รายละเอียดในเครื่องแต่งกายที่ไม่ง่ายเลยเมื่ออยู่ในภาพยนตร์

ความใส่ใจในการทำงานคือหนึ่งในสิ่งที่ทุกคนอยากได้และยิ่งเป็นหัวหน้างานทั้งหลายยิ่งอยากได้ เพราะผลงานที่ได้จากการใส่ใจยิ่งเล็กๆน้อยๆในงานนั้นมันทำให้ผลงานเหล่านั้นที่ส่งไปถึงผู้รับแล้วยิ่งได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างยิ่งด้วยและสำหรับงานบางงานแล้วถึงแม้ว่ามันอาจจะเป็นสิ่งที่ไม่มีคนสังเกตุเห็นหรืออาจจะเห็นแค่ไม่นานแต่ก็ยังคงใส่ใจในรายละเอียดอย่างมากถึงขนาดที่ว่าเราคาดไม่ถึงเลยนั้นก็คือผลงานของเหล่าผู้สร้างภาพยนตร์นั้นเองอย่างที่เราบอกว่าบางอย่างในภาพยนต์นั้นมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมากมากถึงขนาดที่เรียกได้ว่าแค่พริบตาเดียวเท่านั้น แต่ในช่วงเวลาแค่นั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในฉากที่เราเห็นนั้นกลับเต็มไปด้วยความใส่ใจ และเราพบว่ามีภาพยนต์อีกมากมายที่เหล่าผู้สร้างนั้นลงแรงและลงใจอย่างมาก เพื่อให้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์หลายหลายอย่างถูกถ่ายทอดออกมาให้เราได้เห็นถึงแม้ว่ามันจะต้องสังเกตุหรือต้องตั้งใจดูจึงจะเห็นสิ่งเหล่านั้นก็ตาม แต่สิ่งนี้เองที่เป็นเรื่องท้าทายความสามารถของผู้สร้างเพราะมันถูกคาดหวังเล็กๆจากบางคนถึงความถูกต้องตามประวัติศาสตร์ ซึ่งนอกจากเรื่องราวที่ต้องถูกต้องแล้วสถานที่หรือแม้แต่เครื่องแต่งกาย ที่เป็นชุดของตัวละครก็ไม่มีความผิดพลาดแม้แต่เล็กน้อย นั้นทำให้ผู้ชมอย่างเราจะไม่สามารถรู้สึกถึงบรรยากาศของเวลานั้นอย่างเต็มที่

พวกเราเพลินเพลินได้ลองเอารายละเอียดต่าง ๆ ในภาพยนต์ต่างๆ ซึ่งต้องขอบอกว่ามันช่างเป็นผลงานที่แสดงถึงความใส่ใจในสิ่งที่เค้าต้องการส่งมอบให้กับผู้ชมอย่างเราเพราะมันช่างสุดยอดอย่างมากเลย

เราคงต้องขอเริ่มจาก Alexandra Byrne นักออกแบบเครื่องแต่งกายที่ได้รับรางวัลออสการ์มาแล้วกับผลงานที่ต้องเรียกว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เก็บรายละเอียดต่าง ๆ ได้อย่างดียิ่งกับภาพยนต์เรื่อง Emma (version 2020)
© Emma
เนื่องจากเป็นเรื่องเรื่องที่ได้รับความนิยมอย่างมากซึ่งผ่านการสร้างสรรค์ในแบบบทภาพยนต์และซีรีย์มาแล้วหลายครั้ง ดังนั้นการที่จะทำให้ Emma ใน version นี้โดดเด่นยอมต้องใส่ใจดูแลทุกรายละเอียดของมากนั้นเอง ถึงขนาดที่ว่า นักออกแบบเครื่องแต่งกายที่มีรางวัลเป็นประกันยังต้องใช้เวลาอยู่นานในการศึกษาจดหมายเหตุ รวมไปถึงบันทึกต่างๆเกี่ยวกับลวดลายวินเทจ และเนื้อผ้าของยุคเรอเนซองส์อย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อทำความเข้าใจว่าสีสัน เนื้อผ้า และรายการรูปแบบของเสื้อในชุดแบบไหนบ้างที่ได้รับความนิยมให้ช่วงปี 1800

ซึ่งหากเราเคยได้ชมภาพยนต์ที่กล่าวขึ้นความเป็นอยู่หรือเรื่องราวในช่วงปี 1800 นั้นหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าผู้คนชอบสวมเสื้อผ้าที่ดูมืดมนและไม่สดใส แต่อันที่จริงแล้วแฟชั่นนิสต้าผู้มั่งคั่งในสมัยนั้นพวกเขาชอบผ้าที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสีสันที่สดใส นั่นเป็นเหตุผลที่ Alexandra Byrne ตัดสินใจที่จะเลือกใช้ในสิ่งที่แตกต่างจากอีกหลายหลายคนที่ผ่านมา โดยเธอเลือกที่จะใส่สีสันความสดใสใหม่ๆในชุดของเธอตั้งแต่สีชมพูอ่อนไปจนถึงสีเหลืองดูสว่างสักหน่อย

© Emma

Alexandra กล่าวกับเราว่าเธอนั้นได้รับแรงบันดาลใจในการทำงานชุดนี้จากนิทรรศการของพิพิธภัณฑ์ ตัวอย่างเช่น สเปนเซอร์สีชมพูอ่อนที่เอ็มม่าสวมอยู่นั้นเป็นส่วนหนึ่งของลุคที่แฟชั่นนิสต้าในยุครีเจนซี่ชอบ ในยุค 1790 ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะเอารูปแบบที่ได้รับความนิยมในขณะนั้นกลับมาปรับแต่งให้ผู้คนในยุดนี้มองเห็นแล้วรู้สึกถึงบรรยากาศของอดีตแต่ก็ยังถูกใจกับเสื้อผ้าของตัวละครไปพร้อมๆกัน

© Emma
ในช่วงกลางวัน สาวๆ จะสวมมันทับุชุดเดรสเพื่อปกปิดบริเวณคอและส่วนสำคัญอื่นๆ หลายครั้งที่เอ็มม่าและตัวละครหญิงคนอื่นๆ สวมชุดลำลองที่ได้รับความนิยมในขณะนั้น ซึ่งเป็นเสื้อเบลาส์บางๆ ที่มีจีบที่คอ
ชุดที่โปร่งสบายนี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของรายละเอียดของเครื่องแต่งกาย

เมื่อพูดถึงเรื่องราวภายในงานสังคมแห่งหนึ่งที่อยู่ในภาพยนตร์ เอ็มม่านางเอกของเราต้องเปล่งประกายในชุดเดรสผ้าไหมสีสดใสจากช่วงทศวรรษ 1810 ซึ่งทีมนักออกแบบพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเลียนแบบเครื่องประดับที่สลับซับซ้อนซึ่งประดับลวดลายที่ประกอบกันทั้งส่วนล่างและส่วนบนของเสื้อผ้าและผลงานที่ตั้งใจเหล่านี้ก็ทำให้ Emma 2020เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ถูกกล่าวถึงทั้งในแง่ความสนุกสนานของการตีความบทละครใหม่อีกทั้งองค์ประกอบของเสื้อผ้าที่ทำให้รู้สึกได้ถึงวันเวลาในอดีตที่ดูทันสมัยนั้นเอง

ถ้าจะกล่าวถึงเรื่องของเครื่องแต่งกายแล้วละก็คงต้องหยิบยกเอาภาพยนต์เรื่อง Little Women (2019)
© Little Women
เพราะในปี 2020 ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลออสการ์สาขา “เครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม”  โดยผลงานเสื้อผ้าในเรื่องนี้ก็คือหนึ่งในผลงานชิ้นเยี่ยมของ Jacqueline Durran ที่ต้องยอมรับว่ามีความสอดคล้องและใกล้เคียงกับข้อมูลทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมากถึงแม้ว่าในบางช่วงบางตอนของภาพยนต์ตัวละครหลักของเราจะมีบางอย่างบนชุดของเธอที่อาจจจะดูไม่เข้ากับยุคนั้นก็ตาม ตัวอย่างเช่น ในตอนแรก ผ้าพันคอสีเขียวสดใสของ Meg อาจดูไม่เหมาะสมเพราะเด็กผู้หญิงธรรมดาทั่วไปคงไม่สามารถมีเสื้อผ้าราคาแพงที่มีสีสันสวยงามแบบนั้นได้ ซึ่งในความเป็นจริง ในช่วงทศวรรษ 1850 พวกเขาเริ่มผลิตสีย้อมผ้าแบบสังเคราะห์ในระดับอุตสาหกรรมแล้ว และยังมีสีต่างๆ เช่น รอยัลบลู ม่วงสดใส และเขียว เหมือนกับที่เม็กใส่ ก็มีให้สำหรับคนทั่วไปเช่นกัน

หนึ่งในตำนานของหนังที่แสดงถึงเรื่องราวและสะท้อนความคิดของคนในช่วงปี 1912 คงไม่มีใครลืมได้อย่างแน่นอนเมื่อเราพูดถึงไททานิคที่เป็นผลงานสุดแสนจะยิ่งใหญ่ที่มีการพูดถึงตั้งแต่ก่อนจะเข้าฉายในปี 1997 และทำรายได้มากมายอย่างที่ใครหลายคนไม่คาดคิด
© Titanic / Paramount Pictures
ย้อนกลับไปวันนั้นเมื่อ Deborah Lynn Scott ตกลงรับหน้าที่สำคัญในการเป็นหัวเรือใหญ่ของการเป็นนักออกแบบเครื่องแต่งกายสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ มีการกล่าวถึงส่วนสำคัญอื่นๆ อย่างเช่นความสมจริงของเรือหรือสถานที่แต่ที่ไม่อาจมองข้ามไปได้นั้นก็คือกลื่นไอและบรรยากาศของปี 1912 ซึ่งผู้กำกับขอให้เธอถ่ายทอดยุคสมัยให้ถูกต้องและละเอียดที่สุดเท่าที่ทำได้ เนื่องจากโครงเรื่องหลักของภาพยนต์เรื่องนี้นั้นอิงจากเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียง ดังนั้นผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายศึกษาต้องใช้ช่วงเวลาอยู่นานในการอ่านหนังสือมากมายเกี่ยวกับวิถีชีวิต มารยาทและสิ่งแวดล้อมเพื่อทำความเข้าใจว่าการจะปรากฏตัวในที่สาธารณะของบุคคลแต่ละกลุ่มนั้นจะแตกต่างกันด้วยชุดเสื้อผ้าที่แต่ละคนเลือกสวมใสในแบบไหนได้บ้าง ดังนั้นเมื่อเราเห็นโรสในการปรากฏตัวครั้งแรกของเรื่องบนหน้าจอนั้น เธอจึงปรากฏตัวในชุดคอสตูมลายทางหลังอาหารกลางวัน ซึ่งเกือบจะเหมือนกับเสื้อผ้าที่คัดลอกมาจากนิตยสารแฟชั่นฝรั่งเศสประจำปี 1912 ชุดประเภทนี้จึงเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้หญิงในช่วงครึ่งหลังของวันของเธอ

© Titanic
ถึงแม้ว่าบางอย่างอาจจะไม่มีอยู่ในบันทึกแบบชัดเจนแต่การตีความถึงเหตุและผลต่าง ๆ ที่เป็นพฤติกรรมของผู้คนในยุคนั้นก็ถูกเปลี่ยนให้มาเป็นส่วนประกอบต่าง ๆในบทภาพยนต์ อย่างเช่นเรื่องของชุดชั้นในของตัวละครนั้นเอง เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าผู้หญิงในช่วงนั้นสนใจในรูปร่างที่ดูเป็นทรวดทรงองค์เอว โดยจะต้องมีรูปร่างที่ชัดเจนในที่นั่นเป็นเหตุผลที่ตัวละครของ Kate Winslet ต้องสวมชุดรัดตัวและเป็นโครงไว้ภายในอยู่ตลอด

นี้เป็นผลงานเล็กๆน้อยๆเท่านั้นที่เราได้นำเรื่องราวเบื้องหลังมาให้เพื่อนเพื่อนได้ทราบกันซึ่งอันที่จริงแล้วนอกจากที่เราบอกไปนั้นยังมีเรื่องราวอื่นๆอีกอย่างเช่นการทำอย่างไรให้ชุดของตัวเอกนั้นโดดเด่นและเป็นที่จดทำถึงแม้ว่าพวกเค้าจะอยู่ทามกลางเหล่านักแสดงคนอื่นๆก็ตาม
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน