ถ้าจะบอกว่าสิ่งที่ดูจะไม่ค่อยสะอาดที่สุดในบ้านของเรานั้นก็คือ ผ้าเช็ดเท้าละก็หลายหลายคนก็คงจะเห็นด้วยและเข้าใจได้ว่าการที่เราเช็ดเท้าที่เปียกกับผ้าโดยที่ไม่ได้ซักทำความสะอาดทุกวันนั้น ทำให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกนั้นก็เป็นความเข้าใจที่ถูกต้องแล้ว แต่เพื่อนเพื่อนเคยคิดบ้างไหมละว่าเจ้าผ้าเช็ดตัวที่เราใช้หลังจากอาบน้ำอยู่ทุกวันนั้นมันก็อาจจะไม่ได้สะอาดอย่างที่เราเข้าใจก็เป็นได้นะ

นั้นก็เพราะพวกเราต่างก็ใช้ผ้าเช็ดตัวในการเช็ดทำความสะอาดหลังจากที่ทำการอาบน้ำเรียบร้อยแล้วโดยที่เราเองก็ไม่ได้ทำการซักทำความสะอาดผ้าเช็ดตัวในทันทีนั้นเอง แล้วแบบนี้มันจะเป็นยังไงบ้างนะวันนี้พวกเราเพลินเพิลนก็เลยลองเอาเรื่องราวเหล่านี้ไปต่อยอดออกมาอีกสักหน่อยเพื่อทำให้เพื่อนเพื่อนได้รู้ว่าอันที่จริงแล้วเราควรจะจัดการยังไงกับผ้าเช็ดหน้าหรือผ้าเช็ดตัวที่เราใช้งานอยู่เป็นประจำนั้นเองและมีอะไรบ้างที่จะทำให้การอาบน้ำของเราทำให้เราดูดีขึ้นไปอีกได้ ลองไปชมกันเลยดีกว่า

การเก็บผ้าเช็ดตัวหลังการใช้งานที่ถูกต้อง
ทั้งทั้งที่รู้ดีอยู่แล้วว่าหลังจากที่เราเช็ดตัวด้วยผ้าเช็ดตัวแล้วหยดน้ำและความชื้นบนร่างกายเราจะไปรวมกันอยู่ที่ผ้าเช็ดตัวแต่พวกเราหลายหลายคนก็ยังนำผ้าเช็ดตัวที่ใช้เสร็จแล้ว แขวนไว้ในห้องน้ำหรืออาจจะแขวนไว้ในห้องส่วนตัวของเราโดยไม่ได้นำออกไปพึ่งแดดให้แห้ง ซึ่งนั้นและที่ทำให้เกิดการสะสมสิ่งสกปรกที่เราไม่คาดคิดนั้นเองและยิ่งหลายวันเข้ามันก็ยิ่งเพิ่มจำนวนมาขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นสิ่งที่เราอยากจะแนะนำก็คือควรซักทำความสะอาดผ้าเช็ดตัวบ่อยๆ อย่างน้อยทุกหนึ่งหรือสองสัปดาห์ เพื่อจัดการกับคราบสกปรกสะสม และตากผ้าเช็ดตัวในสถานที่ที่ลมพัดผ่านได้สะดวกทุกครั้งเพื่อทำให้ไม่เกิดกลิ่นอับชื่นนั้นเอง

การแยกผ้าเช็ดตัวและผ้าเช็ดหน้าออกจากกันทำให้เราดูดีขึ้นได้นะ
เหตุผลที่เราบอกแบบนี้นั้นก็เพราะว่าหากเพื่อนเพื่อนลองสังเกตุดูก็จะพบว่า ราคาของผ้าดีดีนุ่มนุ่มสักผืนหนึ่งนั้นมันสูงพอสมควรและยิ่งมีขนาดใหญ่มากเท่าไหร่มันก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น และนั้นทำให้พวกเราหลายหลายคนเลือกผ้าเช็ดตัวโดยที่ไม่ได้สนใจเรื่องของคุณภาพของเส้นใยผ้านั้นเอง ซึ่งแน่นอนว่าเส้นใยที่แข็งเกินไปก็จะทำให้ผิวหน้าของคุณดูมีริ้วรอยได้ง่ายมากกว่าผ้าที่มีเส้นใยดีดีนั้นเอง ดังนั้นมันจึงง่ายขึ้นเมื่อคุณแยกผ้าเช็ดตัว กับผ้าเช็ดหน้าเพราะจะทำให้คุณสามารถเลือกใช้ผ้าที่มีเส้นใยนุ่มๆเหมาะกับผิวหน้าของคุณได้ด้วยราคาไม่แรงมากยังไงละ

การเช็ดตัวหรือเช็ดหน้าให้แห้งสนิทเกินไปมันก็ไม่ดีเสมอไปหรอกนะ
ที่เราบอกแบบนี้นั้นก็เพราะว่าอันที่จริงแล้วตัวเราก็ยังต้องการความชุ่มชื่นจากน้ำอยู่นั้นเอง ซึ่งแน่นอนว่าปกติเราก็มีครีมหรือสิ่งช่วยดูแลได้กันอยู่แล้ว แต่เพื่อนเพื่อนรู้บ้างไหมว่าหากผิวของเราแห้งเกินไปมันก็ซึมซับสิ่งเหล่านั้นเข้าไปยากขึ้น และในทางตรงข้ามในช่วงเวลาที่ผิวชุ่มชื่นหลังอาบน้ำใหม่นั้นยิ่งช่วยทำให้เราสามารถซึมซับครีมที่เราใช้ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วยนี้แหละเราจึงควรเช็ดตัวและเช็ดหน้าให้พอหมาดๆก็พอในช่วงเวลากลางคืน เพื่อที่ตอนที่เราใช้ครีมต่าง ๆ มันก็ได้ทำงานได้เต็มที่ โดยควรปล่อยเวลาสักพักให้ตัวเราค่อยๆแห้งไปเองด้วยนะ ไม่ใช่ว่านอนเลยเพราะมันจะกลายเป็นว่าคุณอาจจะไม่สบายได้ถ้านอนทั้งที่ตัวเปียกอยู่นั้นเอง

อย่างที่เราบอกไปแล้วว่าควรจะเลือกใช้ผ้าเช็ดหน้าที่แยกับผ้าเช็ดตัวและที่ดีแล้วผ้าเช็ดหน้าก็ควรจะทำให้เราใช้ได้สะดวกด้วย
นั้นก็คือเจ้าผ้าเช็ดหน้านั้นควรจะสามารถซึมซับน้ำได้ดีและมีเส้นใยที่นุ่มอีกด้วยเพื่อที่ว่าเราจะได้ใช้ซับหน้าให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะหากคุณซับหน้าบ่อยๆมันก็อาจจะเกิดการเสียดสีบนหน้าของเรามากขึ้นทำให้เกิดร่องรอยต่าง ๆ ขึ้นได้ยังไงละ

ยิ่งเช็ดตัวให้แห้งสุดๆแต่กลายเป็นว่ายิ่งทำให้เราสกปรกเร็วขึ้น
ยิ่งพวกเราเช็ดตัวให้แห้งสุดๆเลยแทนที่ตัวเราจะสะอาดนานขึ้นมันกลับตรงข้ามเพราะการที่ตัวเราแห้งมากกว่าปกติจะทำให้เกิดการสร้างน้ำมันมากขึ้นเพื่อชดเชยสิ่งที่ขาดหายไปอย่างรวดเร็วและนั้นเองที่ยิ่งทำให้เราหน้ามันหรือตัวมันเร็วขึ้นและทำให้ฝุ่นละอองเกาะสะสมที่ตัวเราง่ายขึ้นนั้นเองดังนั้นเราควรเช็ดตัวหมาดๆก็พอแล้วใช้ครีมหลังอาบน้ำทุกครั้งก็จะทำให้เราสะอาดได้นานขึ้นนั้นเอง
แค่เคล็ดลับง่ายๆเหล่านี้ก็ทำให้การอาบน้ำกลายเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เราดูสดใสขึ้นได้แบบง่ายๆแล้วนะ ถ้าเพื่อนๆชอบก็บอกเราให้ทราบด้วยละหรือมีอะไรที่น่าสนใจก็ส่งมาให้เราชมกันได้อีกนะ เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน