เรื่องราวความโป๊ะแตกที่หนักหน่วงที่สุดที่เคยจับได้

ถ้าให้เล่าถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งมาถึงปัจจุบันพวกเราหลายคนก็คงจะมีเรื่องราวต่างๆมากมายที่เรียกได้ว่าเหล้ากันเป็นวันวันก็ยังไม่จบแต่ถ้าเราอยากจะให้เพื่อนเพื่อนลองบอกเรื่องราวความลับที่เคยพยายามปกปิดแต่แล้วก็ต้องถูกเปิดเผยออกมาได้แล้วละก็คงจะมีเรื่อง อาจจะเล่าให้ฟังเป็นประสบการณ์กับผู้อื่นอย่างเป็นแน่แท้ เพราะนั่นคือประสบการณ์ความสนุกอย่างหนึ่งของคุณนั่นเอง

ก็มีเรื่องราวของเพื่อนเพื่อนของเราบางคนที่ถูกเรียกได้ว่าโป๊ะแตกกันมาแล้วและอยากจะให้เพื่อนเพื่อนคนอื่นๆได้ฟังเพื่อเอาไว้วันข้างหน้าจะได้ไม่เดินรอยตามซ้ำยังไงละ

เคยทำมาแล้ว
เรื่องนี้เป็นเรื่องของเพื่อนสนิทเราตั้งแต่มัธยมจนตอนนี้เค้าแต่งงานได้หลายปีแล้วและกำลังอยากจะมีลูกซึ่งก็ไม่มีสักทีหลายคนแนะนำวิธีการต่างๆมากมาย แต่ก็ยังไม่เห็นผลจนกระทั่งในระหว่างทีพวกเรากำลังนั่งทานข้าวในงานเลี้ยงเพื่อนเก่า คุณภรรยาของเพื่อนก็ปรึกษากับพวกเราว่าอยากจะลองไปตรวจที่โรงพยาบาลเพื่อหาสาเหตุ แต่ทันทีที่เริ่มคุยกันเรื่องนี้เพื่อนชายของเราก็ดันทำเก่ง โดยเล่าว่าเค้าไม่มีปัญหาแน่แน่เพราะเค้าเคยผ่านการมีลูกกับแฟนเก่ามาแล้ว เท่านั้นแหละทุกอย่างเงียบสนิทเพราะมันเป็นเรื่องที่เพื่อนของเราพยายามปิดบังแฟนมันอยู่ และหลังจากนั้นคุณภรรยาของเพื่อนก็เดินออกไปจากโต๊ะทันที (โถ่พ่อคุณปิดมาตั้งนาน แล้วก็มาหลุดง่ายๆแบบนี้) ขอให้รอดนะเพื่อน

คิดมานานแล้ว
เรามีเพื่อนสนิทที่เป็นผู้หญิงที่ดูห้าวๆ อยู่หนึ่งคนที่เรียกได้ว่า ไปไหนไปกันได้หมดไม่ว่าจะท่องเที่ยวในรูปแบบไหนปีนเขาหรือดำน้ำ เธอก็ไปกับเราเสมอ ซึ่งพวกเราทั้งคู่ก็โสดและสนิทกันแบบนี้มาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย จนมาระยะหลังจากที่เริ่มทำงานได้ไม่นานความรู้สึกของเราก็ค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปซึ่งนั้นอาจจะเป็นเพราะเราเริ่มโตขึ้นและเริ่มมองหาใครสักคนที่จะอยู่ร่วมกันในอนาคต และก็กลายเป็นว่าเราคิดว่าเราตกหลุมรักเพื่อนสนิทของเราเข้าให้แล้ว ซึ่งมันยากมากที่จะบอกเรื่องนี้เพราะเราคบกันแบบเพื่อนมานานมาก จนกระทั้งวันหนึ่งเราแวะเข้าไปหยิบหนังสือที่เราจำเป็นต้องใช้ในการทำงานจากบ้านของเธอซึ่งตอนนั้นเธอไม่อยู่ที่บ้าน และตอนที่เราเข้าไปหยิบหนังสือเล่มนั้นเราก็พบกล่องบางอย่างวางแอบอยู่บนชั้น ซึ่งพอเปิดดูก็พบว่าในนั้นเป็นภาพถ่ายของพวกเราในตอนที่ไปเที่ยวตั้งแต่ช่วงเรียนมหาวิทยาลัย จนมาถึงปัจจุบันกับสมุดโน๊ตเล็กที่เขียนบอกความในใจของเธอ ซึ่งเราก็เอ็ะใจอยู่นิดๆว่ามันเหมือนจะจงใจไปสักหน่อย เราก็เลยแกล้งทำเป็นไม่เห็นกล่องนั้นและเก็บมันไว้ที่เดิม แล้วคืนวันนั้นเมื่อเธอโทรศัพท์มาคุยและพยายามถามเราถึงเรื่องหนังสือและของบนชั้น เราก็แน่ใจเลยว่านั้นคือความจงใจที่จะบอกถึงความรู้สึกที่เธอมีกับเราแบบอ้อม ซึ่งมันทำให้เรารู้สึกดีมากแต่เราก็แกล้งทำเป็นไม่รู้และ อีกไม่นานเราก็เป็นฝ่ายพูดขอเธอเป็นแฟน

วันงานเราต้องสวยทั้งกลุ่ม
พวกเราสามสาวเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ตอนที่เราเรียนมหาวิทยาลัยจนกระทั้งตอนนี้พวกเราทำงานกันมาได้หลายปีแล้ว และก็ถึงเวลาที่เพื่อนของเราคนหนึ่งในรุ่นจะแต่งงานแล้ว และเพื่อให้พวกเราทั้งสามคนดูดีในวันสำคัญนั้นพวกเราก็เลยตกลงกันว่าจะงดมื้อเย็นในช่วงอาทิตย์สุดท้ายก่อนจะถึงวันงาน และเพื่อเป็นกำลังใจให้กันและกันพวกเราก็เลยตกลงกันว่าจะย้ายมานอนบ้านเดี่ยวกัน จะได้ช่วยกันดูแล ซึ่งในคืนแรกทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี แต่ในระหว่างคืนที่สองปรากฏว่าในช่วงดึกของคืนนั้น ในจังหวะที่เรากำลังจะไปเข้าห้องน้ำตอนกลางดึก ก็เห็นแสงไฟสลัวๆมากจากทางหลังบ้าน พอลองไปดูเราก็เห็นเพื่อนอีกสองคนกำลังหยิบของในตู้เย็นมาทาน สรุปว่าคืนนั้นเลยกลายเป็นปราตี้อาหารมื้อค่ำของพวกเราสามคนซะงั้น แต่พวกเราก็ตกลงกันว่าจะออกไปวิ่งตอนเช้าเพื่อเป็นการออกกำลังเพิ่มที่ทานอาหารเกินเวลา (นี้ถ้าไม่ตื่นมาเข้าห้องน้ำคงนั่งหิวอยู่คนเดียวแน่ๆ)

ไม่กินผักทำไมไม่บอก
เราเพิ่งเริ่มคบกับแฟนได้ไม่นาน และพวกเราอยู่ในช่วงที่กำลังปรับตัวเข้าหากันซึ่งมันก็มีเรื่องราวต่าง ๆ มากมายที่ต้องปรับทั้งเรื่องของการใช้เวลาในวันหยุดอย่างการไปท่องเที่ยวหรือการไปชมกีฬาที่พวกเราชอบซึ่งมันแน่นอนบางอย่างคนหนึ่งชอบและอีกคนหนึ่งไม่ชอบแต่พวกเราก็เข้าใจและสามารถตกลงกันได้ว่าจะพลัดกันไปดูและหากมีแมท์ที่สำคัญของการแข่งที่ตรงกันเราก็สามารถปล่อยให้ต่างฝ่ายต่างไปเชียร์ทีมของตนเองได้ แต่มีอยู่วันหนึ่งตอนที่เราทำอาหารมื้อเย็นทานกันและวันนั้น พวกเราลองทำพลาสต้าและซุปฟักทองเป็นอาหารเย็น ซึ่งมันเป็นการลองทำอาหารครั้งแรกของฉัน ซึ่งคุณแฟนก็ทานอย่างปกติถึงจะน้อยกว่าที่เราหวังไว้แต่เค้าก็ทานมันได้ แต่ในจังหวะที่แฟนของเรากำลังรับหน้าที่ล้างจานอยู่เค้าทำซอสหกใส่เสื้อก็เลย ขอให้เราไปหยิบเสื้อยืดในรถให้เพื่อเปลี่ยน แต่ตอนที่เราไปถึงรถเราก็พบกับถุงอาหารจากร้านฟาสต์ฟู้ดซึ่งของในมีแต่ห่ออาหารที่ทานเสร็จแล้ว ซึ่งพอมาถามเค้าก็ยอมบอกว่าเค้าไม่ขอบทานฟักทองแต่ไม่ก็ไม่อยากให้เราเป็นกังวลเพราะนั้นเป็นการทำอาหารครั้งแรก เค้าก็เลยทานอย่างอื่นรองท้องมาก่อนเท่านั้นเองเพราะกลัวว่าจะหิว

แมวไม่อยู่หนูร่าเริง
พี่ชายของฉันมักจะปฏิเสธที่จะทำงานบ้าน ครั้งหนึ่งฉันกับแม่ออกไปข้างนอกทั้งวันและหลังจากกลับจากการช้อปปิ้ง เราก็พบว่าพี่ชายกำลังถูพื้นบ้านอยู่ นั่นทำให้แม่ตกตะลึงมาก และยิ่งตกใจมากขึ้น เมื่อเข้าไปในครัวเพราะสิ่งที่เห็นคือครัวก็สะอาดเหมือนใหม่เลย แต่พวกเรากับว่าซอสต่าง ๆ มันไปกองอยู่ในถังขยะซะแล้ว ซึ่งคุณพี่ชายก็เดินมาแล้วบอกกับพวกเราว่าในระหว่างที่เราไม่อยู่เค้าชวนเพื่อนมาทานข้าวและตอนนั้นเค้าก็นึกสนุกก็เลยเอาซอสมะเขือเทศบีบใส่เพื่อนและหลังจากนั้นพวกเค้าก็เล่นเอาซอสสาดใส่กันและวิ่งไปรอบบ้าน ซึ่งเค้าและเพื่อนต้องเหนื่อยกันมากกว่าจะทำความสะอาดเรียบร้อย

ขนาดนี้ยังเจอได้ไง
เราจับได้ว่าแฟนของเรามีคนอื่น ด้วยความบังเอิญสมากมากเพราะตอนที่เรานอนเล่นอยู่บนโซฟาและหันหน้าไปทางกำแพง แล้วบังเอิญสังเกตเห็นรูเล็กๆในวอลเปเปอร์ซึ่งมีเทปกาวใสปิดอยู่ เราก็เลยลองใช้เล็บจิกลงไปแล้วก็พบมันเป็นช่องอยู่ด้านหลังซึ่งใหญ่พอจะใส่ของเล็กๆได้ และเราก็พบกับโทรศัพท์อีกเครื่องหนึ่ง ซึ่งเมื่อลองเปิดเครื่องขึ้นมาเราก็พบข้อความที่คุยกันของแฟนเรากับใครอีกคน เท่านั้นแหละเราก็ไม่กลับไปและไม่คุยกับเค้าอีกเลย

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน