นักจิตวิทยาอธิบายว่าทำไมควรเลิกคิส..ลูกๆ ที่ริมฝีปาก

พวกเราคงได้เคยเห็นภาพที่ Victoria Beckham ที่โพสต์รูปเธอกำลังคิสลูกสาว “Harper” ที่ริมฝีปาก เป็นการอวยพรวันเกิดให้มีความสุข ซึ่งมีทั้งฝ่ายที่เห็นว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับ และบางฝ่ายก็รับไม่ได้ ทางการแพทย์กล่าวว่าเด็กๆ จะต้องรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่ออยู่ในของครอบครัว แต่การคิสที่ริมฝีปากไม่ใช่ความคิดที่ดีในการแสดงความรักของพ่อแม่

พวกเราพยายามทำความเข้าใจว่าทำไมการแสดงความรักแบบนี้ถึงได้ถูกพูดถึงกันอย่างถึงพริกถึงขิงและนักจิตวิทยาของเด็กๆ มีความเห็นอย่างไร

ซึ่งเมื่อได้ฟังเหตุผลแล้วมันเปลี่ยนความเข้าใจของของเราและอีกหลาย ๆ คน

© khloekardashian / instagram
ริมฝีปากและปากเป็นพื้นที่ส่วนตัวของร่างกายเด็ก ตามที่นักจิตวิทยา Charlotte Reznick อธิบาย เมื่อคุณคิสเด็กที่ริมฝีปากเท่ากับคุณแสดงให้พวกเขาเห็นว่าไม่มีขอบเขตของร่างกายของพวกเขา และมีใครบางคนสามารถรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ของพวกเขาจนเป็นเรื่องธรรมดาๆ

และนั่นยังรวมถึงการห่อตัวแน่นๆ การบังคับป้อนอาหาร และการจักกะจี้แรงๆ ดังนั้นผู้ปกครองที่ทำอย่างนี้อาจเพิ่มความเสี่ยงของลูกของพวกเขาที่จะมีอาการ ” “วิกติม ซินโดรม” ด้วยการไม่สามารถ”ปฏิเสธ” และรู้จักการขอบเขตที่คนอื่นเข้าถึงตนเองได้

มันไม่ถูกสุขอนามัย

© Greg Rutherford / instagram
แพทย์และทันตแพทย์เตือนว่ามีเชื้อจุลินทรีย์จำนวนมากในปากของเราที่อาจไม่ติดเชื้อในผู้ใหญ่ แต่สามารถแพร่เชื้อสู่เด็กและเป็นอันตรายต่อพวกเขาอย่างมาก เนื่องจากเด็กมีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอกว่า

Charlotte Reznick อธิบายว่า พวกเขาอาจติดเชื้อที่เป็นอันตรายผ่านทางน้ำลาย

เด็กอาจเริ่มจูบคนอื่นบนริมฝีปากเป็นการแสดงออกถึงความเห็นอกเห็นใจ

เด็กอาจเริ่มทำพฤติกรรมเช่นเดียวกับที่คุณสอนพวกเขาที่บ้าน แต่อยู่นอกครอบครัว – พวกเขาสัมผัสเด็กหรือผู้ใหญ่คนอื่นๆ ที่ริมฝีปากเพื่อแสดงความเห็นใจ นักจิตวิทยาชี้ให้เห็นว่าแม้ว่ามันจะเป็นท่าทางที่ไร้เดียงสาของพ่อแม่ และเด็กๆ ก็เรียนรู้สิ่งต่างๆ ด้วยการเลียนแบบ ดังนั้นพวกเขาอาจพยายามทำท่าทางแบบเดียวกันนี้กับผู้อื่นโดยไม่ทราบถึงความหมายที่ลึกซึ้งของท่าทางนี้ นี่คือเหตุผลที่เธอแนะนำให้หอมแก้มหรือหน้าผากเท่านั้น

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน