เรื่องที่เราแทบจะไม่รู้และทางโรงแรมไม่เคยบอกเรา

รูปแบบการพักของโรงแรมส่วนใหญ่นั้นคือ การพักแบบเหมาจ่าย คือการเงินทั้งหมดต่อวัน เพื่อให้เราสามารถใช้สิ่งอำนวยความสะดวกทีอยู่ในโรงแรมและเป็นส่วนกลางต่าง ๆ ได้ฟรี เช่นสระว่ายน้ำ WIFI อาหารเช้า เป็นต้น ซึ่งรายละเอียดการใช้งานต่าง ๆ ก็เป็นที่รู้รู้กันอยู่แล้วหมู่นักท่องเที่ยว แต่มีความลับมากมายที่คุณควรจะรู้เกี่ยวกับโรงแรมเหล่านี้ ซึ่งมันอาจจะเป็นสิ่งที่เราคิดไม่ถึงเลย มันไม่ใช่แค่พวกเขาจัดอาหารเต็มโต๊ะ มีชายหาดที่สวยงามและมีความสะดวกสบาย รวมทั้งสถานที่น่าสนใจสำหรับเด็กและผู้ใหญ่

พวกเราต้องการการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ดังนั้นเราจะบอกคุณเกี่ยวกับบางสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับโรงแรมที่จะช่วยให้คุณเลือกโรงแรมได้อย่างเหมาะสมสำหรับวันหยุดพักผ่อนของคุณ

1. โรงแรมสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนการเตรียมอาหารได้ จากการแกะสลักผักและผลไม้ ซึ่งมันมีผลต่อความอยากอาหาร

© pexels
โต๊ะอาหารมักจะตกแต่งด้วยผักผลไม้แกะสลัก เช่น แตงโม ฟักทอง และแตงกวา การแกะสลักผักผลไม้เหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นศิลปะแต่ยังเป็นทำให้ลูกค้าทานน้อยลง ตามข้อมูลที่ได้จากพ่อครัวที่ทำงานในโรงแรม อาหารที่สวยงามเหล่านี้ตั้งอยู่ที่จุดเริ่มต้นเพื่อดึงดูดความสนใจ และด้วยวิธีนี้ทำให้ลูกค้ามีความรู้สึกอยากทานอาหารน้อยกว่าปกติ เพราะสิ่งสวยงามจะกระตุ้นสมองให้มีความสุขและนั้นเองทำให้เราทานอะไรเพียงเล็กน้อยก็รู้สึกอิ่มแล้ว

2. บุฟเฟ่ต์มีอิทธิพลต่อราคา

© pxhere
เราแนะนำให้แบ่งโรงแรมที่จะเลือกเข้าพักเป็น 3 กลุ่ม: ระดับมาตรฐาน, ระดับปานกลาง และระดับสูง มันดูเหมือนกับว่าการจัดกลุ่มแบบนี้ไม่ค่อยจำเป็นมากนักเพราะมีการให้ดาวเพื่อแบ่งระดับโรงแรมอยู่แล้ว แต่อันที่จริง เมื่อเราแบ่งกลุ่มแต่ละกลุ่ม โดยมีข้อกำหนดที่ สิ่งที่เราจะใช้งานจริง ๆ ภายในโรงแรมนั้นๆ แล้ว เราจะตัดสินใจเลือกได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ การจัดกลุ่มตามสิ่งที่ให้บริการเมื่อเทียบกับราคาที่ต้องจ่ายแล้ว มันจะทำให้เราเลือกโรงแรมที่ตรงใจ และ เสียค่าใช้จ่ายได้น้อยกว่า ตัวอย่างเช่น บางโรงแรมมีโอกาสขึ้นราคา โดยใช้แค่โปรโมชั่นฟรีบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าที่ได้รับการชื่นชมจากนักวิจารณ์ แต่บริการอื่น ๆ อาจจะอยู่ในระดับกลาง ๆ ดังนั้นเราอาจจะเลือกโรงแรมที่มีอาหารที่เหมาะกับเราแทนแต่ได้ราคาถูกลงในการเข้าพัก เป็นต้น

3. โรงแรมหลายแห่งให้ความสำคัญกับบริการอาหารฟรีที่สามารถเสริฟถึงห้อง

© wcanifly
เราจะพบว่าที่โต๊ะอาหารในโรงแรมบางแห่งมักจะถูกเติ่มเต็มไปด้วยสลัดผักและผลไม้ต่าง ๆ นอกจากนี้เรายังสามารถสั่งผลไม้สดส่งถึงห้องของคุณ แต่สิ่งที่คุณต้องดูเพื่อเปรียบเทียบ ก็คือความสดใหม่ของผักสด และ ผลไม้ เหล่านี้เมื่อเทียบกับราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มสำหรับความสะดวกสบายนี้ ลองคิดดูสิว่าคุณจะทานส้มได้สักกี่ผล แล้วเทียบกับราคาที่คุณสามารถไปหาซื้อผลไม้เหล่านั้นได้เองในระแวกนั้น

4. อาหารทะเลอาจมาจากอาหารกระป๋อง

© flickr
คนที่ชอบอาหารทะเลควรรับรู้ “เคล็ดลับ” นี้ไว้เลย เชฟในโรงแรมต้องรีบทำอาหารเพื่อตอบสนองความหิวของลูกค้า ดังนั้นอาหารบางชนิดที่ต้องใช้เวลาในการจัดเตรียม อาจใช้อาหารกระป๋อง เพื่อเป็นวัตถุดิบในการทำอาหารก็ได้ ตัวอย่างเช่น กุ้ง หรือ ปลาหมึก ที่ต้องล้างและแกะเปลือก หรือดูแลเรื่องความคาว ของตัวอาหารเอง ดังนั้น การใช้อาหารกระป๋อง หรือ วัตถุดิบที่ผ่านการทำและแช่แข็งมาแล้วจะทำให้ สามารถทำอาหารได้รวดเร็วขึ้น และยังสะดวกในการบริหารต้นทุนและการจัดเก็บวัตถุดิบอีกด้วย

6. พวกเขาอาจไม่พูดถึงการปรับปรุงก่อสร้างภายในโรงแรม

© flickr
โรงแรมมักจะไม่แจ้งให้แขกของพวกเขาทราบว่าพวกเขากำลังทำการปรับปรุงส่วนอาคารใดๆ ดังนั้นเมื่อมาถึงแขกผู้เข้าพักก็อาจประหลาดใจกับสิ่งที่ไม่คาดคิด เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ดังกล่าว คุณควรโทรถามโรงแรมล่วงหน้าว่ามีการปรับปรุงซ่อมแซมหรือไม่ เพื่อที่จะได้ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกและสามารถ เดินทั่วโรงแรมเพื่อกินบรรยากาศได้เต็มที่

7. ส่วนลดจากความผันผวนของธรรมชาติ

© wcanifly
บ่อยครั้งที่โรงแรมมีข้อเสนอที่ดีมากในช่วงฤดูที่มีปัญหาทางสภาพอากาศ เช่นสำหรับประเทศที่มีปัญหาทางสภาพอากาศมากมายอย่างเช่นอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย อย่าไรก็ตามในทุกประเทศเหล่านี้มีศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวเกี่ยวกับอันตรายที่จะเกิดขึ้นซึ่งจะสามารถให้ข้อมูลคุณได้

8. การเดินทางบนรถบัสรับส่งอาจใช้เวลามากกว่าที่คิด

© travelcomparator
หากโรงแรมที่คุณเลือกมีบริการรถรับส่งฟรีไปกลับจากสนามบิน คุณควรสอบถามรายละเอียดให้แน่ชัดเพราะบางครั้งรถบัสจะพานักท่องเที่ยวไปยังโรงแรมต่างๆ ที่อยู่ระหว่างทาง ดังนั้นการเดินทางที่คาดว่าจะใช้เวลา 30 นาทีอาจใช้เวลาหลายชั่วโมงได้ เพราะผู้โดยสารบางคนอาจมาถึงช้ากว่าที่กำหนด

9. สถานที่น่าสนใจสำหรับเด็กมักมีราคาแพงมาก
บ่อยครั้งที่โฆษณาของโรงแรมแสดงโปรแกรมประเภทต่างๆ สำหรับเด็กและนำเสนอบริการพี่เลี้ยงเด็ก แต่พวกเขาไม่ค่อยเตือนผู้ปกครองว่าบริการเหล่านี้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และต้องเสียเงินราคาแพงเพื่อทำให้เด็กมีกิจกรรมตลอดทั้งวัน บางครั้งอาจมีการให้บริการฟรีสำหรับบางสิ่งบางอย่างเช่นการไปสวนน้ำ แต่สิ่งอื่นๆ เช่นอาหาร หรือชุด อาจจะคิดราคาพิเศษทั้งหมด

10. ค่าทิปไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของความสุภาพ

© flickr
ประเพณีที่ได้รับความนิยมในการให้ทิปแก่พนักงานไม่ว่าจะเป็นพนักงานยกกระเป๋าหรือบาร์เทนเดอร์ มันไม่ใช่แค่เป็นประเพณีที่ดีเท่านั้น เพราะที่จริงแล้วพนักงานได้เงินเดือนไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นเงินทิปนั้น สามารถสร้างความรู้สึกดีให้กับพวกเขาได้

11. ความบันเทิงทางน้ำอาจมีราคาแพง

© pxhere
บางโรงแรมสร้างโซเชียลมีเดียที่เต็มไปด้วยภาพถ่ายของนักท่องเที่ยวที่มีความสุขที่ได้ล่องเรือ เล่นสกีน้ำ และเล่นเสิร์ฟบอร์ด ความบันเทิงประเภทต่างๆ ซึ่งมักเขียนว่าฟรี แต่ในความเป็นจริงแล้วกิจกรรมสนุกๆ เหล่านี้มีราคาแพงมากโดยเฉพาะถ้าคุณต้องการโค้ชเพื่อนำทางคุณ โดยเฉลี่ย 1 ชั่วโมงอาจเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 1500 ถึง 6000 บาท

12. ห้ามว่ายน้ำ
หลังจากที่คุณเพลิดเพลินกับภาพถ่ายชายหาดที่น่าตื่นตาตื่นใจบนเว็บไซต์ของโรงแรมที่คุณชอบแล้ว ควรตรวจสอบล่วงหน้าว่าผู้เข้าพักได้รับอนุญาตให้ลงเล่นน้ำได้หรือไม่ เพราะทะเลบางแห่งอาจไม่ปลอดภัยที่จะว่ายน้ำ นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำในรีสอร์ททุกๆ ปี และหากชายหาดมีสภาพน้ำที่ดีก็จะได้เครื่องหมายธงสีน้ำเงิน และถ้ามีธงดำแสดงว่าน้ำไม่มีคุณภาพ ซึ่งอย่างหลังมักจะเป็นชายหาดที่นักท่องเที่ยวทิ้งขยะจำนวนมาก และไม่ว่าจะด้วยวิธีใดคุณควรทราบสถานการณ์ของชายหาดที่คุณกำลังจะไป

13. การพักผ่อนบนชายหาดอาจมีราคาแพงมาก

© pxhere

โรงแรมแบบรวมค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะเรียกเก็บเงินเพิ่มเติมสำหรับการเช่าเตียงผ้าใบ ร่มและสิ่งอื่นๆ ซึ่งอาจต้องเสียเงินประมาณ 600 บาท ต่อวันในการพักผ่อนริมชายหาด

14. การเรียนรู้และท่องเที่ยวตามท้องถิ่นอาจเป็นสิ่งที่เอื้อมไม่ถึง

© pxhere
ไม่ว่าประเทศต่างๆ จะเป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวมากแค่ไหนก็ตาม คุณอาจไม่สามารถเรียนรู้สภาพแวดล้อมที่แท้จริงของที่นั่นได้ ในช่วงลาพักร้อนของคุณ เพราะโรงแรมจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้แขกอยู่แต่ในที่พัก ดังนั้นจึงไม่มีอะไรน่าแปลกใจว่าเราต้องจ้างไกด์นำเที่ยว ซึ่งมีราคาแพงอย่างไม่น่าเชื่อ

15. พวกเขาประหยัดไฟฟ้าในห้อง

© wikimedia
เมื่อคุณเข้าในห้องแล้ว ต้องตรวจสอบความเย็นของตู้เย็น เพราะอาจได้อาหารที่ไม่สดใหม่เพราะตู้เย็นไม่เย็น พวกเขาประหยัดไฟฟ้าด้วยวิธีนี้ แต่มันทำให้อาหารและเครื่องดื่มไม่เย็นนี้สิ

16. ไม่ควรนอนลงบนเตียงที่จัดไว้

© needpix
เมื่อคุณเข้าไปในห้องของคุณ ให้เอาผ้าคลุมออกจากเตียงแล้ววางไว้ที่อื่น เป็นการยากที่จะจินตนาการว่ามีคนกี่คนนอนบนผ้าคลุมก่อนที่คุณจะนอนลงบนนั้น เพราะบางโรงแรมซักผ้าคลุมเตียงเพียงเดือนละครั้ง และในโรงแรมบางแห่งซักเพียงปีละ 2 ครั้ง

17. แก้วที่สะอาดแต่ก็ควรล้างอีกครั้ง

© Jerry Redfern / Gettyimages
แก้วในร้านอาหารและห้องพักโรงแรมอาจดูสะอาด แต่ก่อนที่คุณจะย้ายเข้ามาในห้องพวกเขาอาจจะเช็ดพวกมันและนำมันกลับไปวางบนชั้นวาง ดังนั้นก่อนที่คุณจะใช้ควรล้างให้สะอาดอีกครั้ง

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน