ทุกวันนี้เป็นไปได้ยาก ที่จะหาบ้านที่ไม่มีโซฟา ตู้เสื้อผ้า หรือเตียงนอน แต่บรรพบุรุษของเรามีวิธีที่แตกต่างกันไปบ้างกับที่เราทำในขณะนี้
เราตัดสินใจหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของบรรพบุรุษของเรา คำเตือน: หลังจากอ่านบทความนี้มันอาจเปลี่ยนความคิดของคุณทำให้คุณสามารถเข้าห้องน้ำสาธารณะโดยไม่หงุดหงิด
คนรวยเท่านั้นที่มีโซฟา
© The Magnificent Century / Tims & B
เป็นที่เชื่อกันว่าชาวโรมันเป็นชาติแรกที่เริ่มใช้โซฟาในยุโรป ซึ่งพวกเขาสามารถผ่อนคลายหลังอาหารและพูดคุยกับแขกของพวกเขา และมีเฉพาะคนรวยเท่านั้นที่มีโซฟาได้ ในตอนนั้น ผู้หญิง เด็ก และทาสต้องนั่งบนม้านั่งหิน
สิ่งที่บรรพบุรุษของเราเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าแตกต่างจากสิ่งที่เราเก็บไว้ในตอนนี้
© Werner Forman Archive / East News
สันนิษฐานว่าชาวตะวันออกกลางคิดค้นตู้แบบที่มีฝาปิด 2 ข้าง ก่อนที่จะมีการประดิษฐ์ที่คิดค้นขึ้นโดยชาวกรีกและโรมันโบราณ หลังจากนั้นชาวโรมันได้ประดิษฐ์ตู้ปลาในเวลาต่อมา มันเป็นโพรงในผนังที่ปิดด้วยประตู พวกเขาไม่ใช้เก็บอาหารหรือเสื้อผ้า แต่เป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรวมถึงรูปปั้นของเทพเจ้า ตุ๊กตาของผู้หญิงที่แต่งงาน หรือผมจากชายหนุ่มที่ทำพิธีเข้าสู่ความเป็นลูกผู้ชาย
เชื่อว่าส้อมเป็นสิ่งประดิษฐ์ของปีศาจ
© unknown author / wikipedia © Nethyr / wikipedia
ส้อมเป็นของใช้ส่วนตัวในจักรวรรดิไบแซนเทียมในศตวรรษที่ 11 ในตอนแรกมันมี 2 ขา และใช้เพื่อเก็บเศษอาหารเท่านั้น เพราะเชื่อกันว่าเป็นของของปีศาจดังนั้นจึงเป็นสิ่งต้องห้าม
ตัวอย่างเช่น เจ้าหญิงไบแซนไทน์มาเรียอาร์กีโรปูลีนาถูกประณามโดยนักบวชชาวเวนิสเพราะเธอใช้ส้อมในระหว่างมื้ออาหาร ในความเห็นของพวกเขาเธอนั้นควรจะใช้นิ้วมือของเธอซึ่งเป็น“ ส้อมจากธรรมชาติ” ที่พระเจ้ามอบให้ อย่างไรก็ตามไม่นานพอส้อมก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของชนชั้นสูงในขณะที่คนจนยังคงกินด้วยมือ
มีเพียงราชวงศ์เท่านั้นที่สามารถถือร่มได้และ มันไม่ได้ถูกใช้เพื่อกันฝน
© Colin Campbell Cooper / wikipedia
ร่มถูกคิดค้นในประเทศจีนและอียิปต์ในคริสตศักราชศตวรรษที่ 11 เพื่อปกป้องผู้คนจากแสงแดด ในทั้งสองประเทศถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมราชวงศ์เท่านั้นที่สามารถมีร่มได้ น้ำหนักของร่มอยู่ที่ประมาณ เกือบสองกิโลกรัมและมีความยาวถึง 5 ฟุต
การนอนห้องเดียวกันถือเป็นเรื่องธรรมดา
© Matilda / Rock Films
ในศตวรรษที่ 15 เตียงกลายเป็นส่วนสำคัญของบ้านของผู้คน แต่มันก็ไม่ได้ใช้แบบเดียวกับที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน
เจ้าของบ้านและแขกนอนด้วยกันบนเตียงเดียวกันได้ พื้นที่ตรงกลางถูกสงวนไว้สำหรับผู้หญิงและสามีของเธอ เตียงเดี่ยวไม่ค่อยเป็นที่นิยมเพราะมันยากที่จะทำความร้อนให้กับทุกห้อง ดังนั้นการนอนด้วยกันมันจะทำให้อบอุ่น
กระดุมต่างๆ ถูกใช้เป็นของตกแต่ง
© Maxim Shanin / wikipedia
ในสมัยโบราณหมุด กระดุมต่างๆถือเป็นของตกแต่งเสื้อผ้าและทำหน้าที่เหมือนเป็นเชือกผูกรองเท้า เสื้อผ้าชุดแรกที่มีรูกระดุมปรากฏขึ้น 2000 ปีก่อนคริสตศักราช และกระดุมที่ว่านั้นทำจากหิน
ช้อนที่มีด้ามยาวเกิดขึ้นจากปกคอเสื้อขนาดใหญ่
© Frans Porbus / wikipedia © Donald Trung / wikipedia
ในศตวรรษที่ 17 เสื้อคอปกขนาดใหญ่กลายเป็นแฟชั่นในยุโรป แต่คนที่ใส่มันพบปัญหาว่าพวกเขาไม่สามารถใช้ช้อนขนาดปกติเข้าปากได้ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้มีการสร้างช้อนแบบยาวเหมือนกับที่เราใช้กินไอศกรีมในปัจจุบัน
นาฬิกาข้อมือถูกเรียกว่า “สร้อยข้อมือนาฬิกา” มีไว้สำหรับผู้หญิง
© depositphotos
ในปี 1571 Queen Elizabeth ได้รับนาฬิกาข้อมือเป็นของขวัญ ตั้งแต่นั้นมาจนถึงศตวรรษที่ 20 นาฬิกาข้อมือเหล่านี้ถูกเรียกว่า “สร้อยข้อมือนาฬิกา” และมีไว้สำหรับผู้หญิงเท่านั้น นาฬิกาข้อมือสำหรับผู้ชายกลายเป็นแฟชั่นในปี 1900 ในตอนแรกใช้สำหรับข้าราชการที่รักษาดินแดนเพราะการใช้นาฬิกาพกมันไม่สะดวกในระหว่างการฝึกซ้อม
ระเบียงเกิดขึ้นจากข้าราชการที่รักษาดินแดน
© Album / ASF / East News © depositphotos
ในศตวรรษที่ 11 มีการใช้ระเบียงเป็นที่กำบัและช่วยให้มีมีทัศนวิสัยที่ดีกว่าในเวลาเดียวกันส่วนล่างของร่างกายจะถูกซ่อนเป็นอย่างดีอยู่หลังกำแพง
มีเชือกอยู่ใกล้ชักโครกในห้องน้ำสาธารณะ แต่มันไม่ได้ใช้สำหรับการปล่อยน้ำเพื่อชำระล้างสิ่งสกปรก
© Wojtek Laski / East News
ภาพที่เห็นคือห้องน้ำสาธารณะในยุคปัจจุบันที่จะมีสายชักโครกเพื่อให้ผู้ใช้ดึงเมื่อทำธุระเสร็จ และเป็นการประหยัดพื้นที่ในการสร้างห้องน้ำ แต่คุณจะรู้หรือไม่ว่าแต่ก่อนห้องน้ำสาธารณะแห่งแรก นั้นเป็นห้องที่มีพื้นที่เปิดโล่งโดยไม่มีฉากกั้นใด ๆ ความมืดจะช่วยให้ผู้เข้าใช้มองไม่เห็นกัน เพราะพวกเขาสามารถใช้ห้องน้ำสาธารณะได้หลาย ๆ คนในเวลาเดียวกัน โดยจะมีเชือกอยู่ใกล้ๆ กับนั่งปลดทุกข์แต่ละที่นั่ง แต่มันไม่ได้สำหรับการชำระล้างเหมือนปัจจุบัน คนจะคว้าเชือกไว้เพื่อเป็นการบอกว่าตำแหน่งนี้มีคนใช้แล้ว เพื่อไม่ให้พวกเขาพยายามนั่งในที่เดียวกัน และการถือเชือกนี้ทำให้พวกเขาดันตัวขึ้นจากท่านั่งด้วย มิฉะนั้นคนแก่ที่ลุกเองไม่ไหว พวกเขาจะต้องขอความช่วยเหลืออยู่บ่อยๆ
คุณรู้หรือไม่ว่าของเก่าอื่น ๆ ที่เราใช้ในอดีตแตกต่างจากวันนี้อย่างไร? แบ่งปันความรู้ของคุณในเพจของเรา
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน
