต่เธอเพิ่งเข้ามาอยู่ใหม่ในบริษัท ฉันเลยอยากบอกให้เธอช่วยดูเรื่องการแต่งตัวของเธอหน่อยนะ กระโปรงเธอมันสั้นเกินไปเดินขึ้นลงบันไดมันจะทำให้คนอื่นมองได้นะ

แก้ม: ค่ะเก๋ ฉันสวมกระโปรงเหนือเข่าแค่ 2 นิ้วเองนะ จริงๆแล้วชุดนี้มันก็พอดีกับตัวเราเลยนะ แต่ก็ขอบคุณมากนะที่บอก

ฟังดูแล้วแก้มน่าจะรู้สึกตะหงิดใจเล็ก ๆ ว่ามันไม่สั้นหรอกนะและนี้มันก็พอดีแล้ว ดังนั้นหากคุณกำลังต้องการใช้ประโยคนี้เพื่อบอกหรือเตือนอะไรใครสักคน เราขอแนะนำให้ลองเปลี่ยนคำพูดไปเลยอย่างเช่น เริ่มต้นด้วยเหตุผลที่เราทราบและบอกเตือนคนคนนั้นไปตรงตรงถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ มาลองฟังประโยคที่ดีขึ้นกันดีกว่า

เก๋:แก้ม เธอเพิ่งเข้ามาใหม่คงยังไม่เคยต้องเดินขึ้นลงบันไดเพื่อไปติดต่องานตามส่วนงานต่างๆ ใช่ไหม

แก้ม:ใช่คะยังทำแค่ในส่วนแผนกเดียวกันยังไม่ต้องไปไหนเลย

เก๋ : ทางเดินมันอยู่ส่วนกลางแล้วบันไดมันชันนิดหน่อยเวลาเธอใส่กระโปรงต้องระวังเป็นพิเศษนะ ถ้าให้ดีวันไหนที่ต้องติดต่องานเยอะๆ ก็เลือกใส่กางเกงจะเซฟกว่านะ

แก้ม : ขอบคุณมากนะ

2. ประโยคที่สองคืออย่าพยายามพูดให้ดูเหนือกว่า “เราก็เคยมีนะแบบนั้นแต่….”

© Immortal Shots / pexels
เพื่อนเพื่อนน่าจะต้องเคยเจอเรื่องแบบนี้มาแล้วกันทุกคน นั้นคือเวลาที่เรามีอะไรใหม่ใหม่หรือได้ทำอะไรสักอย่างซึ่งคิดว่ามันช่างยอดเยี่ยมมากมากเลย แต่พอกลับไปเล่าให้เพื่อนอีกคนฟังปรากฏว่าเค้ากลับตอบกลับมาด้วยการบอกว่า เค้าหรือเธอก็มีสิ่งนั้นเหมือนกัน และมันก็ดีกว่าที่เรามีอีกด้วย ซึ่งนั้นก็ไม่ผิดหรอกนะแต่สิ่งที่เราพยายามจะบอกกับเพื่อนเพื่อนก็คือเมื่อเรากำลังมีความสุขแล้วมีใครสักคนมาบัฟ หรือมาบอกว่าเค้ามีมากกว่านั้นจะทำให้เรารู้สึกว่าสิ่งที่เรามีนั้นด้อยค่าลง ซึ่งก็คือเค้ากำลังถูกขัดขวางจากความสุขที่เค้ามีดังนั้นก็ไม่แปลกใจเลยที่จู่จู่เค้าจะไม่พอใจเมื่อมีใครมาบอกว่าของของเค้านั้นดีกว่าของเรานั้นเอง ดังนั้นสิ่งที่เพื่อนเพื่อนควรจะทำก็คือรับฟังและรวมแสดงความชื่นชม กับสิ่งที่เค้ากำลังพูดออกมาซะมากกว่า เช่น ถ้าเพื่อนมาบอกว่าไปช้อปมาได้ของถูกใจและถูกมากมาก แต่คุณก็เพิ่งได้มาในราคาที่ดีกว่า คุณก็ควรจะพูดกับเพื่อนแค่ว่าเพื่อนของเราช่างเก่งจริงๆ ที่สามารถหาสิ่งนี้มาได้ในงบเพียงเท่านี้ เป็นต้น เราเชื่อว่าผลลัพท์มันจะออกมาดีกว่าที่จะไปคุยว่าเราก็มีที่ดีกว่าอย่างแน่นอน

3. สำหรับคนที่เป็นที่รักของเพื่อนเพื่อนยอมไม่ต้องแปลกใจเลยที่มักจะมีคนโทรมาสอบถามว่า เพื่อนของเราอยากได้ของแบบนี้ หรือ จะให้ช่วยเลือกสีเลือกแบบ ของต่างๆ เป็นต้น ตรงกันข้ามกับบางคนที่แทบไม่มีเพื่อนคนไหนโทรไปถามเลยเพราะ เค้าคนนั้นชอบใช้ประโยคที่ว่า  “ฉันไม่เคยซื้อของแบบนี้” หรือ “ฉันไม่อยากได้มันหรอก”

© Quang Anh Ha Nguyen / Pexels
สิ่งที่เรากำลังจะบอกกับเพื่อนเพื่อนก็คือในความเป็นจริงแล้ว เวลาเราต้องการหรืออยากได้อะไรสักอย่างแล้วโทรไปถามเพื่อนหรือใครต่อใคร สิ่งที่เค้าต้องการก็แค่ กำลังสนับสนุน เล็กเล็กน้อยน้อย หรือ อาจจะเป็นข้อมูลของสินค้าชิ้นนั้นจากคุณเนื่องจากคุณก็น่าจะมีเหมือนกัน ดังนั้นอย่าตัดบทสนทนาด้วยการกล่าวคำพูดที่ว่า “ฉันไม่เคยซื้อของแบบนี้” หรือ “ฉันไม่อยากได้มันหรอก” เพราะผู้ฟังก็น่าจะคิดว่าเค้าก็ไม่ได้จะให้คุณหรอกนะ ฮ่าฮ่า เรามาเข้าเรื่องดีกว่านั้นคือเมื่อมีใครสักคนพยายามถามคุณเกี่ยวกับเสื้อผ้า อุปกรณ์ คุณก็แค่กล่าวตอบไปว่ามันดูเป็นอย่างไรมันดูน่าสนใจ โดยบอกเรื่องดีดีที่คุณเห็นได้จากของชิ้นนั้นไปจะดีกว่าเช่น มันสีสวยดีนะ มันวัยรุ่นดีนะ เพราะสุดท้ายแล้วเพื่อนของคุณก็ตัดสินใจเองอยู่ดีนั้นแหละ

4. เมื่อเวลาแห่งการตัดสินใจมาถึงเราต่างมีความกังวัล แต่การบอกปัญหามันไม่ได้ช่วยทำให้อะไรง่ายขึ้นคุณควรพูดถึง วิธีแก้ไขมันจะดีกว่า ตัวอย่างเช่น

เอก:ที่รักฟังเราหน่อยนะ เรากังวลมาก คุณน่าจะคิดดูใหม่เกี่ยวกับงานใหม่ที่เฮทฮันท์เสนอมา

เอก:คุณจะต้องเหนื่อยมากนะ งานมันหนัก

เอก:เราจะไม่สามารถเจอกันได้บ่อยๆเหมือนเดิม

เอก:เราเหงาอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณ

สาว:เราขอไปนอนก่อนนะ ไว้คุยกันทีหลัง

เราขอแนะนำให้คุณลองพูดถึงสิ่งที่คุณคิดและบอกมันออกมาเป็นคำถามพร้อมแนวทางแก้จะดีกว่า จากด้านทำแบบนี้แทนดีกว่านะ

เอก:ที่รักฟังจากที่คุณพูดถึงงานใหม่ที่เฮทฮันท์เสนอมา

เอก:การเริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆมันต้องมีเรื่องให้คิดมากแน่แน่ ผมจะค่อยรับฟังและเราจะมาช่วยแก้ไขมันนะ แล้วคุณมีแผนการสำรองเพื่อกรณีไม่คาดฝันอะไรหรือยังละ

สาว:เรายังไม่มีแผนสำรองเลยเราคงต้องทำรายการที่คิดว่าเป็นอุปสรรค์ไว้ก่อนแล้วค่อยมาแก้ไขมันจะดีไหมละ

เอก:ส่วนเรื่องเวลาที่เราจะเจอกันน้อยลง เราจะจัดตารางวันหยุดหรือวันที่ทานอาหารเย็นด้วยกันวันไหนกันดีละ

สาว:ตอนนี้เรายังไม่รู้วเวลาที่แน่นอนแต่เราน่าจะตกลงกันได้หลังจากเดือนแรกที่เราทำงานนะ

เอก:เราน่าจะเหงามากมากถ้าเวลาที่เราอยู่ด้วยกันมันน้อยลง เราขอโทรหาเธอบ่อยบ่อยหน่อยได้ไหม

สาว:เอาเป็นว่าโทรหากันก่อนเวลาเข้างานส่วนระหว่างวันถ้าติดงานอื่น เราอาจจะไม่ได้รับแล้วจะรีบโทรกลับนะ

การแสดงออกซึ่งความคิดเห็นที่เอาแต่พูดเรื่องแง่ลบนั้น ไม่มีใครต้องการฟังหรอกนะ ถึงแม้มันจะเป็นความหวังดีแค่ไหนก็ตามดังนั้น ถ้าอยากจะเตือนใครสักคนเราก็ใช้การเรียงปัญหาเหล่านั้นนั้นแหละเพียงแต่เพิ่มแนวทางแก้ไขหรือสิ่งที่จะช่วยตัดสินใจเข้าไปด้วยเพื่อให้เห็นว่าที่เราพูดเพราะเป็นห่วงและเรายังคิดมาแล้วว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไรเพื่อช่วยแก้ไข ซึ่งนั้นจะทำให้อีกฝ่ายตระหนักและคิดทบทวนเรื่องราวเหล่านั้นมากขึ้นเอง

เพื่อนเพื่อนเคยได้พบกันคนที่มาใช้วลีเหล่านี้กับตัวเองหรือไม่? และคุณตอบโต้พวกเขากลับไปอย่างไรบ้าง? ถ้ายังไงแล้วอาจจะมีวลีอื่นอื่นอีกที่เพื่อนเพื่อนเห็นว่าไม่ควรใช้แบบนั้นแบบนี้ เพื่อนเพื่อนก็สามารถช่วยแบ่งปันประสบการณ์กับทางเพจของเราโดยการพิมพ์ตอบเข้ามาได้เลยนะ

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน