เพื่อนเพื่อนเคยได้ยินคำกล่าวที่บอกว่าหากเรามาหัดว่ายน้ำเอาตอนที่ตกน้ำก็คงจะสายไปแล้วบ้างไหม ซึ่งคำกล่าวเหล่านี้ฟังไปมันก็อาจจะดูธรรมดาแต่ถ้าหากเพื่อนเพื่อนลองได้ผ่านเรื่องราวที่เราไม่ได้เตรียมตัวรับมือกันมาแล้ว ก็จะเข้าใจความเป็นจริงที่ประโยคนี้อยากจะบอกให้เราทำอะไรบ้างอย่างในช่วงที่เรายัวทำได้อยู่นั้นเองอันที่จริงแล้วมันก็เป็นสิ่งที่ค่อยบอกเราและคนอื่น ๆ ให้รู้จักเตรียมพร้อมเอาไว้เพื่อค่อยรับมือกับสถานการณ์ต่างต่างที่อาจจะเกิดขึ้นกับเราได้นั้นแหละเพียงแต่ว่าน้อยคนนักที่จะรู้จักคิดถึงสิ่งที่จะมาในวันข้างหน้า และเตรียมตัวรับมือกับสิ่งเหล่านั้นดังนั้นวันนี้พวกเราเพลินเพลินก็เลยลองจำลองเหตุการณ์ต่าง ๆ ออกมาให้เพื่อนเพื่อนได้เห็นและเราจะบอกถึงสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อให้เหตุการณ์เหล่านี้ผ่านไปได้ด้วยดี
พวกเรามาลองคิดกันเล่นๆว่าหากเราต้องไปอยู่ในสถานการณ์แปลกแปลกเหล่านี้แล้วเราจะต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อให้สามารถผ่านมันไปได้เพื่อเป็นการฝึกเล็กเล็กน้อยเผื่อเอาไว้ก็แล้วกันนะ
ลองคิดภาพตอนที่รถของคุณกำลังค้างอยู่บนขอบของพื้นเนินซึ่งอาจจะหล่นลงไปได้
คงเป็นจังหวะที่เหมาะเกินไปที่เราจะไปหยุดรถบนที่แบบนั้นได้แต่ก็มีหลายครั้งที่เราเห็นเรื่องราวแบบนี้อย่างเช่นบังเอิญขับไปถึงปลายของถนนที่กำลังสร้างอยู่หรือขับไปค้างที่ปากหลุดทาง ซึ่งเมื่อเวลาแบบนี้มาถึงเรามีขั้นตอนง่ายๆแค่ ง อย่างให้คุณได้ลองรับทราบไว้
สิ่งแรกเลยคือทำให้รถหยุดเคลื่อนตัวไปข้างหน้านั้นคิดคุณจะต้องพยายามเอาเท้าออกจากคันเร่งให้ได้ และพยายามรักษาความสมดุลย์โดยถ้าสามารถเอนไปข้างหลังได้ก็ให้ค่อย ๆ ทำเพื่อให้น้ำหนักที่ด้านหลังนั้นยังกดให้รถถ่อยกลับไปหรือค้างได้นานที่สุด
เมื่อทุกอย่างหยุดนิ่งแล้วโทรศัพท์เพื่อให้คนอื่น ๆ มาช่วยให้ลองลดกระจกลงที่ละน้อยอย่างช้าๆ เพื่อไม่ให้มีการเคลื่อนไหวหรือการขยับที่ไปทำให้รถเอนได้ที่เปิดกระจกเพื่อว่าคุณจำเป็นต้องออกมาทางนั้นแทนถือเป็นการเพิ่มทางออกนิดหน่อย และถ้าคุณสามารถปรับเบาะลงเพื่อส่งแรงไปที่ด้านหลังได้ก็จะมากมากเพราะนั้นหมายความว่าคุณสามารถถ่วงแรงได้มากขึ้นแล้วจึงค่อย ๆ เปิดประตูหลังถ้าสามารถทำได้
เมื่อคุณตกลงไปในบ่อน้ำแข็ง
ซึ่งถ้าเป็นที่บ้านเราก็คงหายากสักหน่อยแต่ก็ลองอ่านเผื่อว่าคุณอาจจะได้ใช้ตอนไปที่อื่นเนอะ อย่างแรกเลยคือคุณต้องพยายามให้ร่างการของคุณอยู่พ้นน้ำให้มากที่สุดลองคิดภาพเวลาที่คุณไปสระว่ายในสิตอนที่เราอยู่ในสระน้ำจะรู้สึกได้เลยว่าหายใจเข้าได้ไม่เต็มที่เพราะแรงดันของน้ำนั้นเอง และอีกอย่างก็คือน้ำเย็นไม่ส่งผลดีต่อคุณแน่นอน อย่างที่สองถ้าคุณสามารถยึดจับพื้นหรือขอบได้แล้วละก็ต้องประคองตัวให้ลอยขึ้นไปบริเวณผิวน้ำไว้ มันเป็นเรื่องของแรงกดเพราะถ้าเป็นแนวดิ่งเจ้าขอบที่คุณเกาะนั้นอาจจะล่วงลงไปได้เพราะรับแรงกดไม่ไหวนั้นเอง จากนั้นถ้าเป็นไปได้ก็ถอดสิ่งของที่มีน้ำหนักมากมากออกไปแล้วพยายมว่ายและดันตัวขึ้นไปให้ได้
หลังจากขึ้นไปได้แล้วถ้าพื้นที่แข็งแรงก็พักแล้วค่อยๆ กลิ้งตัวไปบนพื้นเพราะการยืนหรือเดินอาจจะทำให้แผ่นน้ำแข็งแตกได้นั้นเองเหนือสิ่งอื่นใดก่อนที่คุณจะกลิ้งไปทางไหนก็ลองดูให้แน่ชัดก่อนว่ามันเป็นทางที่ไปหาฝั่งหรือพื้นดินที่อยู่ใกล้
เพื่อนเพื่อนอาจจะเคยเจอหมาที่ดูไม่ค่อยเป็นมิตรกันมาบ้างแล้ว และตอนนี้ก็มีวิธีที่จะทำให้เราผ่านมันไปได้ดังนี้
อย่างแรกคือห้ามหันหลังให้มันแล้ววิ่งเพราะนั้นจะทำให้มันวิ่งตามมาทันที และสิ่งที่คุณต้องทำก็แค่ก้มหน้าลงเล็กน้อยอย่าไปมองสบตามันแล้วค่อยเดินผ่านไป อย่าเข้าไปใกล้มากละและต้องพยายามมองมันไว้เพื่อมันวิ่งเข้ามาด้วย
ถ้ามันค่อยๆ เข้ามาใกล้คุณสามารถยกมือกางออกให้ดูเหมือนว่าเราตัวใหญ่กว่า และโบกไปมาช้า หรือทำเสียงปรบมือไปด้วยจะช่วยให้มันงงและอาจจะเดินถอยไป หากมันยังเดินเข้าใกล้อีกคงต้องหาของที่มีน้ำหนักลองปาใส่ แล้วเราก็ค่อยๆ เดินถอยหลังให้ห่างออกไป
เมื่อคุณเดินหลงป่า หรืออาจะหลงที่ไหนก็ยังสามารถลองใช้ได้
สิ่งแรกเมื่อคุณหลงทางให้ใช้เทคนิคที่เรียกว่า S-T-O-P ซึ่งย่อมาจาก “หยุด คิด สังเกต และวางแผน” นั้นเอง เพราะการหยุดอยู่กับที่จะทำให้คุณเริ่มมีเวลาทำหลาย ๆ อย่าง สิ่งแรกที่ต้องทำคือทบทวนว่าคุณเดินมาจากทางไหนและผ่านอะไรมาบ้าง ถ้าเป็นไปได้ลองจดลำดับเหตุการณ์ไว้เพื่อจะได้จำได้ง่ายขึ้น หากไม่มั่นใจว่าเดินกลับไปได้ถูกทางให้ทำสัญญาลักษณ์ระหว่างทางเดินโดยทำเป็นแนวที่บอกว่าคุณเดินมาจากทางไหนและกำลังจะไปทางไหนไปด้วยและทำให้บ่อยเท่าที่ทำได้เพราะระยะห่างเพียงนิดเดียวก็ทำให้พลาดได้
เพื่อว่าคุณอาจจะต้องค้างก็สามารถลองสร้างที่พักเล็กๆด้วยการหากิ่งไม้ที่ยาวและค่อนข้างตรงแล้วเอนปลายกิ่งไปกับต้นไม้ ตอนนี้วางกิ่งที่สั้นกว่าตามความยาวของกิ่งยาวที่มุม 45 ° คลุมทุกอย่างด้วยใบไม้ขนาดใหญ่
ทำอย่างไรเมื่อตกลงไปแม่น้ำ
อย่างแรกคือพยายามอย่าเคลื่อนไหวเพราะยิ่งทำให้อากาศและแรงของเราหมดไป (ถ้าเป็นไปได้เพื่อนเพื่อนควรไปฝึกลอยตัวไว้ก็ดีนะเพราะมันช่วยได้มากจริง ๆ ) ต่อมาถ้าคุณไม่สามารถลอยตัวได้ให้ถอดชุดออกเพราะกางเกงและเสื้อที่เปียกน้ำจะทำให้เคลื่อนไหวไม่สะดวก การกลั้นลมไว้จะทำให้ตัวคุณลอยขึ้นได้ และหากว่าคุณว่ายน้ำได้ละก็ให้เริ่มว่ายช้า ๆ ถ้าน้ำแรงมากให้ว่ายตามกระแสน้ำทำมุมเฉียงเพื่อเข้าหาฝั่ง ถ้าเป็นน้ำนิ่งก็ว่ายตรงๆเข้าไปได้เลย และการว่ายลอยตัวแบบท่ากรรเชียงจะทำให้ใช้แรงน้อยลงไปอีกด้วยนะ
สุดท้ายแล้วเพื่อนเพื่อนก็อย่าได้ไปเจอกับเรื่องราวหรือสถานการณ์เหล่านี้เลยจะดีกว่าเนอะแต่ถ้ามีเพื่อนเพื่อนของเราคุนไหนที่เคยผ่านเรื่องทำนองนี้มาแล้วและอยากแบ่งปันเรื่องราวก็ส่งเรื่องเข้ามาที่เพจของเราได้เลยนะ
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน
