ถ้าหากให้พูดถึงเรื่องราวระหว่างคนสองคนแล้วละก็คงไม่มีอะไรดีไปก่าการได้พูดถึงเรื่องความรู้สึกดีดีที่เรานั้นมีให้กับคนที่เรารักนั้นเอง แต่เมื่อเราอยู่กันไปนานมากพอบางครั้งก็เรื่องธรรมดาที่พวกเรานั้นอาจจะเริ่มคิดหรือมักจะสงสัยว่าความสัมพันธ์ของพวกเรานั้น “ควรจะเป็นอย่างไร” เพราะมันแน่นอนว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างหรืออาจจะหลายหลายอย่างที่ทำให้ตอนนี้ครอบครัวที่คุณกำลังเริ่มสร้างนั้นแตกต่างจากครอบครัวที่คุณคุ้นเคยและเติบโตมา แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นหลักที่จะทำให้ความรักของคุณลดลงได้เลยแล้วอะไรละที่จะเป็นตัวบอกว่าความรักและความรู้สึกดีดีที่เรามีให้แก่กันนั้นจะยังดีอยู่
วันนี้พวกเราที่เพลินเพลินจึงได้ลองไปหาบทความที่กล่าวถึงเรื่องสัญญาณของความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นตามแบบแผน และความคิดเห็นจากกลุ่มที่มีความชำนาญที่จะช่วยบอกเราหรือว่าอาจจะทำให้เราเริ่มเข้าใจว่าคู่รักจำนวนมากที่มีรูปแบบหรือการกระทำต่อกันที่ไม่เหมือนคู่ไหนไหนนั้น พวกเขายังคงมีความสุขมากแค่ไหน
อย่างแรกเลยคงต้องเริ่มที่การสื่อสารระหว่างกันถ้าคู่ของคุณไม่พูดคุยกันมากนั้นคือ
© Notting Hill / Universal Studio
พวกคุณสามารถอยู่ด้วยกันสองต่อสองในความเงียบเป็นเวลานาน และพวกคุณยังไม่รู้สึกอึดอัดโดยไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันตลอดเวลา จากการติดตามและเก็บรวบรวมข้อมูลก็ทำให้เราได้รู้ว่าคู่รักที่สามารถอยู่ด้วยกันอย่างเงียบ ๆ ทำอะไรของตัวเอง เป็นความสัมพันธ์ที่พิเศษมากเพราะนั้นหมายความว่าพวกเขาเข้าใจกันและยังมีเวลาอยู่ในความคิดของตัวเองและยังมีเรื่องที่ไม่ทำให้อีกฝ่ายลำบากอีกด้วย เคยมีคนกล่าวว่าคนที่ พูดน้อย ฟังเก่ง และเงียบเป็น (หมายถึงเงียบในจังหวะที่ความเงียบ) นั้นคือคนที่ใครๆก็อยากอยู่ด้วย ซึ่งเมื่อมาลองดูกันแล้วก็พบว่าถ้าเราได้อยู่กับคนแบบนี้ก็คงสบายใจดีอย่างแน่นอน
อย่างที่สองหากคู่ของคุณมีการวางแผนไปเที่ยวพักผ่อนคนเดียวหรือแยกกันไปบ้างนั้นคือ
สิ่งที่บอกกับเราว่าพวกคุณมีความไว้ใจกันและยังยอมรับในความเป็นส่วนตัวของกันและกันอีกด้วย ซึ่งเราพบว่าจำนวนคนที่ไปเที่ยวพักผ่อนโดยไม่มีคู่ของพวกเขากำลังเพิ่มขึ้นและตอนนี้มีอยู่ถึง 1 ใน 3 ของตัวอย่างที่เรามี และต้องบอกเลยว่าการยอมรับว่าพวกเขาได้ไปเที่ยวคนเดียว(หมายถึงไปโดยที่ไม่ได้มีคู่ไปด้วยแต่ยังอาจจะไปกับเพื่อนอยู่นะ) มันสามารถทำให้ความสัมพันธ์ของคุณแข็งแกร่งขึ้น เพราะถ้าคุณรักคู่ของคุณอย่างแท้จริงแล้วละก็คุณจะคิดถึงพวกเขาและนั้นเองคือสิ่งที่หลายคนรอค่อยที่จะกลับไปหา ในขณะเดียวกันคุณก็สามารถทำอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ ตัวอย่างเช่นคุณสามารถไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ในขณะที่คู่ของคุณกำลังปีนภูเขาอยู่ที่ไหนสักแห่ง เพราะการใช้เวลาว่างโดยไม่มีคู่ของคุณบางจะทำให้คุณได้ผ่อนคลาย คุณอาจจะใช้เวลาตอนเช้าในการเดินป่าบนภูเขาด้วยตัวเอง และพาตัวเองออกไปกินข้าวกลางวัน แล้ว พาตัวเองไปซื้อของให้ตัวเอง มันทำให้เราได้มีเวลาคิดทบทวน และใช้เวลาอันแสนหวานของตัวเองเพลิดเพลินไปกับวันนั้น ๆ ทุกอย่างในวันนั้นจะดูสบายสบายไม่เร่งรีบเพราะตารางต่างๆ ขึ้นอยู่กับคุณเอง มันเป็นช่วงเวลาหยุดพักโดยไม่มีอีกฝ่าย แม้ว่าจะห่างกันแค่วันเดียว แต่ก็เป็นเรื่องที่ดี
เรื่องที่สามคุณมีมุมมองและความสนใจที่แตกต่างกันได้
© The Hangover / Warner Bros
เพื่อนเพื่อนน่าจะเคยได้ยินมาบางแล้วว่าคนที่เป็นแฟนกันนั้นมักจะมีอะไรที่เหมือนๆ กันอย่างเช่นงานอดิเรก แต่วันนี้เราจะมาบอกว่ามันก็ไม่จำเป็นเสมอไป เพราะอันที่จริงแล้วการที่เรามีงานอดิเรกหรือสิ่งที่ชอบแตกต่างกันบ้างก็เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน แต่การที่เราสามารถไปทำสิ่งที่เราไม่ได้ไปสนใจกับคู่ของเราบางในบางครั้งด้วยความเต็มใจต่างหากคือสิ่งที่ทำให้ทั้งคู่ยิ่งสนิทกันมากขึ้นเพราะแน่นอนว่าเมื่อคุณชวนคู่ของคุณมาทำงานอดิเรกที่คุณชอบคุณจะสามารถสอนและบอกสิ่งที่คุณรู้ และนั้นเองที่สร้างความรู้สึกดีดีในตัวเองอีกทั้งการได้ลองทำในสิ่งที่เราไม่ถนัดก็ยังสร้างความรู้สึกใหม่ๆให้เราได้อีกด้วย
เรื่องที่สี่คุณทะเลาะกันบ่อยแต่ก็จบลงด้วยดีทุกครั้ง
© Il Bisbetico domato / Capital Film
ฟังดูแล้วก็อาจจะขัดขัดสักหน่อยที่บอกว่าคู่ไหนที่เป็นแบบนี้มันจะอยู่กันยาวได้อย่างไร แต่เราได้เรียนรู้ว่ามาในเรื่องราวที่บางครั้งเมื่อคุณโกรธกันนั้น คุณก็มีสิ่งที่คุณคิดไม่เหมือนกัน และการได้พูดมันออกมาและอีกฝ่ายได้รับรู้ยอมรับและปรับตัวต้องบอกไว้ก่อนนะว่ามันต้องมีเรื่องที่ต้องปรับตัวกันทั้งสองฝ่ายด้วยนะ เพราะเราได้ทำแบบนี้ต่างหากคู่ที่มีการทำแบบนี้บ่อยถึงได้ยังรักกันอยู่และมากขึ้นด้วยซ้ำเพราะต่างๆฝ่ายต่างยอมรับกันมากขึ้นด้วย เราพบกว่าหลายหลายคู่ตั้งข้อตกลงง่าย ๆ อย่างเช่นหากมีอะไรก็ตามทุกอย่างจะต้องพูดคุยกันภายในวันนั้นอย่าพาเอาความรู้สึกไม่ดีข้ามวันไป หรือ เรายังเห็นว่าบางคู่ยอมรับคำวิจารณ์จากคู่ของตัวเองอย่างจริงจังโดยไม่พยายามตอบกลับคุณในทันที หากการสนทนาเป็นเรื่องจริง คุณ 2 คนมีโอกาสที่จะไปได้ไกลกว่าเดิมแน่นอนแถมเรายังได้ปรับเปลี่ยนในสิ่งที่เราเป็นให้ดีขึ้นอีกด้วยนะ
เรื่องที่ห้าการได้นอนแยกกัน
ใช่แล้วนี้มันอาจจะฟังดูงงหน่อยจากที่หลายหลายคนเคยคิดว่า เราต้องอยู่ด้วยกันในยามค่ำคืนทุกคืนแต่เราก็ได้พบว่าบางคนมีลักษณะเฉพาะตัวในการนอนเช่นนอนดิ้น หรือ ชอบลุกไปห้องน้ำ หรือ อาจจะเป็นสิ่งอื่น ๆ อีกซึ่งนั้นทำให้อีกฝ่ายต้องตื่นขึ้นมาในตอนกลางคืน ดังนั้นการมีห้องนอน หรือเตียงนอนแยกกันกลับทำให้ทั้งคู่มีวันที่ดีมากกว่าเพราะว่าการนอนหลับที่ดีนั้นมีประโยชน์ต่อความสัมพันธ์มากกว่า นั้นคือคุณทั้งคู่ได้พักผ่อนจากวันที่อ่อนล้าและเรื่องต่าง ๆ ที่ผ่านมาทั้งวันนั้นเอง บางคู่ถึงขนาดบอกว่าการนอนหลับฝันดีโดยที่คนอื่นไม่บ่นเรื่องการนอนดิ้นหรือการกอดผ้าห่มสามารถสร้างความมหัศจรรย์ให้กับจิตใจของคน ๆ หนึ่งได้ มันทำให้พวกเราหัวเราะมากขึ้นและรู้สึกผ่อนคลายเมื่อเรากล่าวราตรีสวัสดิ์อย่างเงียบ ๆ และออกไปที่ห้องแยกของเรา
เรื่องที่หกหากคุณไม่มีเด็กๆอยู่ในครอบครัว
© Stepmom / Columbia Pictures
ต้องบอกก่อนเลยว่าความสุขของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกันบางคนต้องการเอาใจใส่หรือได้ดูแลอะไรสักอย่าง อย่างเช่นเด็กแต่บางคนก็ต้องการเวลาเพื่อไปทำในสิ่งที่ตัวเองชอบและอยากทำ ดังนั้นเราจะพบว่าเริ่มมีความครัวที่อยู่ด้วยกันแค่สองคนสามีภรรยามากขึ้น และสิ่งที่พวกเค้าต้องการก็คือเวลาที่จะได้ทำในสิ่งต่างๆ อย่างเช่นการทำสวน ออกไปท่องเที่ยว หรือ อ่านหนังสือสักเล่มเท่านั้นเอง ซึ่งมันก็เป็นความสุขที่แต่ละคนเลือกดังนั้นการมีกันแค่สองคนก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะรักกันน้อยลงตรงข้ามกลับจะยิ่งมากขึ้นด้วยซ้ำไป
เรื่องที่เจ็ดเวลาในการปรับตัวนั้นไม่เร็วเสมอไป
พวกเราพบว่าการที่เราหรือคู่ของใครก็ตามที่อยู่กันมานานมากแล้วแต่ก็ยังคงแสดงความขัดเคืองกันให้ได้เห็น นั้นไม่ได้หมายความว่าความรู้สึกที่พวกเค้ามีให้แก่กันนั้นลดลงตรงกันข้ามมันอาจจะค่อยๆ พัฒนาให้มากขึ้นก็ได้โดยสิ่งที่เราจะบอกก็คือเวลาที่เราใช้ในการเรียนรู้และปรับตัวเพื่อให้เข้ากับใครหรืออะไรสักอย่างของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากันนั้นจึงเป็นเหตุผลทีเรายังเห็นหลายหลายคู่ที่อยู่กันมากนานแล้วยังคงมีอะไรให้โต้คารมกันอยู่แต่ขอให้เพื่อนเพื่อนรับรู้ว่านั้นอาจเป็นช่วงที่พวกเขากำลังปรับตัวให้เข้าหากันอยู่นั้นเอง
เรื่องที่แปดคุณแสดงความรู้สึกของคุณในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร
© All About Steve / Fox 2000 picture
ในเมื่อพวกเราเองก็ยังมีความคิดที่ไม่เหมือนกันได่้แล้วทำไมการแสดงออกซึ่งความรู้สึกดีดีของเราจะต้องเหมือนกันด้วยละ เพราะบางคนอาจจะชอบแสดงออกด้วยกการพูดหรือบางคนอาจจะเป็นการแสดงออกด้วยความเอาใจใส่ แต่กับบางคนอาจจะใช้การสื่อสารด้วยภาษากายอย่างเห็นการกอดเพราะเราต่างมีรูปแบบที่เราคิดและแสดงออกเป็นของตัวเองดังนั้นขอให้คุณพยายามอย่าให้การกระทำของคนอื่น ๆ มาเปรียบกับสิ่งที่คู่ของคุณทำให้มันจะดีกว่านะ
แล้วเพื่อนเพื่อนละการแสดงออกหรือรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันแบบไหนที่เพื่อนเพื่อนกำลังสร้างสรรค์อยู่แล้วคู่หรือแฟนของคุณเข้าใจสิ่งเหล่านั้นบ้างหรือเปล่าหรือมีเรื่องอะไรที่ทำแล้วยิ่งทำให้พวกคุณเข้าใจกันมากขึ้นก็ช่วยบอกมาในเพจของเราเพื่อที่เพื่อนเพื่อนคนอื่นๆ จะได้นำไปใช้บ้างไงละ
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน
