6 เรื่องงานบ้านจากบ้านที่พิถีพิถันมากกว่าใครๆ

เพื่อนเพื่อนและพวกเราเพลินเพลินส่วนหนึ่งเป็นคนกระตือรีอร้นมากมากคือแบบว่าพร้อมที่จะทำสิ่งต่างๆด้วยตัวเองอยู่เสมอเสมอซึ่งนั้นก็เป็นสิ่งที่ดีก็นั้นแสดงให้เห็นว่าเพื่อนของเรากลุ่มนั้นเป็นคนที่สามารถดูแลและสนุกที่ได้ทำสิ่งต่าง ๆ แต่ในจำนวนนั้นก็ยังมีอีกส่วนหนึ่งซึ่งนอกจากจะดูแลตัวเองแล้วยังขยับขึ้นมาช่วยดูแลคนอื่นๆเพิ่มอีกซึ่งต้องบอกเลยว่าเพื่อนแบบนี้ช่างเหมาะที่จะเป็นเพื่อนสนิทของพวกเราอย่างยิ่งเลยเพราะการมีเพื่อดีดีแบบนี้สักคนมันทำให้เราเหมือนมีตัวช่วยในเรื่องต่างๆ อีกมายมากแต่เราก็ไม่ได้มองว่าเพื่อนจะต้องมาทำให้เราทุกอย่างหรือทุกครั้งที่เราขอหรอกนะเพราะพวกเราเพลินเพลินเองก็ยังคิดว่าเพื่อนที่ดีเราก็ต้องดูแลให้ดีเหมือนกันดังนั้นยิ่งมีคนดีดีแบบนี้อยู่ใกล้ๆเราก็ยิ่งต้องดูแลและให้ความรักกับเค้าเหมือนหรืออาจจะมากกว่าที่พวกเค้าได้ให้กับเราสิเนอะ ออกนอกเรื่องไปเยอะแล้ววนกลับมาคุยถึงเรื่องที่เราอยากจะบอกกับเพื่อนเพื่อนดีกว่านั้นก็คือวันนี้เราได้เอาเรื่องเล่าสั้นๆที่เหล่าเพื่อนเพื่อนของเราที่เป็นแม่บ้านนั้นส่งต่อเรื่องเล่าซึ่งบอกถึงระเบียบที่ต้องเรียกว่าเข้มมากมากของบ้านต่างๆที่พวกเธอได้ไปสัมผัสมา

พวกเราเพลินเพลินพอได้อ่านแล้วก็เข้าใจได้เลยว่าการทำแบบนี้นั้นมันช่างดูเป็ะมากมากเลยแล้วถ้าเราได้ลองไปอยู่ในบ้านแบบนี้บ้างพวกเราจะสะดวกสบายขึ้นขนาดไหนกันนะเนี้ยเพราะสิ่งที่เราได้อ่านนั้นมันบ่งบอกได้เลยว่าสิ่งเล็กๆน้อยๆต่างๆนั้นจะมีผู้ช่วยค่อยดูแลให้แบบเนี้ยบสุดๆไปเลยนั้นเอง

การใช้เครื่องมือทำความสะอาดมีช่วงเวลาที่ใช้ได้และใช้ไม่ได้ด้วยนะ
© DetagePhotos.com
เพื่อนของเราเล่าว่าในบ้านหลังใหญ่ที่เธอเคยไปอยู่เพื่อเป็นแม่บ้านให้นั้นมีอุปกรณ์ทันสมัยสำหรับช่วยทำความสะอาดอยู่อย่างครบครันเรียกได้ว่าจะใช้อะไรก็แค่บอกเท่านั้นแหละแต่ในบรรดาเครื่องมือทันสมัยเหล่านั้นมันก็ยังมีอุปกรณ์พื้นฐานอย่างไม้กวาดหรือไม่ถูพื้นธรรมดาอยู่ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นเลยละนั้นก็เพราะวว่า ก่อนเวลา 10.00 น.และหากจำเป็นต้องทำความสะอาดละก็พนักงานต้องไม่ใช้เครื่องดูดฝุ่นเพื่อทำความสะอาด หรืออุปกรณ์ใดใดก็แล้วแต่ที่ทำให้เกิดเสียงรบกวนดังนั้นพวกเขาจึงต้องใช้เจ้าไม้กวาดธรรมดานี้แหละเพื่อทำความสะอาด ที่เป็นแบบนั้นก็เพื่อไม่ให้เสียงไปรบกวนเจ้าของบ้านยังไงละ

การเดินขึ้นลงบันไดยังมีเส้นทางของแต่ละคน
เพื่อความเรียบร้อยและสะดวกในการขึ้นลงระหว่างชั้นสำหรับพนักงานด้วยกันเองในบ้านที่มีบันไดกว้างพอที่จะเดินสวนกันได้นั้นมีการกำหนดทิศทางการเดินขึ้นลงสำหรับเจ้าของบ้านและเหล่าแม่บ้านพ่อบ้านด้วยนะโดยเจ้าบ้านจะเดินบริเวณกลางบันไดและให้คนอื่นๆหยุดยืนอยู่บริเวณข้างๆไม่เดินสวนกัน และในกรณีปรกติก็จะเดินขึ้นลงโดยชิดขอบทางด้านซ้ายมือ (ที่เดินชิดซ้ายเพราะพวกเราส่วนใหญ่นั้นถนัดขวาดังนั้นเวลาที่ต้องถือของและขึ้นลงบันไดจะได้สามารถใช้มือข้างที่ถนัดได้โดยไม่ติดขอบผนังหรือราวบันไดไงละ)

การเสริฟกาแฟก็ต้องทำแบบมีความปรานีตสักหน่อย
© DetagePhotos.com
หลักการง่ายๆเลยนั้นก็คือต้องทำให้ทุกอย่างดูดีและพร้อมใช้งานนั้นเองดังนั้นการเสริฟกาแฟเราก็จะไม่นำกาของกาแฟมาเสริฟเพราะหลายเหตุผล เช่นอย่างแรกเลยคือกาต้มกาแฟนั้นมันไม่ช่วยรักษาอุณหภูมิและคงไม่ดีแน่ที่ต้องค่อยอุ่นให้ร้อนโดยไม่รู้ว่าจะเสริฟมันเมื่อไหร่ดังนั้นการเปลี่ยนไปใส่ภาชนะที่สามารถรักษาอุณหภูมิได้จะช่วยทำให้กาแฟยังอุ่นอยู่และยังพร้อมเสริฟได้ตลอดเวลาอีกด้วย และอย่างที่สองคือในกรณีที่มีแขกมาทานอาหารกาแฟเพียงหนึ่งกาน่าจะไม่เพียงพอสำหรับความต้องการซึ่งถ้าเราเตรียมภาชนะหรือเหยือกเก็บอุณหภูมิไว้เราก็สามารถที่จะต้มกาแฟไว้ให้พอเพียงได้ไม่ยากเลย

มีผู้ช่วยในการกำหนดกิจกรรมต่างๆ
© AP / EAST News
สำหรับแม่บ้านที่ต้องรับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงด้วยก็ฟังดูแล้วเข้าใจได้เพราะหลายหลายบ้านก็เป็นแบบนั้น แต่สำหรับบ้างบ้านนั้นให้ความสำคัญกับหน้าที่อย่างมากด้วยการแยกหน้าที่นี้ออกมาต่างหากเลยเพราะนอกจากจะต้องดูแลเหล่าเด็กแล้วในแต่ละวันยังต้องคำนึงถึงการเรียนรู้ต่างๆรวมไปถึงการวางแผนกิจกรรมต่างๆที่ต้องทำในแต่ละวันด้วยต้องเรียกว่าเหมือนมีผู้ชำนาญในการวางแผนกิจกรรมดีดีต่าง ๆ นั้นเองแหละ

อีกหนึ่งความสามารถที่ต้องบอกเลยว่าไม่ได้มีระบุไว้แต่พอเข้าไปทำงานแล้วจะทำกันได้เองนั้นก็คือการยืนในตำแหน่งที่เหมาะสมอยู่เสมอ
เพราะต้องดูแลเจ้าของบ้านให้สะดวกสบายต่อการเรียกดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องยืนในบริเวณใกล้แต่ก็ต้องค่อยสังเกตุด้วยว่าหากมีการถ่ายภาพของเหล่าเจ้าของบ้านพวกเราก็ต้องหาจุดที่ไม่เข้าไปอยู่ในภาพนั้นๆ ด้วยถึงได้บอกว่ามันเป็นความสามารถในการยืนในจุดที่เหมาะสมไงละ

โบนัส: แบบทดสอบที่คาดไม่ถึง
© DetagePhotos.com
เคยมีเพื่อนของเราท่านหนึ่กล่าวไว้ว่าพลังแห่งความใส่ใจและช่างสักเกตุหรือสิ่งที่ทำให้เกิดสิ่งใหม่ๆและการสร้างสรรค์ แต่สำหรับหน้าที่แม่บ้านแล้วละก็ต้องบอกเลยว่ามันคือความสามารถที่ฝึกฝนและทำให้เราก้าวผ่านระดับของการดูแลจากระดับหนึ่งไปอีกระดับหนึ่งเลยทีเดียวเปรียบเหมือนการทำความสะอาดภายในบ้านกับโรงแรมระดับต้นๆ ถึงขนาดที่เรียกได้ว่าเคยมีการเล่าถึงเรื่องการสัมภาษณ์งานโดยการวางบางสิ่งบางอย่างไว้ในจุดที่อาจจะสังเกตุได้ไม่ยากเพื่อดูว่าผู้สมัครจะทำเช่นไร อย่างไรก็ตามจากคนจำนวนมากมีเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่จะสังเกตเห็นและมีเพียงหนึ่งหรือสองเท่านั้นที่จะหยิบมันขึ้นมาเพื่อนำไปทิ้งที่อื่น

แล้วเพื่อนเพื่อนละอ่านแล้วคงเข้าใจแล้วสินะว่าในบทบาทและหน้าที่ของแต่ละคนแต่ละอย่างนั้นไม่ได้ดูง่ายเหมือนอย่างที่เราเห็นหรืออย่างที่เราคิดเพราะในความเป็นมืออาชีพเหล่านั้นมันต้องผ่านสิ่งต่าง ๆ ที่มีแต่เค้าหรือคนที่ได้ลองเท่านั้นที่จะรู้ซึ่งนั้นเองที่เป็นสิ่งที่เราอยากจะบอกกับเพื่อนเพื่อนว่าทุกคนต่างมีสิ่งที่ทำได้และทำได้ดีดังนั้นเมื่อเรามองเห็นใครที่อาจจะทำบางเรื่องออกมาได้ไม่ค่อยดีนักก็เข้าไปช่วยเหลือกันจะดีกว่าเพราะวันข้างหน้าเมื่อเราบังเอิญเจอเรื่องที่เราอาจจะทำไม่ได้อาจจะมีใครสักคนยื่นมือมาช่วยเราแบบที่เราทำก็ได้นะ
เรียบเรียงโดย เพลินเพลิน