เหตุผลที่คนส่วนหนึ่งยอมจ่ายเงินกับสิ่งที่หรูหรา ฟุ่มเฟือย

จากการสำรวจพบว่าผู้คนโดยเฉลี่ยยอมจ่ายค่าอาหาร ที่ราคาแพงกว่าร้านอาหารทั่วไปในร้านอาหารที่ดูหรูหรากว่า ในขณะเดียวกันคนกลุ่มนี้ เมื่อซื้อของชำที่ตลาดกลับต่อราคาพ่อค้าแม่ค้า จากสถิติยังแสดงให้เราเห็นว่าคนที่มีของใช้ฟุ่มเฟือย 1 ใน 5  มักจะมีปัญหาเรื่องการวางแผนการเงินในระยะยาว

เราตัดสินใจที่จะค้นหาว่าอะไรกระตุ้นให้คนกลุ่มนี้มีพฤติกรรมแบบนี้และเราไม่สามารถรอที่จะแบ่งปันสิ่งเหล่านี้กับคุณ! ตามไปอ่านกันได้เลย

1. ด้วยเหตุผลของจิตใต้สำนึก ที่เราไม่ต้องการให้ใครคิดว่าเราแย่

เทคนิคทางจิตวิทยาเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อเราอยู่ในฝูงชน ตัวอย่างเช่นในร้านกาแฟและร้านอาหารราคาแพงคนที่ไปตามร้านเหล่านั้นมักจะให้ทิปกับบริกรอย่างไม่รู้ตัว ทั้งที่ไม่มีกฎ หรือ ระเบียบใดใดบอกไว้ ที่เป็นแบบนี้เพราะค่านิยมหรือ สิ่งที่คุณเคยเห็นหรือได้รับประสบการณ์เหล่านี้มาจากการบอกเล่าหรือผ่านจากการดูสื่อต่าง ๆ มาก่อน ซึ่งนั้นทำให้ภายในจิตใจลึก ๆ ของคุณคิดว่าหากคุณไม่ให้ทิปจะทำให้คนอื่นมองคุณในแง่อื่น ๆ 

2. ผลกระทบอย่างลับๆ

การเป็นนักการตลาดที่ดีทำให้คุณเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ไม่ยาก เพราะเรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับจิตวิทยาของมนุษย์อีกแล้ว หากคุณไม่รู้วิธีการขายปากกาธรรมดาๆในราคา1,000 บาทมันก็ยากที่คุณจะได้รับงานเป็นพนักงานขายจากบริษัทที่มีชื่อเสียง พนักงานขายมีเทคนิคมากมายที่จะทำให้ลูกค้าต้องการซื้อมากขึ้น ซึ่งบางครั้งผู้ขายอาจเสนอบางสิ่งบางอย่างฟรี เพื่อดึงดูดความสนใจของเราและแสดงให้คุณเห็นว่าผลิตภัณฑ์นั้นยอดเยี่ยมเพียงใดผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ ซึ่งนั้นเป็นการกระตุ้นคุณให้อยากได้สินค้าทางอ้อม

3. ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกันจะส่งผลกับการตัดสินใจใช้จ่ายเงินของคุณ คุณจะไม่สังเกตเห็นความแตกต่างของราคาทั้งที่บางครั้งคุณจ่ายเงินแพง ๆ กับของบางอย่างด้วนซ้ำ

หลังจากรับประทานอาหารเย็นในร้านอาหารบริกรจะนำใบเรียกเก็บเงินไปให้กับคุณ อย่างเช่น ค่าอาหารราคา 450 บาท คุณอาจจะจ่ายเงินให้กับพวกเขา 500 บาทโดยไม่ต้องทอน  คุณอาจคิดว่าเงินจำนวนนี้ไม่มายมายอะไรเมื่อเทียบกับค่าอาหารแล้วมันน้อยกว่ามาก

อีกสถานการณ์คือเมื่อคุณไปซื้อผลไม้ 3 กิโลกรัมจากพ่อค้าในราคา 200 บาท แต่คุณกลับไม่อยากจะจ่าย 200 บาท ในทางตรงข้ามคุณกลับพยายามต่อรองสินค้าโดยการขอเพิ่ม หรือลดราคาด้วยซ้ำไป นั้นเป็นเพราะคุณคิดว่าใครใครก็ทำกันและทำออกไปโดยอย่างอัตโนมัติจากการสั่งการของจิตใต้สำนึกนั้นเอง

4. เรารู้สึกผ่อนคลายในสภาพแวดล้อมที่หรูหรา

บางสถานที่ รวมร้านขายเสื้อผ้า ร้านอาหาร และตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ เจ้าของสถานประกอบการเหล่านี้ใช้การออกแบบที่มีราคาสูง ให้ความรู้สึกถึงความหรูหราด้วยเฟอร์นิเจอร์ระดับไฮเอนด์ เพื่อให้เราดื่มด่ำบรรยากาศของความไฮโซ ในสถานที่เช่นนี้มันง่ายที่เราจะ “ลืม” ความกังวลในการใช้จ่ายเงินในอนาคต

5. เราต้องการสร้างความประทับใจให้ผู้คนรอบตัวเรา

การทดลองทางเศรษฐศาสตร์เชิงพฤติกรรมพบว่าถ้าคุณให้ผู้คนเลือกที่จะได้รับ $ 50,000 ในขณะที่คนอื่น ๆ จะได้รับ $ 25,000  หรือจะรับ $ 100,000 แต่คนอื่นได้ $200,000 คนส่วนใหญ่จะเลือกแบบแรก  เพราะคนส่วนใหญ่รู้สึกไม่ดีเมื่อคนอื่น ๆ ได้ดีกว่าตนเอง และในทางกลับกันจากการทดสอบ เราพบข้อเท็จจริงที่ยืนยันได้ว่าบ่อยครั้งที่เรามีแนวโน้มที่จะพยายามสร้างความประทับใจให้กับผู้อื่น  ดังนั้นการจ่ายเงินมากกว่าหรือการใช้ของที่ดูหรูหรา อาจเป็นวิธีหนึ่งในสร้างความน่าสนใจ

6. คนส่วนใหญ่ชอบและยอมจ่ายเงินเพื่อให้มีคนบริการจัดการเรื่องเล็กๆ น้อยให้เรา

มีร้านบางร้านหรือ สถานที่บางที่ในโลกที่มีการปรับราคาค่าใช้บริการให้สูงขึ้น และผู้คนที่มาใช้บริการก็ยินดีจ่ายเงิน กับบริการที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้ ทั้งที่บางเรื่องอาจจะเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยอย่างถือกระเป๋า หรือ เสิ้อคลุมให้ แต่นั้นไม่ใช้ประเด็นสำคัญ สิ่งสำคัญที่เราอยากจะบอกคือหากคุณเป็นคนทำธุรกิจการเพิ่มบริการอีก เล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อทำให้ลูกค้าสะดวสบายขึ้นอาจจะเป็นที่มาของรายได้ที่เพิ่มคุณในธุรกิจของคุณก็ได้ ดังนั้นอย่ามองข้ามเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ 

เพื่อนๆเคยสังเกตไหมว่าคุณใช้เงินไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็นหรือเปล่า? คุณคิดว่าการซื้อของชิ้นไหนที่ดูไร้ความหมายที่สุดในชีวิต?

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน