10 เทคนิคของภัตตาคารและร้านกาแฟที่ใช้กับลูกค้า

สำหรับหลาย ๆ คนที่อาจจะมีคำถามในใจเหมือนกับเราว่า “ทำไมผู้คนถึงต้องมาร้านอาหารหรือร้านกาแฟ” ทั้ง ๆ ที่สามารถทำทานเองได้ที่บ้าน สำหรับบางคนการกินอาหารนั่นเป็นเหตุผลอย่างสุดท้ายด้วยซ้ำ โดยส่วนมากผู้คนมักจะไปที่นั่นก็เพื่อสร้างช่วงเวลาหรือสร้างอารมณ์หรือบรรยากาศดีดี ทั้งนี้เจ้าของร้านอาหารต่างรู้กันดีถึงความจริงข้อนี้ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลว่าร้านอาหารต่างๆถึงต้องมีเทคนิคต่าง ๆ ระดับมืออาชีพ แบบใหม่ๆ เพื่อนใช้สำหรับเรียกลูกค้า

พวกเราค้นพบความลับที่เจ้าของร้านอาหารและคนที่เคยทำงานในร้านอาหารที่มีประสบการณ์ใช้กับลูกค้าของพวกเขา
– ร้านอาหารส่วนใหญ่ที่จะมีการเตรียมส่วนผสมไว้ล่วงหน้า เช่น แป้งพาสต้าและพิซซ่าสำหรับร้านอาหารอิตาเลียนมักจะซื้อแบบสำเร็จรูปจากผู้ขายล่วงหน้าแทนที่จะทำแป้งเอง และน้ำซุปสำหรับซุปก็มักจะต้มล่วงหน้าและเก็บไว้ในภาชนะ และแช่เย็นแบบพิเศษ เพื่อที่ว่าเมื่อถึงเวลาที่ลูกค้ามาสั่งอาหารจะได้ประหยัดเวลาในการจัดเตรียมอาหาร หากเป็นขนมเค้กหรือ ขนมหวานก็จะเป็นการ สั่งผลิตจากร้านอื่นบางส่วน และ เลือกทำเองเฉพาะส่วนที่จะได้กำไรมากมากหรือ ที่ขายดีเป็นพิเศษเพื่อที่ว่าจะได้สามารถทำกำไร และ ดูแลเรื่องการผลิตได้ง่าย

© flickr
– ขนม หมากฝรั่ง และสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ อื่น ๆ ที่นำมาให้คุณพร้อมกับใบเรียกเก็บเงินไม่ใช่ของฟรีจากคาเฟ่ นั่นเป็นวิธีที่ภัตตาคารพยายามทำให้คุณรู้สึกว่าได้รับบริการพิเศษ เมื่อลูกค้าได้รับมันจะรู้สึกต้องว่าควรจะชดเชยบางอย่างสำหรับของสิ่งนี้และมีแนวโน้มที่จะให้ทิปที่มากขึ้นนั้นเอง
– คนกินน้อยลงในร้านอาหารที่ตกแต่งด้วยกระจก นี่คือความจริงที่ว่าเมื่อคนเราเห็นตัวเองในกระจก คุณจะมัวแต่สำรวจตัวเองทำให้ทานอาหารได้ช้าลง และ อิ่มเร็วขึ้นดังนั้น ร้านอาหารส่วนใหญ่จึงเน้นห้องกว้าง ๆ แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้กระจกในการตกแต่งก็จะพยายามหันโต๊ะไปด้านข้างเพื่อไม่ให้ลูกค้ามองเห็นกระจก ตรง ๆ
– ร้านอาหารหลายแห่งใช้กลิ่นเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกหิวมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ร้านเบเกอรี่ติดตั้งเตาอบพิเศษที่มีการระบายอากาศน้อยที่สุดเพื่อให้มีกลิ่นหอมของขนมอบสดใหม่ลอยออกนอกร้านเพื่อให้ผู้คนที่ยืนอยู่นอกร้านเบเกอรี่ได้กลิ่น

© shutterstock
– บริกรเช็ดโต๊ะและจะนำจานที่ใช้แล้วออกไปเรื่อยๆ นั่นไม่ใช่เพราะพวกเขาเป็นคนขยัน แต่ในความเป็นจริงก็คือจานเลอะเทอะจะเตือนลูกค้าว่าพวกเขาได้กินแล้ว และพวกเขาจะหยุดสั่งอย่างอื่น
– คุณได้ช่วยร้านอาหารอย่างมาก หากคุณเลือกนั่งโต๊ะที่อยู่มุมห้อง เพราะคนมีแนวโน้มที่จะสั่งมากขึ้นเมื่อไม่มีใครเห็นคุณ อีกทั้งลูกค้ามักเลือกสั่งอาหารที่มีแคลอรี่สูงมากขึ้นและสิ่งนี้ส่งผลต่อยอดขายของหวานในทางบวก
– ผู้ประกอบการพยายามให้ลูกค้านั่งใกล้กับทางเข้าหรือด้านหน้า เพื่อสร้างบรรยากาศของความสุขและทำให้ร้านดูมีคนทานอาหารเต็มร้าน และเพื่อที่จะดึงดูดใจและสร้างความประทับใจให้กับผู้คนที่ผ่านไปมาให้มากที่สุด

© Wiese / face to face / FaceToFace / REPORTER
– เมื่อเสิร์ฟอาหารบนจานเล็ก ๆ ภาพลวงตาที่เรียกว่า Delboeuf เริ่มทำงาน แม้ว่าสัดส่วนจะค่อนข้างน้อย แต่ลูกค้าจะรู้สึกอิ่ม บ่อยครั้งที่ร้านอาหารใช้วิธีตรงกันข้ามโดยใส่อาหารบนจานขนาดใหญ่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขากินนิดเดียวและพวกเขาจะสั่งขนม หรืออาหารเพิ่ม
– หากคุณขอให้ร้านอาหารลดระดับเสียงเพลงของร้าน พวกเขาจะทำตามคำขอของคุณ1ใน 10 เท่านั้น แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาแกล้งบอกคุณว่าพวกเขาทำสิ่งที่คุณขอแล้วทำให้คุณจะรู้สึกว่าเพลงเบาลง

© filckr
– ชื่อเมนูอาหารมีผลต่อลูกค้าแต่ละภาษา แตกต่างกัน อย่างเช่นร้านอาหารฝรั่งชอบใช้คำว่า“delicious”(อร่อย) ในเมนูของพวกเขาซึ่งการออกเสียงนั้นสอดคล้องกับเสียงของการเคี้ยวอาหารและเลียนแบบการเคลื่อนไหวของปากเมื่อรับประทานอาหาร เมนูนั้นจะถูกเลือกโดยลูกค้าบ่อยขึ้น

-ในร้านอาหารแต่ละร้านมักจะมีเมนูมาตรฐาน หรือ เมนูยอดนิยมของอาหารแต่ละร้าน ตัวอย่างร้านอาหารอิตาลี หากคุณสั่งพาสต้าคาโบนาร่า หรือ สปาเก็ตตี้ เป็นอย่างแรกพนักงานเสิร์ฟจะเดาได้ทันทีว่าคุณไม่ใช่ แขกประจำที่มากินที่ร้านอาหารบ่อยๆ และจะรู้ว่าคุณอาจไม่เคยลองเมนูพิเศษของร้าย ดังนั้นพนักงานเสริฟ จะสามารถแนะนำอาหาร ใหม่ ๆ ของร้านอาหารในลองได้อีก
– แม้แต่จานอาหารที่เรียบง่ายที่สุดก็ถูกตกแต่งอย่างเต็มที่เพื่อช่วยในการสร้างความหลากหลาย และสมองของมนุษย์ตอบสนองกับสีสันของอาหารและสีสดใสทำให้รู้สึกถึงผลไม้สุก จนเราตื่นเต้นและกินมากขึ้น

คุณเคยติดใจเพราะหนึ่งในเทคนิคเหล่านี้หรือไม่? แบ่งปันประสบการณ์ของคุณกับเราสิ!

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน